ท่านเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช ท่านสุทิน ศรีเผด็จ ได้บอกผมไว้ล่วงหน้าหลายวันว่า วันที่ 9 ก.พ.50 ให้ไปประชุมกับท่านด้วย ที่ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัด ผมเรียนถามท่านว่ามีใครไปด้วยบ้าง ท่านบอกว่ามีพี่เกรียงไกร (เกรียงไกร เลขาพันธ์) ผมก็คาดเดาเอาเองว่าน่าจะคุยเรื่อง KM แก้จนเมืองนครแน่ ๆ และวันที่ 8 ก.พ.50 ตอนเลิกงานท่านก็ย้ำกับผมอีกครั้ง
ช่วงวันที่ 9 ก.พ.50 ผมเดินทางไปที่ศาลากลาง เมื่อไปถึงพบว่าท่านเกษตรจังหวัดท่านถึงก่อนแล้ว สักพักเจอน้องเป้าจาก กศน.จังหวัด ทักทายกันและส่งเอกสารให้ผม ผมรู้จากเอกสารที่น้องเป้าให้ผมครับว่าวันนี้เป็นการพูดคุย วงเรียนรู้ "คุณเอื้อ"
ท่านผู้ว่า ฯ วิชม ทองสงค์ เดินมาหน้าห้องและบอกเชิญทุกคนไปที่ห้องรับรอง และท่านก็เริ่มพูดคุย ในเรื่อง เกี่ยวกับการเดินทัพแก้จนเมืองนครที่จะดำเนินการต่อไปใน ปี 50 ในห้องประชุมผมทราบว่าผมจะได้พบ กับ อาจารย์ ภีม ภคเมธาวี จาก ม.วลัยลักษณ์ด้วย แต่ท่านติดภารกิจอยู่ยังเดินทางมาไม่ถึง
ท่านผู้ว่าฯ เร่ิมพูดคุยทุกคนตั้งใจฟังท่าน ผมเองนั้นชอบที่สุดที่จะได้ฟังท่านผู้ว่า ฯ พูด วันนั้นท่านพูดถึงเรื่อง การสร้างชุมชนอินทรีย์ ทำให้เข้าใจอะไร ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะ "เศรษฐกิจพอเพียง " ว่าคืออะไร และจะไปสู่เป้าหมายได้อย่างไร ท่านอธิบายว่า "เศรษฐกิจพอเพียง" เป็นปรัชญา การปฏิบัติไปสู่เป้าหมายนี้ของชุมชนคือต้องจัดการเศรษฐกิจชุมชน เศรษฐกิจชุมชน คือตัวปฏิบัติ เพราะเศรษฐกิจชุมชนเป็นองค์รวมทุกเรื่องของชุมชน และหลาย ๆ เรื่องที่ท่านพูดให้ฟัง ผมนั่งนึกในใจว่า "วันนี้โชคดีมาก ๆ ที่ได้มาฟังท่านพูด" ทำให้คิดลู่ทางออกอีกหลาย ๆ อย่าง ทั้งในการทำงาน และการดำรงชีวิต
สักพัก อาจารย์ ภีม ก็เข้ามาในวงเรียนรู้ ท่านผู้ว่า ฯ ได้อยู่แลกเปลี่ยนกับวงคุณเอื้อได้สักครู่ท่านก็ต้องเดินทางไปประชุมที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในช่วงต่อมาท่าน อ.ภีม ได้อาสาช่วยในการประสานการจัดทัพเตรียมงานเตรียมคน ซึ่งก็มีการแลกเปลี่ยนกันหลากหลาย เพราะหน่วยงานภาคีอยู่กันครบ การแลกเลี่ยนเพื่อให้ลงตัวและเหมาะสมง่ายต่อการปฏิบัติขับเคลื่อน เห็นบรรยากาศแล้วก็ตื่นเต้นกับสิ่งที่จะเกิดกับชุมชน ในหมู่บ้านต่าง ๆ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งปีนี้จะขับเคลื่อนไปในระยะทางที่ต่างกัน แต่อยู่บนเส้นทางและมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน
เรียน ท่าน อ.จำนง
เรียน คุณณัทธร