ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้..... ระหว่างเดินทางไปทำงานในช่วงเช้าจ๊ะจ๋ามองไปรอบๆ เห็นอาคารและตึกต่างๆ มีหมอกหนาปกคลุม ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ชัดเจน และในระหว่างรอรถไฟฟ้า สถานีพญาไท บริเวณชั้น 2 เพื่อเดินทางไป สคส. จ๊ะจ๋าก็สังเกตว่า เมื่อเราอยู่ที่สูง มองไปรอบๆ จากเดิมที่จะเห็นตึกใบหยก แต่วันนี้กลับมองไม่เห็นชัดเจน หมอกปกคลุมไปรอบบริเวณและหมอกก็หนาทึบ... เลยงงว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกของเรา เมืองไทยของเรา สภาวะอากาศในช่วงเช้าวันสองวันนี้ ช่างดูเศร้าหมองและอึมครึมเสียนี่กระไร !!! เลยทำให้นึกไปว่า บรรยากาศช่วงเช้าเช่นนี้ย่อมมีผลต่อจิตใจคนเราได้เหมือนกันนะ
ที่ชอบเพราะในเวลากลางคืนเราจะได้นอนหลับสบาย เพราะอากาศเย็นดี และยังได้เล่นเงากับน้องชาย เพราะสมัยก่อนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ระบบไฟฟ้าแถวบ้านไม่ค่อยดีเหมือนปัจจุบัน กิจกรรมที่เรามักเล่นกลางคืนคือ เล่นเงาใต้แสงเทียนกับน้องชาย เล่นผ้าห่มตบตีกัน เป็นกิจกรรมที่ได้รับความชื่นชอบกันมาก ทดแทนการอดดูหนังไปเสียงั้น ....แต่ถ้าเป็นเวลากลางวันนะยิ่งสนุกมาก ..เพราะเมื่อฝนหยุดตก...เรา (หมายถึง จ๊ะจ๋า น้องชาย และลูกพี่ลูกน้องอีกคน ...เรา 3 คน) จะได้ออกไปกลางทุ่งนาออกไปเก็บผักบุ้งมาให้แม่ผัดให้กิน และได้ไปจับปู...เพราะหลังฝนตกปูมักออกจากรู ดังนั้นเราจะช่ำชองกันมากในการจับปู และที่ถือว่าเป็นเป้าหมายหลักในการจับปู นอกจากเพื่อความสนุกเพลิดเพลินแล้ว ก็เพื่อเอาปูมาให้คุณยายดองกินส้มตำ...ดังนั้น นอกจากจะได้รับความบันเทิงทางใจแล้ว ยังได้อิ่มท้องด้วย
ที่ไม่ชอบเพรา เสียงฟ้าร้องมันน่ากลัวและแสบแก้วหู ฝนตกทำให้เราอดไปเที่ยวและที่สำคัญอาจทำให้เราไม่สบายบ่อยๆ และก็ไม่ชอบเวลาฝนตกตอนเช้าทำให้เสียเวลาไปโรงเรียน แถมตัวก็เปียกด้วย...ในสมัยที่จ๊ะจ๋าเรียนมัธยมปลาย นับเป็นความยากลำบากกับชีวิตเรามาก..เพราะว่าเราต้องเดินทาง โดยรถยนต์ ต่อด้วย รถไฟ และต่อด้วยรถตุ๊กๆ เพื่อไปถึงโรงเรียน ดังนั้นใช้เวลาทั้งหมดในการเดินทางไปโรงเรียนถึง 2 ชั่วโมง ถือว่าเหน็ดเหนื่อยๆ เหมือนกัน ยิ่งหน้าฝนยิ่งทำให้เราลำบากกันมาก .....แต่จ๊ะจ๋าก็คิดว่า การเดินทางของเราได้ประโยชน์มากกว่าเพื่อนคนอื่นๆ เรามีคนขับรถตลอดการเดินทาง และที่สำคัญคือ ในช่วงเดินทางโดยรถไฟ เราก็ใช้เวลาในการอ่านหนังสือและพูดคุยกับเพื่อนในเรื่องการบ้าน ข้อสงสัยต่างๆ แลกเปลี่ยนข้อมูลกับเพื่อน บางครั้งก็ให้เพื่อนสอนเราในเรื่องที่เราข้องใจ ทำให้เราใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าเหมือนกัน..
และถ้าเป็นฤดูหนาว จ๊ะจ๋ามีความรู้สึกว่า อากาศหนาว....อาจเป็นสาเหตุให้คนเรารู้สึกเหงาได้ มันแห้งแล้ง และความหนาวจับใจย่อมมีผลต่อความรู้สึก ...ไม่อย่างงั้นคงไม่มีคนแต่งเพลงเกี่ยวกับฤดูหนาวที่มีความเกี่ยวข้องกับความรู้สึกเหงาอกมาให้เราได้ยินกัน ..... ความคิดของจ๋า ฤดูหนาวทำให้คนขี้เกียจ......จ๊ะจ๋าชอบหน้าร้อนมากกว่าหน้าหนาว...อาจจะเป็นเพราะเราอยู่ในเขตเมืองร้อน หน้าร้อนมีอาหารการกินมากมาย อุดมสมบูรณ์กันเหลือคณานับ สรุปก็คือเป็นคนชอบกินนั่นเอง...แล้วคุณละคะรู้สึกอย่างไร? ฤดูไหนมีผลต่อจิตใจของคุณมากที่สุด เป็นอย่างไร
คุณจ๊ะจ๋า ค่ะ
ปรางชอบฤดูฝนค่ะ แต่ต้องเป็นฤดูฝนที่ไม่ใช่ที่ กรุงเทพ นะค่ะ ตอนที่อยู่บ้านที่ภาคใต้ และที่ได้เรียนที่ภาคใต้ ฝนตกทีไร อากาศดี ชุ่มชื้นใจ อาการเย็นสบาย รู้สึกสบายใจดีค่ะ
Ja,
I really beleive so about how season change might have an impact on how people feel. For me, rainy season is one of my favorite. Actually, I am not sure how much I like it, but at least it make me feel getting more power to do things and be more confident as well. I always feel lonely during winter, especially as I live far away from home and miss the one I love. Anyway, thanks for sharing your story.