หน้าแรก
สมาชิก
♥.`๏'-พร ทั้ง หล้...
สมุด
.♥♥ ·° เรื่องเล่...
การบริการด้วยหัวใจ
♥.`๏'-พร ทั้ง หล้า`๏'- ♥
วราภรณ์ สักกะโต
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
การบริการด้วยหัวใจ
HHC
ได้รับเรื่องเล่าที่รพ.ส่งมาให้ เห็นว่าน่าสนใจและอยากบอกเล่าถึงความดี เพื่อเสนอตัวอย่างของการบริการด้วยหัวใจ
พิการกาย.....ใช่ว่าพิการใจ
2
ปีที่ผ่านมา
อารี หญิงสาววัย
24
ปี มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลบ่อย ๆ ด้วยปัญหาปวดจุกแน่นท้อง คลื่นไส้อาเจียน
กินอาหารได้น้อย มาทีไรแพทย์ก็ให้รับยาไปกินที่บ้าน แต่อาการของอารีก็ไม่ดีขึ้น กลับมาโรงพยาบาลด้วยอาการเดิมอีก
แพทย์จึงส่งพบนักจิตวิทยาเพื่อให้คำปรึกษา แต่พอดีเจ้าหน้าที่ไม่อยู่ ข้าพเจ้าได้ทำหน้าที่แทน จึงได้พบกับอารี เป็นครั้งแรก
ในวันนั้นข้าพเจ้ายังมีภารกิจกับงานประจำอยู่ จึงบอกเจ้าหน้าที่แผนกผู้ป่วยนอกให้คนไข้มารอที่หน้าห้อง ซึ่งก็รอนานเกือบครึ่งชั่วโมง เมื่อเสร็จจากภารกิจแล้วจึงให้คนไข้เข้ามาหา อารีเดินมาหาข้าพเจ้า ด้วยขาซ้ายเพียงข้างเดียว ขาขวามองไม่เห็น มีไม้ค้ำยันใช้ในการเดินแทนขา หน้าตาเศร้าๆ
ข้าพเจ้ายังจำความรู้สึกในวันนั้นได้ดี ว่าทั้งตกใจ แปลกใจ และละอายแก่ใจที่เห็นอารี
ตกใจที่คนไข้มีปัญหาทางด้านจิตใจและอยู่ในสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์
แปลกใจที่คนไข้มาโรงพยาบาลเองคนเดียว
และละอายใจที่ปล่อยให้คนไข้นั่งรอ รวมทั้งลึกๆ ก็หนักใจ
“
เราจะช่วยอะไรเขาได้มั้ยนะ
”
เพราะรู้สึกว่าน่าจะมีปัญหาหลายอย่าง
ข้าพเจ้าได้กล่าวขอโทษอารีที่ทำให้ต้องเสียเวลารอนาน และเริ่มพูดคุยทักทาย จนรู้สึกผ่อนคลาย
คนไข้จึงค่อยๆ เล่าเรื่องราวให้ฟัง
อารีเป็นลูกสาวคนสุดท้อง มีพี่ชาย
2
คน พ่อเสียชีวิตไปหลายปี อยู่กับแม่และมีพี่ชายคนโต
ซึ่งเลิกกับภรรยาได้
3
เดือน กลับมาอยู่บ้านด้วย อารีเป็นมะเร็งที่ขาขวาตั้งแต่อายุประมาณ
12
ปี
ตัดขาขวาบริเวณใต้เข่าที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ต่อมามะเร็งลุกลามแพทย์รักษาโดยการตัดขาออกถึงบริเวณต้นขา ได้รับการใส่ขาเทียม แต่อารีไม่ค่อยชอบใส่เพราะ เจ็บบริเวณรอยต่อของขาจริงและขาเทียม
อารีมักจะเดินโดยใช้ไม้ค้ำยัน บางครั้งก็ใช้รถเข็น อารีเรียนจบชั้น ม.
3
ทั้งที่อารีเรียนเก่งและอยากเรียนต่อมาก แต่แม่กับพี่ชายก็ไม่ให้เรียนเพราะคิดว่าอารีไม่สมประกอบเหมือนคนอื่นกลัวจะลำบาก
ให้อยู่บ้านเฉยๆ
แต่อารีก็พยายามดูแล ช่วยเหลือตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของผู้อื่น ช่วยทำกับข้าว ถูบ้าน ล้างจานเหมือนคนปกติ ไปเที่ยวกับเพื่อน ไปไหนมาไหนได้เอง โดยไม่ต้องมีใครเป็นห่วง เวลาว่างอารีจะรับถักเสื้อโครเชท์ พอมีรายได้เพิ่มจากที่แม่และพี่ชายให้ แต่แม่ก็มักจะห้ามไม่ให้ทำอะไร
อารีมีอาการปวดท้องบ่อยๆ มาโรงพยาบาลหมอก็ให้ยารักษาโรคกระเพาะอาหารไปกิน
แต่อาการก็เป็นๆ หายๆ มาเรื่อยๆ เมื่อได้มีเวลาพูดคุยจึงรู้ว่า
จริงๆ แล้ว อารีมีความวิตกกังวลกลัวว่ามะเร็งจะลุกลามอีก
แต่ไม่กล้าบอกใคร พอมีอาการปวดท้องเมื่อไหร่ อารีก็มักจะคิดไปว่ามะเร็งลุกลามมาอีกแล้วแน่ๆ จึงได้พูดคุยให้กำลังใจ ให้คุยกับแพทย์เรื่องโรคที่เป็น จนสบายใจ กลับไปบ้านได้
ประมาณ
1
อาทิตย์ อารีก็กลับมาขอพบข้าพเจ้าเอง ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง ตอนแรกก็คิดว่า เป็นปัญหาเดิม แต่พอคุยไป ก็ไม่ใช่ เรื่องความเจ็บป่วย ถามเรื่องที่บ้านก็บอกว่าไม่มีปัญหา จนลองเอ่ยถามเรื่องแฟน จึงได้รู้ว่าที่มีปัญหาก็น่าจะเป็นเรื่องนี้ อารีเล่าว่าได้ รู้จักสนิทสนมกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเขาเคยมีเมียมาแล้วแต่เลิกกัน เขาเป็นคนน่าสงสาร นิสัยดี ชอบช่วยเหลืออารีอยู่เสมอ อารีชอบเข็นรถเข็นไปคุยกับเขาที่บ้าน จนสนิทกัน อารีบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขา แต่พี่ชายของอารีไม่พอใจ หาเรื่องด่าว่าอยู่เสมอ จนอารีไม่มีความสุข ยิ่งเวลาพี่ชายเครียดเรื่องเมียหนีไป ก็มักจะกินเหล้าจนเมา แล้วก็หาเรื่องมาด่าว่าอย่างรุนแรง
“
คนพิการอย่างแก ใครเขาจะมาจริงจัง
”
“
คนดีๆ มันยังไม่เอา อย่างแกเดี๋ยวมันก็ทิ้ง
”
จนอารีทั้งอายทั้งเสียใจ ไม่กล้าออกไปไหนบางครั้งพี่ชายก็ไปต่อว่าผู้ชายคนนั้น จนเขาไม่กล้าคุยกับอารีอีก ทำให้ยิ่งรู้สึกแย่ลงเหมือนอยู่คนเดียวในโลก
ข้าพเจ้าอยากช่วยอารีให้กลับมาเข้มแข็ง ต่อสู้กับชีวิตได้ดังเดิม จึงพยายามให้กำลังใจชี้ ให้เห็นจุดดีที่อารีมี ให้อารีมองเห็นคุณค่าของตัวเอง ให้มองเห็นความรัก ความห่วงใยของคนในครอบครัว รวมทั้งให้เรียนรู้การพูดแสดงความรู้สึกเพื่อให้คนอื่นเข้าใจ ซึ่งดีกว่าการเก็บกดอย่างที่เคยทำ อารีกลับไป โดยข้าพเจ้าได้ให้เบอร์โทรศัพท์ของข้าพเจ้าไปด้วย เผื่อเวลามีปัญหา หาทางออกไม่ได้ ก็ให้โทรศัพท์มา
