บางมุมของคู่สวิงกิ้ง
ก่อนอื่นขอออกตัวว่าบันทึกนี้ไม่ได้เห็นด้วยว่าควรหรือไม่ควรส่งเสริมการมีการแลกเปลี่ยนคู่นอนเพราะเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะพอดีและไม่เหมาะหรือสอดคล้องกับวัฒนธรรมของไทย..
..แต่เพียงต้องการเล่าถึงความเป็นจริงในบางด้านหรือบางส่วนเท่านั้นที่ทำให้คู่สามีภรรยาบางคู่ซึ่งมีสถานะทางสังคมดีมีหน้าตาดีมีการศึกษาดีกลับมาใช้ชีวิตทางเพศเป็นแบบแลกเปลี่ยนคู่นอน(swinging)....
สองสามวันที่ผ่านมารับปรึกษาเคสชายวัยสี่สิบกว่าคนหนึ่งสอบถามภูมิหลังก็พบความน่าสนใจว่าเป็นผู้ที่มีความรู้และฐานะดีทีเดียว...เขาต้องการขอข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องปัญหาทางเพศและเรื่องของการป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์..สอบถามเหตุผลว่าเพราะอะไรจึงกังวลใจในเรื่องนี้..เคสลังเลสักครู่หนึ่งก่อนให้ข้อมูลว่าปัจจุบันจะเกือบหนึ่งปีแล้วที่เขาและภรรยามีชายหนุ่มอีกคนร่วมเป็นคู่เพศสัมพันธ์ด้วย..เราก็นิ่งเพื่อดูท่าทีและให้เคสเล่าถึงสภาพปัญหาต่อไป..เคสให้ข้อมูลว่าปัญหานั้นน่าจะมาจากตัวเขาที่เมื่อห้าปีก่อนมีอุบัติเหตุเกี่ยวกับเอวและสันหลังทำให้เวลาจะมีเพศสัมพันธ์จะเจ็บปวดมากอีกทั้งการไม่สามารถควบคุมการหลั่งได้เหมือนอย่างปกติ..ทำให้เขารู้สึกผิดในใจมาตลอดที่ไม่สามารถให้ความสุขทางเพศแก่ภรรยาได้.
..เคสมีชายหนุ่มลูกพี่ลูกน้องอยู่คนหนึ่งอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านตั้งแต่เด็กคนนี้ยังเรียนมหาวิทยาลัยไม่จบ..เคสและภรรยาต่างก็เอ็นดูและรักน้องผู้ชายคนนี้มากแต่ก็ไม่เคยคิดในประเด็นชู้สาวมาก่อนเลย...เคสรู้สึกผิดสังเกตเกี่ยวกับภรรยาว่าดูสนิทสนมกับชายหนุ่มคนนี้ในช่วงสองปีหลังแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก..จนกระทั่งเกือบปีที่ผ่านมาเคสเสร็จงานที่ต่างจังหวัดเร็วกว่าที่กำหนดเขาก็เลยกลับบ้าน..บ้านเงียบเหมือนไม่มีคนในใจตอนแรกคิดว่าภรรยาคงหลับอยู่ข้างบนก็ไม่อยากปลุกเลยคิดที่จะไปปลุกน้องชายออกไปหาของกินข้างนอกแต่พบว่าภรรยากับน้องชายกำลังมีเพศสัมพันธ์กัน...วูบแรกเคสรู้สึกโกรธมากแต่ก็รู้สึกตื่นเต้นด้วยกับสิ่งที่เห็น...เคสตัดสินใจแอบหลบออกไปอาศัยนอนบ้านเพื่อนอีกคนแทนในคืนนั้นคิดตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรดี...เคสรักภรรยาและไม่อยากสูญเสียเธอไปรวมถึงรักชายหนุ่มรุ่นน้องคนนี้มากๆด้วย...เคสคิดว่าถ้าจะฆ่าหรือทำร้ายสองคนนี้หมาสี่ตัวที่เขาเลี้ยงไว้มันจะลำบากไปด้วย...