โอโห น่ากินจัง
เกรงว่าจะยาวไปจึงแบ่งออกเป็น 2 ตอนค่ะ.....จากเรื่องเล่าการพัฒนาต่อยอดงานของสมาชิกกลุ่ม ได้สุมศรีษะกับ อ.หนิง แห่ง มมส โดยการสะกิดกันออกจากห้องประชุม มานั่งสรุปก่อนขึ้นเวที และมี อ.จุฑารัตน์ นศ.ป.เอก มาร่วมแจม
การเล่าเรื่องของสมาชิกกลุ่ม ผู้จัดได้กำหนดว่าเป็นการติดตามผลต่อยอด ดังนั้นสมาชิกกลุ่มจึงพยายามระลึก ว่าก่อนมี UKM เป็นอย่างไร (before) และหลังจากได้เข้าร่วมประชุม UKM (after) แล้วมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง ซึ่งข้อสรุปจากเรื่องที่เล่าทั้งหมดมี 5 ประเด็น ดังนี้
1. Tools การใช้เครื่องมือของ KM
ได้มีการนำเครื่องมือ เช่น Story telling และ CoPs มาใช้ โดยการรวมกลุ่มคนทำงานลักษณะเดียวกัน เกิดเป็นเครือข่ายของคนที่สนใจ และทำงานในเรื่องเดียวกัน เช่น กลุ่มคนทำงานด้านคลังและพัสดุ กลุ่มเลขานุการ กลุ่มกิจการนิสิต/นักศึกษา ซึ่งแต่ละกลุ่มได้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีการนำเรื่องที่เป็นความสำเร็จมาพัฒนาต่อยอด และนำเรื่องที่เป็นข้อผิดพลาด ล้มเหลวมาเป็นโจทย์เพื่อช่วยแก้ปัญหา และเป็นบทเรียนในการทำงาน ไม่ให้เกิดความผิดพลาดหรือล้มเหลวซ้ำ
2. Paradigm กระบวนทัศน์ แนวคิด
ได้เกิดการปรับเปลี่ยนแนวคิดที่แต่เดิม ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างทำงาน มาเป็นพูดคุยแลกเปลี่ยน และช่วยกันแก้ปัญหา ช่วยกันทำงาน ช่วยกันพัฒนา ทำให้เกิดการทำงานเป็นทีม เช่น CoP ด้านการคลังและพัสดุ ได้รับรู้เรื่อง E-banking จากการเข้าร่วมประชุมที่ ม.มหิดล เป็นเจ้าภาพ จึงได้นำวิธีการนี้มาพัฒนาให้เกิด E-banking ที่ มข ทำให้การทำงานสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น
3. Network การเกิดเครือข่าย
ทำให้เกิดเครือข่ายของกลุ่มคนวงการเดียวกัน ที่มีลักษณะการทำงานใกล้เคียงกัน เมื่อเป็นเครือข่าย ได้มีการพบปะพูดคุยจากการประชุม (F2F) เชื่อมโยงไปเกิดการพบปะพูดคุยบนเวทีเสมือน B2B (Gotoknow_Blog) รวมไปถึง M2M ทำให้เกิดความเข้าใจ ความปรารถนาดีต่อกัน ซึ่งการพบปะในลักษณะนี้ ทำให้เกิด Show & Share ทั้งในเรื่องงาน เรื่องชีวิต ก่อให้เกิดมิตรภาพ เป็นกัลยาณมิตร มีความไว้เนื้อเชื่อใจ เช่น เครือข่ายที่เกิดขึ้นในเวทีเสมือน B2B เมื่อมาพบ F2F ก็จะเกิดเป็นความสนิทสนมอย่างรวดเร็ว พร้อมที่จะ ลปรร กันได้อย่างไว้เนื้อเชื่อใจ
4. Love ความรักและกำลังใจ
เครื่องมือที่ใช้สำหรับ KM เช่น Story Telling ก่อให้เกิดกำลังใจในการทำงาน ทำให้เกิดความรักความเข้าใจในงาน ในเพื่อนร่วมงาน องค์กร สังคม ประเทศชาติ โลก
5. Intellectual Capital ทุนทางปัญญา และสังคม
จากการ ลปรร ทั้งในการประชุม UKM และในหน่วยงาน จะทำให้ได้รับรู้ I (Information ข้อมูล) เกิดการนำ I ไปเป็นแนวคิดหรือพัฒนาใช้ จะทำให้เกิดหรือพัฒนาเป็น K (Knowledge องค์ความรู้) ในตัวบุคคล หน่วยงาน และองค์กร ก่อให้เกิดทุนทางปัญญา และสังคมจนกระทั่งเกิด Sensing ได้
จากทั้ง 5 ประเด็น สรุปได้ว่า UKM เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนา การใช้ KM เพื่อพัฒนาบุคคล พัฒนาองค์กร ให้สามารถก้าวไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ได้
สรุปข้อมูลจากเรื่องที่เล่าทั้งหมดมาเป็น 5 ประเด็นค่ะ ^__*
(อย่าลืมลบความคิดเห็นนี้ออกด้วยนะคะ /พิสูจน์อักษรค่ะ )
แหะๆ ได้เจ้ดันที่ดีค่า...หนิงท่องตามบทค่ะ
อรุณสวัสดิ์ค่ะ อ.Paew
สวัสดีค่ะ อ.ขจิต
เรียน คุณ paew
ฝากขอบคุณสำหรับการดูแล ชาว ม.อ. นะคะ และความสุขที่เผื่อแผ่มายังคนที่ไม่ได้ไปด้วย
ขอบคุณสำหรับเกร็ดดี ๆ ที่สรุปนะคะ เห็นป่าว ถึงไม่ได้ไป ก็ตามติดความรู้ได้
โอโห น่ากินจัง
กลุ่มอาจารย์คงเดินทางกลับไม่ได้
คิดดูนะครับ พระยังโดดกำแพง
มาทำงานหรือคะอาจารย์แป๋ว
น้องก็มาทำสรุป PORTFOLIO ที่ทำงานค่ะ
สวัสดีค่ะ อ.ขจิต
เอาไงดี ให้ท่านแวะเม้กดำก่อน แล้วแวะเข้ามาที่ด้วยกัน จะตุ๋นไก่ดำใส่พระกระโดดกำแพงแรงฤทธิ์ ให้ชิมจนพุงป่อง