โบกรถ ที่ อ.ท่าศาลา นครฯ


อะไรจะดีไปกว่าการยิ้มล่ะ

         

        ฉันมาถึงสุรินทร์เช้านี้เอง    การไปเยี่ยมเพื่อนที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ครั้งนี้ประทับใจมากตั้งแต่นาทีแรกที่ลงจากรถทัวร์

       เรากับเพื่อนบอกน้องเจ้าหน้าที่รถไปแล้วว่า เราจะลงที่หน้า ม.วลัยลักษณ์ แต่น้องเขาหลับและเราก็ชะล่าใจ รถเลยพาเราเลยไป  5 กิโล ถึงทางแยกเข้า ท่าศาลา ตอนตีห้าครึ่ง จริงๆบอกให้น้องแป้นที่ทำงานในวลัยลักษณ์มารอหน้ามหาลัย น้องก็ลืมเอาโทรศัพท์มาด้วยก็ติดต่อกันไม่ได้ และน้องก็รอ ต่างคนต่างรอ...
        เราสองคนข้ามฝั่งมา ว่าจะรอรถประจำทาง แต่ มันไม่สว่างดี อย่างนี้ คงนานกว่าจะมีรถมา

         ฉันก็เลยจะโบกรถ ใช้วิชาสมัยเรียนปัตตานี มองหารถเห็นเป้าหมาย แล้วก้าวไปข้างหน้า อย่างมั่นใจ โบกมือไหวๆ  ส่งกระแสจิตคะ บอกว่า

       จอดรับ เราหน่อยซิ  

        รถปิคอัพบรรทุกของเต็มท้ายรถ    จอดจริงๆ  จอดแบบไม่ลังเล ...ไม่น่าเชื่อ   ภาคใต้  ยังเอื้ออาทรต่อคนโบกรถเหมือนเดิม     มองกันไม่เห็นขนาดนี้ และฉันก็มาซอยผมสั้นกุดแบบผู้ชายอีก สองสาวแบกเป้คนละใบ....เราวิ่งไปคุยกับคนขับอย่างกระหืดกระหอบ รบกวนให้ไปส่งเราที่ หน้า มหาลัยวลัยลักษณ์ด้วย จากนั้นเราก็ตะกาย ปืนขึ้นกะบะท้ายรถ โต้ลมชมฟ้า คุยกันเองระลึกความหลังกันสองคนอย่างมีความสุข

        ถึงหน้ามหาวิทยาลัย เราก็รีบปีนลงจากรถ ไปกราบงามๆกับพี่ขับรถ พี่ขับรถเห็นหน้าเราชัดเจนก็ยิ้มๆหัวเราะๆ...อะไรจะดีไปกว่าการยิ้มล่ะ

        ากนั้น ก็มานั่งรอที่ศาลา รอนานก็เลยนอนรอเลยคะ ต่างคนต่างนอนกันคนละเสา อากาศก็เย็นๆสบายดี พอดีมีรถเก๋งผ่านมาและจะผ่านไปด้วย ฉันลุกขึ้น น้องคนขับรถก็จำได้ จอดรถ ก็วิ่งกันมากอดกันใหญ่.....แฮ่ รอดตาย......

 

คำสำคัญ (Tags): #เยี่ยมเพื่อน
หมายเลขบันทึก: 77880เขียนเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2007 08:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 พฤษภาคม 2012 19:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท