ผศ.ดร.เลขา ปิยะอัจฉริยะ คือ คนดีของฉัน อีกทั้งเป็นคนสำคัญของประเทศไทยคนหนึ่ง ปัจจุบันท่านทำงานหลายหน้าที่ เป็นทั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ อนุกรรมการของคณะอนุกรรมการสภาการศึกษา คณะที่ 5 และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผล การจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ
ประวัติของท่าน ท่านจบการศึกษาปริญญาตรี ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทและเอกที่ The University of Alberta ประเทศแคนาดา ประวัติการทำงาน ท่านจบปริญญาตรีแล้วก็ทำงานเป็นอาจารย์สอนหนังสือที่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 7 ปี จากนั้นท่านได้ทำงานประจำภาควิชาประถมศึกษา คณะครุศาสตร์ ในตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ เป็นเวลา 8 ปี และทำงานกับองค์กรทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) 21 ปี หลังจากนั้นมาทำงานที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติและธนาคารพัฒนาเอเชียในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ อีก 3 ปี และทำงานร่วมกับกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย และ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีก 3 ปี ท่านมีความชำนาญพิเศษ หลายสาขามาก ดังต่อไปนี้ การปฏิรูปการเรียนรู้ การพัฒนาเด็กปฐมวัย การปฐมวัยศึกษา การประถมศึกษา การพัฒนาสตรี และการพัฒนาชุมชน นอกจากนี้ท่านยังมีประสบการณ์หลากหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องการบริหารแผนงาน (ช่วงที่ท่านทำงานที่องค์กร UNICEF) และการบริหารงานวิจัย (ในระหว่างเป็นผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการอิสระ) รวมทั้งการมีผลงานวิชาการ คือ หนังสือ เรื่องแนวทางการวิจัย ปฏิบัติการ: โรงเรียนปฏิรูปการเรียนรู้ เพื่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และ รายงานวิจัย สถานภาพการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ในโรงเรียนนำร่อง : บทเรียนและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย และ การวิจัยและพัฒนารูปแบบการปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งโรงเรียน และยังได้รับรางวัล งานวิจัยเด่นสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ปี 2547 : การวิจัยและพัฒนา รูปแบบการปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งโรงเรียน เพียงเท่านี้ก็บอกได้แล้วว่าท่านเป็นบุคคลที่สำคัญในแวดวงการศึกษาและยังเป็นกำลังสำคัญของชาติในการพัฒนาคนของวงการศึกษา หลังจากทีท่านผันตัวเองมาทำงานวิจัย ตั้งแต่ปี 2545-2547 เมื่อจบโครงการวิจัยฯ แล้ว....ท่านยังทำงานอย่างไม่หยุดนิ่ง แม้ท่านจะมีอายุมากแล้ว.....แต่ไฟในการทำงานยังลุกโชนอยู่.....ขณะนี้ท่านก็ยังทำงานให้กับวงการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำงานอีกชิ้นซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากงานวิจัยปี 47 คือ โครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรทางการศึกษาด้วยการจัดการความรู้ ท่านทำหน้าที่เป็นหนึ่งในหัวหน้าทีมนักวิจัย ( อีกท่านคือ ดร. สุวัฒน์ เงินฉ่ำ)...ซึ่งฉันได้รู้จักท่านก็เพราะงานวิจัยโครงการวิจัยและพัฒนาฯ...นี้แหละคะ ที่ชื่นชอบและประทับใจ ก็เพราะเวลาพูดคุยกับท่าน...พบว่าท่านให้แง่มุมที่น่าสนใจ ชัดเจน ตรงประเด็นและทำงานเพื่อมวลชลอย่างแท้จริง ...ท่านเสียสละเวลาส่วนตัวให้กับการทำงานของส่วนรวม และเพื่อการพัฒนาของคนในแวดวงการศึกษา (ทั้งๆ ที่ท่านก็มีอายุมากพอสมควร) และเห็นได้จากการทำงานในโครงการวิจัยและพัฒนาฯ ฉันพบว่า งานวิจัยนี้มีการทำงานที่เป็นรูปแบบชัดเจน และเน้นการให้ความสำคัญในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของคนทำงานในแวดวงการศึกษา ซึ่งขั้นตอนการทำงานแต่ละขั้นตอน ท่านและทีมงานต้องลงไปกำกับ ดูแล ตรวจสอบ พูดคุย กับผู้เกี่ยวข้องตลอดเวลาและต่อเนื่อง...และในบางครั้งการเดินทางอาจจะต้องเจ็บตัวบ้าง...เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้ฉันได้ทราบข่าวว่าท่านประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ในระหว่างเดินทางไปติดตามความคืบหน้าในงานโครงการวิจัยนี้ แต่โชคดีที่ท่านได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย....คนดีผีคุ้มคะ...ตอนที่ทราบข่าวครั้งแรกตกใจเหมือนกันและก็เป็นห่วงท่าน....ขอให้ท่านหายไวๆ คะ...เพื่อทำงานให้กับบ้านเมืองของเราต่อไป.... และนี่คือคำคมที่ท่านได้เคยกล่าวไว้หลังจากที่ท่านได้สัมผัสเครื่องมือการจัดการความรู้จากการเป็นผู้ปฏิบัติในโครงการวิจัยและพัฒนาฯ · KM ทำให้คนเห็นมิติของวัฒนธรรมใหม่ คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสแสดงความสามารถ · Tacit Knowledge คือ ขุมทรัพย์ในตนนั่นเอง ซึ่งมีอยู่ในทุกคน ทุกคนมีคุณค่า จ๊ะจ๋า สคส. (ฉันทลักษณ์ อาจหาญ)