ทิวาภรณ์ เฉลิมพิชัย, เอมพร รตินธร, เยาวลักษณ์ เสรีเสถียร – คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ดิฐกานต์ บริบูรณ์หิรัญสาร – คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
วัตถุประสงค์
- เพื่อศึกาอัตราการไม่มาตรวจตามนัดหลังคลอดของมารดาที่ติดเชื้อเอชไอวีและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
วิธีการวิจัย
- เป็นการศึกษาเชิงระบาดวิทยาแบบภาคตัดขวางโดยผ่านการรับรองจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
- ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ มารดาที่ติดเชื้อเอชไอวีที่มาคลอดบุตรที่โรงพยาบาลศิริราชทุกราย ในช่วงระยะเวลาระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 2543 ถึง 31 ต.ค. 2547 ทั้งที่ไม่มีอาการและมีอาการแสดงของโรคเอดส์ จำนวน 468 ราย ดดยการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบบันทึกปัจจัยเสี่ยงและแบบบันทึกการให้การปรึกษาของมารดาหลังคลอดที่ติดเชื้อเอชไอวี วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ไคสแควร์ ความหนักแน่นของความสัมพันธ์ ช่วงแห่งความเชื่อมั่น (OR, 95%CI) และการวิเคราะห์ถดถอยลอจิสติก
ผลการศึกษา
- อัตราการไม่มาตรวจตามนัดหลังคลอดของมารดาที่ติดเชื้อเอชไอวีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544-2547 คิดเป็นร้อยละ 32.8,40.2, 46.5 และ 37.0 ตามลำดับ อัตราเฉลี่ยตลอด 4 ปี คิดเป็นร้อยละ 38.7 โดยพบว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการไม่มาตรวจตามนัดหลังคลอดของมารดาที่ติดเชื้อเอชไอวีอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ สถานภาพสมรส, ความเพียงพอของรายได้, การมาฝากครรภ์ , การเปิดเผยการติดเชื้อเอชไอวี และสัมพันธภาพระหว่างคู่สมรส ปัจจัยที่สามาถร่วมทำนายการไม่มาตรวจตามนัดหลังคลอดของมารดาที่ติดเชื้อเอชไอวี ได้แก่ การไม่มาฝากครรภ์ และการไม่เปิดเผยการติดเชื้อเอชไอวี โดยอธิบายความผันแปรของการไม่มาตรวจตามนัดหลังคลอดได้ร้อยละ 28.1
สรุป
- ปัจจัยที่สามารถร่วมทำนายการไม่มาตรวจตามนัดหลังคลอดของมารดาที่ติดเชื้อเอชไอวี ได้แก่ การไม่มาฝากครรภ์ และการไม่เปิดเผยการติดเชื้อเอชไอวี
จากการประชุมวิชาการ เสนอผลงานวิจัยบัณฑิตศึกษา ครั้งที่ 1
เรื่อง บัณฑิตศึกษาเพื่อการพัฒนาประเทศไทย
30-31 มกราคม 2550 ณ อาคารบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
ไม่มีความเห็น