ตกลงใจคุยกับภรรยาและชายหนุ่มรุ่นน้องว่าเขายินยอมให้ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันได้แต่ต้องป้องกันและเขาก็จะขออยู่ร่วมด้วย...วึ่งภรรยาตอนแรกก็ตกใจและไม่คาดคิดว่าเคสจะตัดสินใจแบบนี้...แต่เมื่อตกลงได้เคสพบว่าเขาเริ่มมีความแข็งขันทางเพศเพิ่มมากขึ้นและภรรยาก็ได้รับความสุขทางเพศมากขึ้น...ฉันถามว่าแล้วอะไรที่เขากังวลใจหรือคิดว่าเป็นข้อเสียของความสัมพันธ์ที่เขามีอยู่ตอนนี้ล่ะ...เคสบอกว่าเขาไม่อยากให้ภรรยาเกิดการตั้งท้องเพราะเขาไม่แน่ใจว่าเขาจะยอมรับได้หรือเปล่าและอาจลำบากใจในการตรวจหาว่าใครคือพ่อเด็ก...ส่วนเรื่องโรคเอดส์เขามั่นใจว่ารุ่นน้องไม่ใช่เด็กเหลวไหล...ฉันก็ฟังเฉยๆไม่ขัดให้เคสได้เล่าเรื่องต่อ...ฟังเหมือนเขาอยากจะหาความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เขาทำอยู่คือการแลกเปลี่ยนคู่สัมพันธ์ภายในกลุ่มสามคนแบบนี้ไม่ผิด,ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน...ฉันไม่ตอบแต่ฝากคำถามให้เขาคิดว่าในความสัมพันธ์นอกจากความสุขสมใจในเซ็กซ์แล้วเขามีอย่างอื่นๆที่คิดว่าสำคัญอีกไหม...และถ้าต่อมาในคู่ของเขาอยากยุติความสัมพันธ์แบบนี้เขาจะทำอย่างไรต่อไป...และถ้าเกิดต่อมาเขาเจอบางคู่สามีภรรยาที่ก็มีความสนใจหรือมีพฤติกรรมแลกเปลี่ยนคู่นอนมาชวนให้เขาร่วมวงด้วยเขาจะร่วมด้วยไหม...เคสนิ่งเงียบบอกว่าเขาไม่เคยคิดในแง่นี้มาก่อน...เขาจะไปคุยกับภรรยาและรุ่นน้องถึงข้อจำกัด/กติกาที่เขาคิดว่าสำคัญที่จำให้อยู่ด้วยกันราบรื่นแบบนี้ต่อไป...เขาขอบใจฉันที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการคุมกำเนิดและวิธีการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และรวมถึงการที่ฝากข้อคิดบางอย่างที่เขาไม่ได้นึกถึง....
จบเคสนี้ฉันก็ได้เรียนรู้เพิ่มบางอย่างว่า เราทุกคนมีกรอบแนวคิดของตนอยู่เสมอ...การคุยปัญหาเพศด่านสำคัญคือกรอบศีลธรรมทั้งของผู้พูดและผู้ฟัง...ถ้าฉันรีบสอนให้เคสนึกถึงศีลธรรมประเพณีเขาก็จะรีบปิดกั้นตัวเองหาเหตุผลอ้างอิงให้สิ่งที่ตัวเองทำนั้นมันดูสมเหตุสมผล...แล้วเราก็อาจลืมมองปัญหาแฝงที่จะเป็นปัญหาต่อเนื่องไปได้หากเคสไม่ตระหนักถึงการป้องกันหรือการลดผลกระทบบางอย่างที่สามารถเกิดขึ้นมาได้....เคสนี้บอกว่าอีกสองหรือสามสัปดาห์เขาจะขอมาปรึกษาใหม่...ฉันก็ตกลงว่าจะไม่ใช้เวลาเกินกว่าสามสิบนาทีเนื่องจากฉันมีเคสอื่นๆที่นัดไว้ด้วย..เขาก็ตกลงและขอบคุณที่ฉันพยายามเปิดใจให้เขาได้เล่าปัญหาที่เขามีอยู่ซึ่งรู้สึกลำบากใจมากที่จะคุยกับใครๆได้....
ความเห็น (1)
บันทึกนี้..มีประโยชน์
แต่ มีความคิดเห็นไม่ค่อยสุภาพ