ตอนป่วยมานอนโรงพยาบาลเกิดความรู้ใหม่ที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่า..โรคท็อปฮิตบางอย่างที่แพทย์พยาบาลชอบเป็นนอกเหนือไปจากกระเพาะอาหารอักเสบแล้วก็ยังมีโรคกระดูกพรุนและไมเกรนที่พวกเรามีปัญหาอยู่..โรคพวกนี้ทรมานและลดสมรรถภาพการทำงานไม่น้อยเวลาที่มีอาการเจ็บปวดเกิดขึ้น ซึ่งหากหัวหน้างานหรือเพื่อนร่วมงานไม่เข้าใจก็จะมองว่าคนคนนั้นสำออย หรือ ไม่สนใจทำงาน....มีพี่คนหนึ่งเป็นไมเกรนเก็บอาการไว้ไม่แสดงออกเพราะเขาบอกว่าถ้าแสดงว่าเป็น/ปวดอยู่คงไม่ต้องทำงานหรือทำอะไรได้เลย...ดังนั้นเมื่อเสร็จงานที่รับผิดชอบแต่ละกะแล้วก็คือเวลาปลดปล่อยอาการเจ็บปวดตามลำพังคนเดียวในห้องพัก...ฟังแล้วน่าเศร้าใจจัง.
..ขณะที่คนคิดมาตรฐานการดูแลผู้รับบริการคาดหมายอยากให้พยาบาลทำนั่นทำนี่ให้เพอร์เฟ็คสมบูรณ์แต่สภาพกำลังพลผู้ปฏิบัติงานอยู่ตอนนี้กำลังกรอบหรือยอบแยบด้วยภาวะสุขภาพอันไม่ค่อยจะเต็มร้อย...ใครจะช่วยได้บ้าง.เพราะจะขอเพิ่มอัตราผู้ให้บริการหรือมันก็ไม่ใช่ทิศทางในการพัฒนาคุณภาพงานบรืการ....
งานบริการเราถูกปลูกฝังให้เชื่อในปรัชญาการตลาดว่าลูกค้าคือพระเจ้าแต่ตอนนี้เราก็เป็นหุ้นส่วนหนึ่งในระบบบริการ...ทำอย่างไรที่จะทำให้เราอยู่รอดได้และลูกค้าก็พึงพอใจและปลอดภัย...ใช้วิธีการไหนดี..
หมอกับพยาบาลก็คนธรรมดานี่แหละ แต่เท่าที่ทราบจะติดยา "ทำใจ" กันนะ
ยา"ทำใจ"นี่กินมากๆก็ยังอันตรายอยู่ดี...การนำเอาอาชีวอนามัยมาจับอย่างจริงจังน่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง....เราจะส่งเสริมคุณภาพชีวิตชาวบ้านได้ดีได้อย่างไรหากในชีวิตจริงพวกเรานั้นคุณภาพชีวิตมันยังย่ำแย่หรือต่ำกว่าเกณฑ์อยู่
พยาบาลป่วยคนนึงอยู่ตรงนี้ ค่ะ อิอิ