ติดตามอ่านบันทึกของพี่โอ๋มาหลายบันทึก ไม่ค่อยได้ชำแหละมากนัก และแล้วพี่โอ๋ก็เขี่ยลูกมาเข้าทาง นายบอนจึงรีบลงมือซะเลย
พี่โอ๋เปิดมาเจอ Gotoknow trend 2549: กราฟแสดงแนวโน้มการเขียนบันทึกตลอดปี 2549
และให้ความเห็นไว้ว่า
โอ๋-อโณ เมื่อ จ. 05 ก.พ. 2550 @ 01:27 |
ครับ....
การวบรวมสถิติ เป็นความคาดหวังในเชิงปริมาณ คล้ายเป็นการกระตุ้นให้ทำแต้ม แต่จะทำหรือไม่ อยู่ที่วิจารณญาณแต่ละท่าน
สถิติที่รวบรวมมารายงาน คือสิ่งที่แต่ละท่านได้ใช้ความพยายาม มันสมอง ความคิดในการถ่ายทอดออกมา เมื่อได้อ่านบันทึกจากคนเขียนบล็อกท่านนั้นแล้ว ชื่นชอบในมุมมอง แนวคิด ก็อยากจะอ่านเรื่องต่อๆไปอีก เช่นบันทึกในแบบพี่โอ๋-อโณ ซึ่งพี่โอ๋จะเขียนเท่าที่มีเวลาเขียน
เคยเขียนความเห็นของหลายท่าน ว่า เขียนอีกนะ เขียนบ่อยๆนะ แต่ไม่เห็นเขียน..
... เปลี่ยนแนวใหม่มาแบบอ้อมๆ รายงานสถิติ เพื่อเป็นแรงกระตุ้น ให้เอาชนะตัวเอง ซึ่งคนเขียนบล็อกหลายท่าน ทำได้ บางท่านไม่สะดวกจริงๆ
การเอาชนะตัวเอง จากจำนวนบันทึกที่ตนเองเคยทำได้มาก่อน แต่ละท่านจะพยายามหรือไม่ คำตอบก็อยู่ที่แต่ละท่าน ไม่มีใครสามารถไปบังคับได้
การรายงานสถิติทำให้มองเห็นความคิดเห็นต่างๆของแต่ละคน บันทึกหนึ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง คือ บันทึกของคุณหมอสมบูรณ์ เทียนทอง เหตุผลที่ผมไม่ทำลายสถิติเดิม
ท่านเขียนแสดงถึงจุดยืนที่ชัดเจน แสดงให้เห็นถึงวิธีคิด และก้าวย่างที่มั่นคงของท่าน
สถิติที่รวบรวมนี้ สามารถเป็นกระจกสะท้อนความคิดเห็นได้หลากหลายเช่นกัน
1. การสร้างความกระตือรือร้นให้ตัวเอง สำหรับผู้ที่มีพลัง มีความมุ่งมั่น ในขอบเขตและขีดความสามารถของตนเอง
2. การบั่นทอนกำลังใจของตัวเอง เนื่องจากข้อจัดหลายอย่าง เมื่อเห็นรายงานสถิติแล้วรีบทำการบั่นทอนศักยภาพของตนทันที ด้วยเหตุผลต่างๆ
3. ทำให้รู้จักตัวเอง และยอมรับในศักยภาพของตัวเอง ท่าน นพ.สมบูรณ์ เทียนทองได้เขียนบันทึกไว้อย่างชัดเจนครับ จากบันทึก เหตุผลที่ผมไม่ทำลายสถิติเดิม แสดงให้เห็นถึงการเปิดใจกว้าง ไม่ใช้ถ้อยคำที่สละสลวยมาปลอบใจตัวเอง แต่ยอมรับและมีจุดยืนในศักยภาพ และเป้าหมายของท่านเอง
สิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ การกระตุ้นด้วยการรายงานสถิติ รายงานจำนวนบันทึก บันทึกที่เขียนออกมา ไม่ว่าจะมากหรือน้อย นั่นคือ การถ่ายทอดมุมมอง ความคิดออกมา ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกิดประเด็นใหม่ๆ ร้อยรัดความรู้ให้เข้มแข็ง เติบโตมากขึ้น
- บางท่าน มองกราฟ มองสถิติเพียงแค่ตัวเลขขึ้นๆลงๆเท่านั้น บางท่านยิ่งคิดว่าเป็นสิ่งที่บั่นทอนกำลังใจตัวเอง
บันทึกที่พี่โอ๋ เขียน เป็นการหยิบแก่น หรือหัวใจออกมา
บันทึกการรายงานสถิติจำนวนบันทึกของนายบอน เป็นการหยิบเปลือกออกมาก่อน เพราะหารเห็นเปลือกนั้น ง่ายกว่า การมองให้ถึงแก่นที่ต้องใช้เวลา
จึงต้องใช้เวลากว่าจะมองทะลุเปลือกให้ถึงแก่น
แต่คุณหมอสมบูรณ์ใช้เวลาไม่นาน หลายท่านสามารถมองทะลุเปลือกเข้าไปถึงแก่นของความรู้ได้ครับ
หมายเหตุ บันทึกนี้ได้แรงกระุต้นมาจากข้อความของพี่โอ๋ ดังนี้ครับ
จาก บันทึก การทำให้ GotoKnow เป็นคลังความรู้ของประเทศไทย นั่นเอง
พอรู้สึกว่าเข้าใจแล้วว่าทำไมเราควรทำ ก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่ควรอยู่นิ่ง น่าจะรีบๆขยายความคิดนี้ออกไป
เชื่อมั่นว่าคนทุกคนมีความรู้เฉพาะตัวที่มีประโยชน์
งานต่อไปในระดับที่สูงขึ้นไปอีก ก็คือการช่วยส่งเสริมให้ผู้อื่นถ่ายทอดความรู้ออกมาเก็บไว้
เราจะมีขุมทรัพย์ความรู้ไว้ใช้กันในอนาคต ขุมทรัพย์ความรู้ที่มาจากหลายๆชุมชน ทุกระดับ
ขอ ให้พวกเราช่วยๆกันสุดกำลัง ตามบทบาทที่เราจะทำได้ หากเราจะต้องล้มหายตายจากไป เราจะได้ภูมิใจว่าเรามีส่วนช่วยสร้างมรดกเหล่านี้เก็บไว้ให้บ้านเมืองของเรา
ชำแหละเสร็จ ก็แอบจิ๊กรูปจาก blog พี่โอ๋มาใช้ซะอีก
คิดถึงอดีตค่ะ