ครูนงเมืองคอนบอกว่าให้หารูปใส่ด้วย
พยายามตัดแปะอยู่สองสามรูป เป็นรูปที่ถ่ายที่ญี่ปุ่นบ้าง ที่ภาคอีสานบ้าง แต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายรูปที่สำเร็จก็เป็นอย่างที่เห็นค่ะ ทายถูกไหมคะ ว่าลำธารที่เห็นข้างหลังคือที่ไหน
เป็นความบังเอิญนะคะว่า รูปที่สำเร็จนี้ มีลำธารที่คีรีวง เมืองนครฯเป็นฉากหลัง ที่จริงรอบๆตัวมีนักศึกษาจากธรรมศาสตร์อีก 4 คน
ตอนนั้น (ปี 48) เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสสอนวิชาพัฒนาชนบทไทย หลังจากที่วิชาถูกปิดไปหลายปี (ในโครงการภาคภาษาไทย) เพราะขาดอาจารย์ผู้สอน วิชานี้พานักศึกษาลงมาอยู่กับชาวบ้านเป็นเวลา 2 เดือนเต็มในภาคฤดูร้อน เป็นวิชาที่อาจารย์ป๋วยท่านได้ริเริ่มไว้เมื่อกว่าสิบปีก่อน น่าจะเป็นครั้งแรกของเมืองไทยด้วยกระมังที่มีวิชาลักษณะนี้
เลือกนครฯเป็นพื้นที่แรก ด้วยเหตุผลของความชอบและความสนใจในพื้นที่อย่างที่เคยเขียนเล่าแล้วค่ะ (ตอนนั้นยังบอกนักศึกษาว่า ถ้ามีโอกาส ตอนแก่ๆ จะลงมานั่งเขียนหนังสือเรื่องเมืองนครฯสักเล่ม) นักศึกษา 4 คน อยู่ใน 4 ที่ นอกจากที่คีรีวงแล้ว ยังส่งไปอยู่กับชาวประมง อยู่กับชาวสวน และอยู่วัดป่ายาง ผู้อุปการะทุกท่านน่ารักมาก เราได้เรียนรู้เยอะ และยังติดต่อผูกพันกันมาจนปัจจุบัน
....เมื่อจัดการกับรูปเสร็จก็เลยถือโอกาสเพิ่มเติมประวัติส่วนตัว เพื่อรักษาธรรมเนียมปฏิบัติของชาว blog ค่ะ
ขอบคุณอาจารย์จำนงค์ที่เข้ามาเยี่ยม blog ค่ะ
วิชาพัฒนาชนบทไทยที่ เศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ มี 2 ระดับ ระดับหนึ่งสอนภาคทฤษฎีและประสบการณ์ ระดับที่สอง พานักศึกษาลงพื้นที่จริง
วิชาที่ไม่ค่อยได้เปิดสำหรับภาคภาษาไทย คือ วิชาที่สองค่ะ แต่เราเคยมีอาจารย์อภิชัย พันธเสน (ก่อนท่านเกษียณ) และปัจจุบันมีอาจารย์สุขุม อัตวาวุฒิชัย สอนในภาคภาษาอังกฤษค่ะ ทั้งสองท่านเป็นศิษย์อาจารย์ป๋วย ดิฉันเคยมีโอกาสพบท่านเพียงครั้งเดียว ตอนท่านกลับจากอังกฤษมาเยี่ยมเมืองไทย ก่อนท่านเสียเพียงไม่กี่ปี
สิ่งที่ต้องทำคือ สร้างอาจารย์รุ่นใหม่ และคนรุ่นใหม่ค่ะ