เป้าหมายโครงการ KM แก้จนเมืองนครคือชุมชนเข้มแข็งสมบูรณ์อย่างยั่งยืน หรือคือชุมชนอินทรีย์ นิยามคำว่าแก้จนคำนี้จึงไม่ใช่มิติของตัวเลขเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ออม อย่างเดียวเท่านั้น
แต่โครงการ KM แก้จนเมืองนครรวมทุกเรื่องราวของชีวิตของชุมชนเข้าด้วยกัน
การเชื่อมร้อยเนื้อหาเรื่องราวต่างๆเข้าด้วยกันเพื่อให้ชาวบ้านได้ปฏิบัติและเรียนรู้สู่ชุมชนอินทรีย์จึงมีความสำคัญยิ่ง
วันนี้ดีใจที่เห็นการเชื่อมร้อยดังกล่าวขึ้นอีกเนื้อหาเรื่องราวหนึ่ง เมื่อโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เชื่อมต่อโครงการชุมชนเข้มแข็งเมืองไทยแข็งแรงเข้าด้วยกันกับโครงการจัดการความรู้แก้จนเมืองนคร ให้เป็นวงเรียนรู้เดียวกัน อย่างน้อยก็กับเป้าหมายที่จะดำเนินการในพื้นที่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
เจ้าภาพการประชุมคือโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชได้จัดวงเรียนรู้นี้ขึ้นที่ห้องประชุมเล็กของโรงพยาบาลมหาราช เชิญหน่วยงานที่ปฏิบัติงานระดับพื้นที่เข้าร่วมประชุม หลักๆ ก็ได้แก่ กศน. พช. สอ. และ กษ จากทุกตำบลของอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช รวมกับเจ้าหน้าที่บุคลากรของโรงพยาบาลและหน่วยงานอื่นๆแล้วประมาณ 50 คน มีรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล (นายแพทย์ประวิง) เป็นประธานการประชุม
เป้าหมายการพูดคุยวันนี้คือโรงพยาบาลมหาราชอยากเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานกับชาวบ้านมากขึ้น เพราะจุดมุ่งหมายของโครงการชุมชนเข้มแข็งเมืองไทยแข็งแรงนั้นต้องการที่จะให้โรงพยาบาลมหาราชเป็นแม่ข่ายทำงานเชิงรุกในเรื่องสุขภาวะ ต้องการที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับหน่วยงานที่มีเครือข่ายในพื้นที่ รวมทั้งหน่วยงานของท้องถิ่น อบต. เทศบาล
ต้องการนำประสบการณ์เหล่านี้ไปจัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายสุขภาวะในชุมชน ให้ชุมชนสามารถดูแลเรื่องสุขภาวะของชุมชนของตนเองได้ ตั้งแต่สามารถสร้างความรู้ความเข้าใจกับคนในชุมชนจนผลักดันเข้าไว้ในแผนในข้อบัญญัติงบประมาณของท้องถิ่น เช่น อบต. เทศบาล และดำเนินการต่อเนื่องตามรายละเอียดของโครงการที่ท้องถิ่นให้การสนับแล้วนั้นจนเป็นผล
ผมดีใจที่นายแทย์ประวิง ประธานที่ประชุมกล่าวเชิงยอมรับ และคงจะถ่อมตัวด้วยว่าเรื่องการทำงานเชิงพื้นที่อย่างนี้โรงพยาบาลมหาราชมีประสบการณ์น้อยมาก อยู่ในขั้นที่ 1 ในจำนวนทั้งหมดกี่ขั้นท่านก็ไม่ได้บอก ยกย่องหน่วยงานที่เชิญไปว่ามีประสบการณ์สูง อยากเรียนรู้ประสบการณ์ ใครจะรู้สึกอย่างไรไม่ทราบ ส่วนตัวผมแล้วรู้สึกว่าเขินมากทีเดียวกับคำว่ามีประสบการณ์นี่
