ประสบการณ์ของเด็กติดเกมส์

เด็กติดเกมส์ เกมส์ game computer

เสาร์ที่แล้ว ถูกเชิญไปเล่าความรู้สึกและประสบการณ์ของการเป็นเด็กติดเกมส์ค่ะ ตามปกติ การจะไปเป็นวิทยากรที่ไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่ ดิฉันก็จะมีการทำการบ้านเตรียมตัวล่วงหน้า (ไม่ชอบไปหน้าแตกต่อหน้าธาระกำนัล)

ผลของการเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับเกมส์ต่างๆ ก็เห็นวิวัฒนาการของเกมส์ ตั้งแต่ยุคเกมส์จอเขียว (พวกยิงสัตว์ประหลาดอวกาศ) ใช้ space bar กดๆๆๆ เพื่อยิง แล้วก็ใช้ลูกศรซ้ายขวา เพื่อบังคับตัวป้อมยิง, ค่อยๆ มาเป็นเกมส์ Tertis (แบบจอเขียวอยู่ดี - เคยเล่นจนน้ำตาไหลเพราะแสบตาอย่างหนัก หลังจากเล่นติดต่อกัน 4-5 ชั่วโมงไม่พัก), จนมาติดเกมส์หนักสุด ตอนที่ได้เล่น Civilization ภาค 1 จำได้ว่า เป็นตอนที่มหาวิทยาลัยปิดเทอม (ปี 1) น้องชายเอาเกมส์มาให้ดู บอกว่า เขากำลังฮิตนะ ลองเล่นสิ แรกๆ ไม่ค่อยสนุก แต่พอเริ่มเข้าใจ concept ตอนที่ติดคือ เล่น 3 วัน 3 คืน ไม่หลับไม่นอน ไม่กิน มีแค่เบรคกินน้ำ กับเข้าห้องน้ำ จนในที่สุดชนะเกมส์จนได้ (บรรลุจุดสุดยอด - ฮ่าๆ), มาติดอีกเกมส์ก็คือ Diablo ถึงขนาดลงทุนซื้อของจริง (เพราะถ้าจะเล่น online ต้องมี unique license key) อดหลับอดนอนเพราะ Diablo ไปช่วงหนึ่งเลย (ตอนนั้นทำงานแล้วด้วย) ยังดี ตอนที่เริ่มมี Rak Narok นั้น กำลังท้อง ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวยให้นั่งนานๆ เลยต้องหยุดเล่นเกมส์ไปพักหนึ่ง

พอคลอดลูกแล้ว ก็กลับมาเล่นใหม่ แต่ไม่สามารถเล่นหนักหน่วงอย่างที่เคยเล่นได้อีกต่อไป การค้นหาเกมส์ใหม่ๆ ก็ซาลง จะมีเล่นก็เล่นตามน้องๆ ในที่ทำงาน เขาเล่นกัน ก็จะไปขอเขามาติดตั้งบ้าง ... จนจะต้องไปเ็ป็นวิทยากรนี่ล่ะ เลยกลายเป็นหาเกมส์แจกชาวบ้านแล้ว

ณ วันนี้ เกมส์ที่เพิ่งค้นหา สะสมมากได้ประมาณ 300 MB แล้ว เล่นมันหมดทุกเกมส์ด้วยอีกต่างหาก อนึ่ง เกมส์ที่ได้มา ไม่ใช่เกมส์พวก online นะคะ จะต้อง install แล้วเล่นเอาชนะตัวเอง หรือเล่นเอาชนะคอมพิวเตอร์ (ขนาดไม่ online ยังเล่นจนนอนไม่พอแล้วเนี่ย)

มีคำถามยอดฮิต ถามว่าทำไมเด็กถึงไม่สามารถหยุดเกมส์ได้้ เมื่อครบกำหนดสัญญากับพ่อแม่ (เช่น ยอมให้เล่น 4 ชั่วโมงได้)  คำตอบมีง่ายๆ ก็คือ ก็เล่นจนจะผ่านฉากแล้วน่ะ อีกนิดเดียวก็จะชนะแล้ว ขอต่อเวลาออกไปอีกสัก 10 นาที เดี๋ยวก็เกมส์ (แต่แล้วก็ยังชนะไม่ได้ ก็ต้องต่อเวลานอกไปเรื่อยๆ จนกว่าใครจะฟิวส์ขาดก่อนกัน)

อนึ่ง ความเห็นส่วนตัวของดิฉันต่อเด็กติดเกมส์ในยุค hi-speed internet ก็คือ เด็กติดเพื่อน และติดเพื่อนในเกมส์ มากกว่าติดเกมส์โดยเนื้อแท้ ค่ะ ถ้าพ่อแม่คิดว่า ลูกตัวเองติดเกมส์ ต้องตอบให้ได้ก่อนว่า ลูกติดเกมส์อะไร, เกมส์ที่ลูกเล่นนั้น เป็นเกมส์แนวไหน, และลูกติดเพื่อนในเกมส์หรือเปล่า

ว่าแล้วก็ขอกลับไปปลูกดอกไม้ทำช่อบูเก้ต่อนะคะ กำลังมันเชียว

[Aj Kae]

• เคยเล่นเกมแบบเก็บพลังไปเรื่อย ๆ นี่ ติดจนเลิกยากจริง ๆ ครับ