การใช้อีเมล์อย่างพอเพียง
เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) เป็นสื่อสำคัญที่ได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของคนเราเป็นอย่างมาก ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ล้วนส่งทั้งผลดีและผลเสียต่อการดำเนินชีวิตของแต่ละคน แต่เราจะปรับใช้เทคโนโลยีเหล่านี้อย่างไรเพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ?
ในฐานะที่เป็นปวงชนชาวไทย ถือได้ว่าเราโชคดีมากที่มีหลักเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) ซึ่งเป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทย ชี้ให้เห็นถึงแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัฒน์
การติดต่อสื่อสารกับผู้คนอย่างไร้พรมแดนในยุคโลกาภิวัฒน์นั้น ทำให้เรารับส่งข้อมูลข่าวสารและสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอีเมล์ หรือ Electronic mail ก็เป็นสื่อสำคัญที่สามารถสนองความต้องการส่วนนี้ได้อย่างดี และเป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุด ซึ่งมีอยู่หลายบริษัทด้วยกัน เช่น yahoo, hotmail ,gmail เป็นต้น แต่ในทางกลับกัน พบว่าในปัจจุบันผู้คนกลับใช้อีเมล์ในทางที่ไม่สร้างสรรค์ ไม่เพียงแต่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้แต่ยังทำลายผู้อื่นอีกด้วย ดังนั้น จึงควรนำแนวคิดหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กับการใช้ อีเมล์ในชีวิตประจำวัน กล่าวคือ
* ความพอประมาณ คือ การใช้อีเมล์ในเวลาที่เหมาะสม ไม่น้อยหรือมากเกินไป บางคนวันทั้งวันมัวแต่นั่งเช็คอีเมล์ของตัวเอง คอยรับส่งแต่อีเมล์ จนกลายเป็นสิ่งที่เกินความจำเป็น ซึ่งเราควรใช้ในเวลาที่ไม่กระทบการทำงานหรือเวลาส่วนตัว
* ความมีเหตุผล คือ ควรทราบว่าจะใช้อีเมล์เพื่อวัตถุประสงค์ใด ซึ่งต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น เพื่อติดต่อทางธุรกิจ รับส่งข่าวสารที่มีสาระเพื่อความบันเทิง ไม่ใช่การรับส่งภาพลามก ส่งต่ออีเมล์ลูกโซ่ เป็นต้น และควรคำนึงด้วยว่าใช้อีเมล์แล้วจะส่งผลกระทบอย่างไร เช่น การส่งอีเมล์เพื่อการโฆษณาชวนเชี่อ และส่งเป็นจำนวนหลายๆครั้งทำให้กินพื้นที่ในการส่งอีเมล์ของผู้อื่น
* การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว เป็นการเตรียมพร้อมเพื่อรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆที่จะเกิดขึ้น นั่นคือ ไม่ควรยึดติดกับการใช้อีเมล์ตลอดเวลา ซึ่งหากระบบอีเมล์ไม่สามารถใช้ได้ ก็สามารถหาลู่ทางอื่นในการติดต่อสื่อสารได้ เช่น การใช้แฟกซ์ โทรศัพท์ เป็นต้น
นอกเหนือจากการใช้อีเมล์ตามนิยามของหลักเศรษฐกิจพอเพียงแล้วควรต้องอาศัยความรู้และคุณธรรมควบคู่ไปด้วย กล่าวคือ ใช้อีเมล์อย่างผู้มีความรู้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และที่สำคัญคือ ควรมีจริยธรรมในการใช้อีเมล์ ไม่ส่งต่ออีเมล์ที่ไร้สาระ สื่ออนาจารต่างๆ หรือใช้อีเมล์ไปในรูปแบบที่เป็นสื่อในการทำลายผู้อื่น ทั้งนี้เพื่อนำไปสู่การใช้อีเมล์อย่างพอพียง ที่นำไปสู่การเกิดประโยชน์สูงสุด
อ้างอิง http://www.nectec.or.th http://www.thaibja.org http://www.wikipedia.org
จากการได้อ่านข้อความด้านบนเป็นการเขียนที่บอกถึงการใช้อินเตอร์เน็ตที่ถูกต้องคือคนเราไม่จำเป็นนั่งเล่นทั้งวัน แค่วันล่ะ 1-2 ชม. เพื่อคลายเครียดบ้างหรือเพื่อศึกษาหาข้อมูลในการทำงานหรือการเรียนก็เพียงพอแล้วเนื่องจากถ้าเล่นนานๆๆก็อาจเกิดความสิ้นเปลือง และเวลา ผู้เขียนบทความได้บอกไว้อย่างที่ดิฉันคิดไว้เหมือนกันมีความคิดเห็นตรงกันเลยรู้สึกชอบที่มีคนมีความคิดเดียวกับดิฉัน
ขอบคุณค่ะ
ผมว่าก็ดีนะคับนานๆๆจะได้เห็นคนที่รู้คุณค่าของพลังงานของชาติเราต้องรู้จักประหยัดเพื่ออนาคตของเราเองถ้าทุกคนคิดแบบนี้ก็ดีมากๆๆๆเลยคับเพราะพลังงานของเราหายากขึ้นทุกวัน....