ผมจึงพูดถึงการมีประสบการณ์ในพื้นที่ตรงนี้ว่า ภาคประชาชนอย่างเครือข่ายแผนชุมชนพึ่งตนเองภาคใต้ นำโดยผู้ใหญ่โกเมศว์ ทองบุญชู ที่เคลื่อนงานเรื่องสวัสดิการชุมชนระดับตำบลอยู่ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์สูงจริงๆ แม้จะเป็นประสบการณ์ในประเด็นสวัสดิการชุมชน ที่แตกต่างกันไป แต่ก็ใช้เรียนรู้ได้ในประเด็นสุขภาวะที่ผู้จัดประชุมครั้งนี้ต้องการ ท่านทำเรื่องนี้จนได้มีพื้นที่เด่นชัดที่จะนำเสนอได้อยู่แล้ว 18 ตำบล เรียกว่ามี best practice ว่างั้นเถอะ ทำอย่างไรจึงผลักดันให้ อบต.อุดหนุนงบประมาณจนใส่ไว้ในข้อบัญญัติงบประมาณได้ ปฎิบัติการตามรายละเอียดที่เขียนไว้ในแผนงานโครงการอย่างไร จนเกิดชิ้นงานมากมาย ผมบอกว่าผมได้ติดตามเรื่องนี้และได้บันทึกเอาไว้ในบล็อก gotoKnow คือครูนอกโรงเรียน nfeteacher และแพลนเน็ต KM สกุลเมืองคอน ให้ไปติดตามอ่านรายละเอียดเอาได้เลย ผมบอกลิ้งค์ให้เสร็จสรรพ สังเกตดูหลายคนก็สนใจจด
การเชื่อมเข้าวงเรียนรู้เข้ากับโครงการแก้จนเมืองนครได้นับว่าดีมาก แต่ผมอยากจะเห็นต่อไปว่าทางฝ่ายโรงพยาบาลมหาราชจะสามารถเชื่อมเข้ากับวงเรียนรู้ภาคประชาชนได้ด้วย
ออ ! วันนี้ ครูอาสาฯ 9 คน จาก กศน.อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ที่เข้าร่วมประชุม มีการฝึกลิขิต บันทึกความรู้ด้วย และที่สำคัญคือฝึกจับประเด็นปิ้งแว๊ปครับ มีอะไรที่ตนสนใจจะเล่าในบล็อก พรุ่งนี้นะครับผมจะรายงานให้ทราบ ...เรียนรู้จากหน้างานกันนะครับ
6 ก.พ.50
น้องสิงห์ป่าสักครับ
ขอบคุณครูนงที่มาแจ้งข่าวดีเก่ยวกับบทบาทของภาคสาธารณสุขในการขับเคลื่อจังหวัดบูรณาการ ทราบว่าท่านนายกจะไปประกาศนโยบายอยู่ดีมีสุขที่ นครในวันที่ 21 มีนานี้ น่าจะเป็นเครื่องยืนยันความพร้อมเพรียงของ ประชาคม และราชการใน จว
คงมีอีกหลายจังหวัดที่เข้มแข็งไม่แพ้กัน
ดร.เอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ รองเลาขาธิกการนายกฯฝ่ายบริหารแจ้ง ที่โรงแรมแกรนด์ปาร์ค นครศรีธรรมราช เมื่อศุกร์ที่ 2 มี.ค.ในเวทีประชุมสัญจรของสภาผู้นำชุมชนแห่งชาติที่มี คุณประยงค์ รณรงค์ เป็นประธาน ว่า วันที่ 22 มีค.จะมีการเปิดตัว 2 จุดพร้อมกัน ครับ คือที่จังหวัดนครศรีฯ กับที่เชียงใหม่ครับ รองนายกโฆษิตมาที่นครศรีฯ ส่วนนายกฯจะไปที่เชียงใหม่ครับ ข้อมูลผมอาจจะเก่าแล้วก็ได้
ขอบคุณครับ