ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาได้ร่วมประชุมร่วมกับเครือข่ายนักจัดการความรู้ระดับชุมชนที่สวนป่าครูบา มีบรรดาพ่อๆ ผู้ใช้ KMตัวยงค์ เข้าร่วมประชุมกันอย่างสนุกสนานและอิ่มอร่อยกับความรู้ที่ได้รับ
ผู้เข้าร่วมประชุมก็มี พ่ออุ่น พ่อวิจิตร พ่อกว้าง พ่อทอง และน้องกิ่ง
ในที่ประชุมคุณพ่อทุกท่านและน้องกิ่ง ต่างก็ให้ความรู้และแนวคิดที่เป็นประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง ในเรื่องของการใช้ KM เพราะทำให้รู้ว่าตัวเองมีความรู้อะไร ยังขาดความรู้อะไร รู้วิธีแสวงหาความรู้ ต่อยอดความรู้ และนำความรู้ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับตนเองได้อย่างไร
ตัวอย่างกรณีของพ่อกว้าง ที่ท่านบอกว่าเกษตรกรในเครือข่ายที่เลี้ยงโคทุกคนกำลังปัญหาขาดแคลนอาหารซึ่งก็คือหญ้าเลี้ยงสัตว์ ทุกคนก็ตั้งคำถามและหาวิธีการร่วมกันหลาย ๆ วิธีด้วยกัน
วิธีที่หนึ่ง แก้ปัญหาด้วยการปลูกหญ้ากินนีสีม่วงในแปลงหญ้ารวมของพ่อกว้าง โดยการตั้งโจทย์ว่า เมื่อปลูกหญ้าแล้วต้องสามารถตัดหญ้าให้โคกินได้ทุกวัน ซึ่งโจทย์นี้ก็เป็นการสร้างนักการจัดการความรู้ได้เป็นอย่างดีเพราะคนที่ตัดหญ้าครั้งเดียวยกแปลงหญ้าก็จะหมดต้องรออีก 15 วัน จึงจะตัดหญ้าได้อีกรอบ ซึ่งไม่สามารถตัดได้ทุกวัน ส่วนคนที่แปลงย่อยตัด 15 แปลง จะสามารถตัดได้ทุกวันเมื่อวนมาครบ 15 แปลง จากวิธีการนี้ทุกคนก็เกิดการเรียนรู้และขยับขยายแปลงหญ้าตามกำลังและจำนวนโคของตนเองได้
วิธีที่สอง เนื่องจากปีนี้ทุกคนสังเกตได้ว่าฤดูแล้งยาวนานและรุนแรงกว่าทุกปี หญ้าที่ปลูกไว้คงไม่เพียงพออีกทั้งยังมีคนต้องการซื้อหญ้าหรืออาหารสัตว์อีกมาก จึงตั้งโจทย์ใหม่ว่า ทุกคนคงต้องวางแผนปลูกพืชทนแล้งที่ให้ประโยชน์ทั้งกับคนและโคให้ครบวงจร และสามารถปลูกพืชหลากหลายชนิดต่อเนื่องไปจนกว่าจะถึงฤดูทำนา ซึ่งในช่วงนี้พ่อกว้างเห็นว่า การปลูกข้าวโพดน่าจะเหมาะสมที่สุด
พ่อทองบอกว่า คนปลูกข้าวโพดอย่างหวังขายข้าวโพดให้รวย แต่ ให้ฝักข้าวโพดเป็นของแถม
ให้ต้นข้าวโพดเป็นต้นทุน ทุกคนล้วนงง! ต้นทุนอย่างไร
ก็ใช้ต้นข้าวโพดเป็นทุนไปแลกกับปุ๋ย ใครอยากได้ต้นข้าวโพดไปเลี้ยงวัวให้เอาขี้วัวมาแลก ปริมาณนั้นขึ้นอยู่กับใจและศรัทธา
เมื่อให้ทุนเป็นต้นข้าวโพด ก็จะได้กำไรคือปุ๋ย สารอาหารสำหรับหญ้า ข้าวและพืชอื่น ๆ
ส่วนดอกเบี้ยก็คือการคืนสมดุลให้กับดินด้วยปุ๋ยคอก ไม่ทำร้ายดินด้วยสารเคมี ดินก็จะฟื้นคืนชีพในเวลาไม่ช้า เกษตรอิรทรีย์หรือเกษตรธรรมชาติก็จะกลับคืนมาอย่างจริงจังและยั่งยืนอีกครั้ง
นี่คือวิธีการคิด การทำงานภายใต้การใช้ KM ที่พบเห็นได้จากพ่อกว้าง สุวรรณทา
ทุกอย่างต้องมีแผนสั้นแผนยาวครับ
ผมอยากเห็นการแจงปัญหาตามกรอบความคิด
การนำเสนอแบบเชิงเดี่ยวจะได้ความรู้แห้งๆ ไม่มีชีวิตชีวาครับ จะเอาไปเขียนต่อได้ยากครับ
อาจารย์แสวงที่เคารพ
ขอบคุณค่ะอาจารย์ ทางออกและทางเลือกแต่ละเงื่อนไขที่อาจารย์แนะนำมานั้นจะเกี่ยวพันทั้งหมดทั้งระบบการเลี้ยง ระบบทรัพยากร ปัจจัยแวดล้อม ซึ่งจะทำให้เกิดรูปแบบการจัดการที่แตกต่างกันด้วยใช่ไหมค่ะอาจารย์
ขอบคุณค่ะ