เห็นด้วยกับบทความนะคะ เพราะฉะนั้นจะต้องปลูกฝังความคิดเกี่ยวกับความพอเพียงของพระองค์ท่าน มาใช้กับชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความพอประมาณ ความมีเหตุผล หรือความมีภูมิคุ้มกันที่ดี และในเรื่องของความรู้ คู่คุณธรรม เมื่อทุกคนปฏิบัติได้ ประเทศชาติก็จะเจริญก้าวหน้า และเยาวชนที่เติบโตมาก็จะมีความคิดที่เข้มแข็ง สามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆจนเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิด ความรู้ที่สามารถปลูกฝังแก่เยาวชนรุ่นต่อไป
ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ
เป็นบทความที่ดี ที่แสดงความเข้าใจในหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่นำหลักของพระองค์ มาใช้ดำเนินชีวิตของเราได้ทุกขณะ อยากให้ทุกคนเข้าใจ และปฏิบัติได้ค่ะ
อ่านบทความนี้แล้วนึกถึงข่าวที่ลงทุกวันนี้ ในการใช้งานอีเมลล์/อินเตอร์เน็ตที่ผิดของวัยรุ่นไทย หรือแม้แต่ผู้ใหญ่บางคน มันทำสะท้อนเห็นว่าทุกวันนี้มันเป็นยุคไร้พรมแดนจริงๆๆคะ ถ้าเรามีจิตสำนึกในการใช้งานอีเมลล์อินเตอร์เน็ตอย่างพอเพียงมันคงดีไม่น้อยนะคะ
เป็นบทความที่ดีนะคะ...การนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีสารสนเทศ...เพราะเด็กสมัยนี้โตมากับเทคโนโลยี ซึ่งมีทั้งประโยชน์และโทษ ถ้าใช้อย่างไม่ถูกต้องเหมาะสม เราจึงควรปลูกฝังความคิดดีๆ ในการใช้เทคโนโลยีต่างๆให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเองและสังคมคะ...
การใช้อิเมลล์อย่างเพียงพอ....ถ้าทุกคนมีจิตใต้สำนึกที่ดี,,รู้กาลเทสะ การจะทำอะไรก็แล้วแต่ย่อมรู้แก่ใจอยู่เสมอๆ คิดดี ทำดี ชีวิตมีสุข ก็เพียงพอแล้ว...
เทคโนโลยีในด้านผู้ผลิตไม่ความเพียงพอมีแต่จะพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง สำหรับผู้ที่นำไปใช้ควรต้องดูให้เหมาะสมกับตนเอง ใช้ให้พอกับความต้องการ แล้วจะมีความสุข
อีเมล์นับว่ามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามาก แต่ก็ต้องรู้จักใช้ให้ถูกต้อง ด้วยการนำแนวพระราชดำริมาใช้ด้วยค่ะ
เป็นบทความที่น่าสนใจมากเลยค่ะ นำเอาหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้กับการใช้อีเมล์ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
เขียนได้ดีมากค่ะ น่าจะเอามาลงหนังสือนิตยสารเป็นบทความพิเศษได้นะค่ะ
เป็นคำแนะนำที่ดีมากเลย สามารถนำมาใช้ในชีวิตจริงได้เลยนะเนี๊ยะ
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่นMP3 ต่างก็เข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ทั้งสิ้น แต่สิ่งเหล่าล้วนมีทั้งประโยชน์ และโทษที่ตามมา ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีอย่างพอเพียงก็เป็นวิถีทางหนึ่ง ที่จะช่วยให้มนุษย์ใช้เทคโนโลยีเหล่าให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
ความหมายดีมากค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าสาวแบงค์จะมีความคิดได้งดงามอย่างงี้
จะลองใช้อีเมล์อย่างพอเพียงบ้างครับ แต่ไม่เห็นรูปคนเขียนเลย ทำไมมีแต่เงาดำๆ ละครับ
เป็นบทความที่น่าสนใจ
และเหมาะกับยุคนี้มากๆเลย
อ่านแล้วก็ใช้เป้นข้อคิดเตือนใจได้จริงๆ......
อืม! เห็นด้วยนะ เป็นบทความที่เอาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ในการใช้เทคโนโลยี ก็มีประโยชน์ดี เดี๋ยวนี้คนเราไม่ค่อยมีความพอดีกันเลย ไม่ว่าจะทำอะไร ไม่ใช่แค่การใช้อีเมล์หรอก อยากให้คนไทยนำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวันเลยอะ ถ้านำมาใช้ได้จริง สังคมไทยคงจะดีกว่านี้เยอะเลย
ใช่ครับเป็นการดำเนินชีวิตในแต่ละวันซึ่งควรให้ความสนใจและปฏิบัติ
IT ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตประจำวัน เป็นเครื่องมือในการในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะการใช้อีเมลล์ในการติดต่อสื่อสาร ซึ่งหากเราใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องแล้ว ก็จะก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา ทางที่ดีแล้วควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและมีศีลธรรม ซึ่งเห็นด้วยกับบทความนี้ที่ช่วยปลูกฝังสังคมและประชาชนให้พฤติและปฏิบัติในสิ่งที่ดี
เขียนได้ดี น่าสนใจค่ะ