“CEO ขององค์กรชั้นนำจะถูกวัดด้วยความสามารถในการสร้างความเชื่อมั่น และ ภาพลักษณ์ว่าจะสามารถนำพาองค์กรให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไปอีกใน อนาคต และส่วนมากจะให้ตลาดเป็นตัววัดสะท้อนความสำเร็จดังกล่าว”
หากตรวจสอบราคาตลาดขององค์กรชั้นนำในปัจจุบันจะพบว่า 20% ของมูลค่า ทางการตลาดเกิดจากทรัพย์สินที่สามารถลงบัญชีได้ขององค์กรนั้น ซึ่งได้แก่ อาคาร ที่ดิน โรงงาน เครื่องจักรสิ่งอำนวยความสะดวก เงินสด และอื่น ๆ แต่อีก 80% ของมูลค่าทางการตลาดที่เกิดขึ้นกับเกิดจากสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งได้แก่ ภาวะผู้นำขององค์กร ความรู้ความสามารถในการสร้างนวัตกรรมทางด้านสินค้า และบริการใหม่ ๆ ด้านความสัมพันธ์กับลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร สังคม และตราสินค้า เป็นต้น
ท่านสามารถคำนวณต้นทุนทางปัญญาขององค์กรท่านได้จาก “Intellectual Capital = Market Value – Book Value” หลายองค์กรจึงได้ตั้งเป้าทางการเงินว่าควรจะ เพิ่มมูลค่าและคุณค่าให้กับผู้ถือหุ้น (Share Halds Value) โดยผ่านการสร้างต้น ทุนทางปัญญาให้มีมูลค่าและคุณค่าสูงขึ้น
องค์ความรู้ในยุคที่สองจึงมุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้ในองค์กรให้เติบโตขึ้น โดย ใช้หลักการของนักวิชาการชาวญี่ปุ่นชื่อ Nanaka และ Takeuchi ได้เน้นการสร้าง และกระจายความรู้ในองค์กรฝ่านระหว่างบุคคลที่มีความรู้ที่อยู่กับตัวคน (Tacit Knowledge) กับองค์ความรู้ที่อยู่ในรูปแบบของสื่อต่าง ๆ (Explicit Knowledge) โดยใช้ Model SECI Knowledge Conversion ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง (จะกล่าวถึงรายละเอียดในฉบับต่อไป)
เพื่อสร้างพลังแห่งการแบ่งปันความรู้ “Knowledge Sharing is Power” ในยุคที่ 3 ของการจัดองค์ความรู้จึงได้เน้นการแลกเปลี่ยนความรู้ในลักษณะอิสระและไม่ เป็นทางการ โดยการสร้างบรรยากาศที่เอื่อต่อการเข้าถึงข้อมูลและผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญ โดยการตั้งชุมชนแห่งการปฏิบัติหรือชุมชนที่สนใจเรื่องเดียวกัน (Community of practice / Interest) ซึ่งจะส่งผลให้การสร้างและจัดการองค์ความรู้จะเกิดจาก สมาชิกในแต่ละชุมชนอย่างยั่งยื่นต่อไป
หลายองค์ได้เน้นการพัฒนาต้นทุนด้านองค์กร โดยเน้นด้านการบริหารคุณภาพ การรีเอ็นจิเนียริ่ง หรือบางองค์กรมุ่งเน้นด้านลูกค้านำกลยุทธิ์ CRM (Customer Relation Management) มาประยุกค์ใช้งาน แต่อย่าลืมว่าทุกกิจกรรมดังกล่าวข้าง ต้นต้องดำเนินการให้เป็นจริงด้วย “คน” แล้วทำไมเราไม่เริ่มต้นมุ่งเน้นที่การจัดการ และพัฒนาต้นทุนมนุษย์กันอย่างจริงจังซักทีล่ะ !
|