อารีโทรฯ มาหาอยู่
3
ครั้ง ปัญหาก็ค่อยๆ คลี่คลายไป
ข้าพเจ้าไม่เคยรู้สึกว่าถูกรบกวน เวลาที่อารีโทรศัพท์มาขอคำปรึกษา แม้ว่าจะเป็นวันหยุด หรือนอกเวลาราชการกลับดีใจเสียอีก ที่เขารู้สึกไว้ใจเรา เพราะเวลาที่คนเราเกิดปัญหา อึดอัด คับข้องใจ
เลือกเวลาไม่ได้
แค่เพียงได้บอกเล่าให้ใครสักคนฟัง ก็อาจจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
หลังจากวันนั้นอารีก็หายหน้าไป
จนผ่านไป
2-3
เดือน ได้มีโอกาสไปที่สถานีอนามัยใกล้บ้านของอารี จึงชวนเจ้าหน้าที่ออกไปเยี่ยมบ้านด้วย อารีท่าทางดีใจ ดูสบายใจขึ้น แต่บ่นว่าเหงาไม่มีอะไรทำ พอดีที่สถานีอนามัยอยากได้คนช่วยงาน จึงลองชวนอารีไปทำงาน โดยให้เจ้าหน้าที่ขออนุญาตกับแม่ ซึ่งแม่ก็ตกลงจะได้ไม่ต้องเบื่อที่ต้องอยู่บ้านเฉยๆ
อารีไปช่วยงานที่สถานีอนามัยอย่างขยันขันแข็ง ทำหน้าที่ช่วยทำบัตร ซักประวัติ วัดไข้ วัดความดันโลหิต ช่วยจัดยา จากตอนแรกได้ค่าจ้างเป็นรายวันเพียงเล็กน้อย แต่อารีก็ภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนบ้าน
ตอนนี้อารีทำงานมาเกือบ
2
ปีแล้วได้ตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ และมีเงินเดือนประจำ รวมทั้งได้แต่งงานกับชายหนุ่มที่เธอรัก นานๆ ครั้ง อารีจึงจะแวะมาที่โรงพยาบาลเพื่อรับยาให้แม่ และแวะมาทักทายข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าดีใจที่เห็นอารีมีความสุข
แม้ความพิการทางร่างกายจะรักษาไม่ได้
แต่เราก็ช่วยดูแลรักษาไม่ให้จิตใจพิการได้
เพียงแค่เราให้เวลา
รับฟังเขา และพร้อมที่จะเข้าใจเขา ดูแลเขาด้วยหัวใจ ที่มีความรักและปรารถนาดี
ก็จะช่วยให้คนไข้มีพลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไปอย่างมีคุณค่า
“
ขาข้างเดียวของอารี อาจดูไม่มั่นคงนักในสายตาคนอื่น
แต่หากปราศจากจิตใจที่เข้มแข็ง แล้ว
แม้มีสองขา ก็มิอาจก้าวไปข้างหน้าได้
”
เขียนใน
GotoKnow
โดย
♥.`๏'-พร ทั้ง หล้า`๏'- ♥
ใน
.♥♥ ·° เรื่องเล่าของพอลล่า·° .♥♥
คำสำคัญ (Tags):
#hhc
หมายเลขบันทึก: 76760
เขียนเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2007 22:42 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2012 15:39 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
♥.`๏'-พร ทั้ง หล้...
สมุด
.♥♥ ·° เรื่องเล่...
การบริการด้วยหัวใจ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท