จะพัฒนาเครือข่ายให้ก้าวหน้าไม่ให้เรียวลงๆได้อย่างไร


สาเหตุที่เครือข่ายเรียวปลายเหมือนหางหนู ท่านอธิบายว่าเพราะคนทำงานไม่ว่าระดับนำหรือประชาชนทั่วไปเป็นคนที่คิดจะเอาประโยชน์จากส่วนรวม ไม่มีจิตสาธารณะ คิดแต่จะนำพวกพ้องเครือญาติมาทำเครือข่าย ไม่เปิดโอกาสกับคนที่อยากทำงานโดยทั่วไปได้ทำ และถ้าในเครือข่ายมีคนเก่งหลายคนก็ประสานความคิดกันไม่ได้ ไม่ยอมลงความเห็นให้กันและกัน ครอบกันไม่ลง สวมกันไม่ได้เพราะตัวเท่าๆกัน ถ้าเป็นถ้วยชามก็เบอร์เดียวกัน จนในที่สุดก็แยกย้ายกันไป

เครือข่ายหลังจากตั้งแล้วจะเจริญก้าวหน้าต่อไปได้หรือไม่ จำเป็นต้องอาศัยความสามารถหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือความสามารถในการเรียนรู้ของเครือข่ายเอง

ผมฟังประสบการณ์การทำงานเครือข่ายของเครือข่ายแผนแม่บทชุมชนพึ่งตนเองภาคใต้ นำโดยผู้ใหญ่โกเมศว์ ทองบุญชู ประธานเครือข่ายฯ เล่าเมื่อวัน 29 ม.ค.50 ในการประชุมขับเคลื่อนงานพัฒนาของภาคประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาสุขภาพภาคประชาชนภาคใต้นครศรีธรรมราช แล้วผมก็สรุปอย่างนั้น

ผู้ใหญ่โกเมศว์ ท่านเล่าว่าเมื่อเริ่มต้นสร้างเครือข่ายก็มักจะสร้างเสียใหญ่โต ครอบคลุมพื้นที่และผู้คนมากมาย แต่พัฒนาการไปไม่ถึงไหนไม่เจริญก้าวหน้า สุดท้ายซบเซา ลีบและเล็กลง ท่านใช้ศัพท์ของท่านว่าทำเครือข่ายแบบเรียวหางหนู หางหนูมันจะเรียวปลาย การทำเครือข่ายที่เริ่มจากใหญ่แล้วไม่ค่อยพัฒนาสุดท้ายลีบลงๆ ก็เหมือนกับหางหนูอย่างไงอย่างงั้นเลยครับ

เครือข่ายแผนแม่บทชุมชนพึ่งตนเองฯที่ท่านขับเคลื่อนอยู่ก็เป็นอย่างนั้น เริ่มต้นจากทำใหญ่โตเหมือนกัน คิดทำในทุกตำบลของจังหวัดนครศรีธรรมราชจำนวน 165 ตำบล ทำมานานหลายปี จนมีผลงานที่เด่นชัด มี อบต.กำหนดข้อบัญญัติงบประมาณให้การหนุนเสริมแผนแม่บทชุมชนฯแล้วจำนวน 72 ตำบล ยังได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนตำบลทั้งหมดของจังหวัดฯ และที่เด่นชัดในเรื่องสวัสดิการชุมชนระดับตำบลที่ อบต.ได้ให้งบประมาณหนุนเสริม และปฏิบัติการตามแผนจนเห็นผลกับชาวบ้านแล้วจำนวน 18 ตำบล (ถอดบทเรียนและนำเสนอในวันประชุม)

สาเหตุที่เครือข่ายเรียวปลายเหมือนหางหนู  ท่านอธิบายว่าเพราะคนทำงานไม่ว่าระดับนำหรือประชาชนทั่วไปเป็นคนที่คิดจะเอาประโยชน์จากส่วนรวม ไม่มีจิตสาธารณะ คิดแต่จะนำพวกพ้องเครือญาติมาทำเครือข่าย ไม่เปิดโอกาสกับคนที่อยากทำงานโดยทั่วไปได้ทำ และถ้าในเครือข่ายมีคนเก่งหลายคนก็ประสานความคิดกันไม่ได้ ไม่ยอมลงความเห็นให้กันและกัน ครอบกันไม่ลง สวมกันไม่ได้เพราะตัวเท่าๆกัน ถ้าเป็นถ้วยชามก็เบอร์เดียวกัน จนในที่สุดก็แยกย้ายกันไป

ผมฟังผู้ใหญ่โกเมศว์พูดแล้ว เห็นว่าภาคประชาชน ภาคประชาสังคม เขาได้เคลื่อนงานแบบนี้มาก่อนนานแล้ว ได้มีประสบการณ์มีบทเรียนที่ดี ควรแก่การเรียนรู้โดยเฉพาะกับโครงการจัดการความรู้แก้จนเมืองนครฯที่เราที่ทำงานนี้มาได้ 2 ปีแล้ว

ทำอย่างไรไม่ว่าจะเครือข่ายคุณอำนวยระดับต่างๆของโครงการฯไม่ว่าระดับอำเภอ ระดับตำบล เครือข่ายแกนนำหมู่บ้านซึ่งตั้งความหวังให้เขาเป็นคุณอำนวยหมู่บ้านให้ได้ในระยะสุดท้าย ครัวเรือนที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการจัดการความรู้แก้จนเมืองนครที่จะขยายเพิ่มขึ้น หน่วยงานภาคีเครือข่ายที่มาร่วมทำงานด้วยกัน หรือแม้แต่เครือข่ายคุณลิขิตบล็อกเกอร์ที่เราอบรมและทำแผนการพบปะเพื่อขับเคลื่อนงานไว้อย่างชัดเจนแล้ว มีจิตเบิกบานที่จะทำงานหน้าตักของตนเองไปอย่างมีความสุข  อย่าให้เครือข่ายต้องเป็นเครือข่ายแบบเรียวหางหนู อย่างที่ผู้ใหญ่โกเมศว์ ทองบุญชู ว่าเอาไว้เลย

ภาคประชาชนภาคประชาสังคมเขาทำงานเครือข่ายมาก่อน บอกประสบการณ์ให้อย่างนี้แล้ว แล้ว KM ภาคราชการจะไม่รีบนำเอาไว้เป็นบทเรียนกันหรือครับ

ต้องเรียนรู้วิธีการทำงานจากชาวบ้านกันเยอะๆนะครับ

นำประสบการณ์ดีๆมาฝากครับ

หมายเลขบันทึก: 76285เขียนเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2007 22:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

เข้ามาเรียนรู้ค่ะ

  • เหตุที่เครือข่ายเรียวปลายเหมือนหางหนู ... เพราะคนทำงาน ไม่ว่าระดับนำ หรือประชาชนทั่วไป เป็นคนที่คิดจะเอาประโยชน์จากส่วนรวม ไม่มีจิตสาธารณะ คิดแต่จะนำพวกพ้องเครือญาติมาทำเครือข่าย ไม่เปิดโอกาสกับคนที่อยากทำงานโดยทั่วไปได้
  • ถ้าในเครือข่ายมีคนเก่งหลายคนก็ประสานความคิดกันไม่ได้ ไม่ยอมลงความเห็นให้กันและกัน ครอบกันไม่ลง สวมกันไม่ได้เพราะตัวเท่าๆ กัน ถ้าเป็นถ้วยชามก็เบอร์เดียวกัน จนในที่สุดก็แยกย้ายกันไป 

เห็นจะจริง และ

  • ทำอย่างไร ... ให้หน่วยงานภาคีเครือข่ายที่มาร่วมทำงานด้วยกัน หรือแม้แต่เครือข่ายคุณลิขิต บล็อกเกอร์ ... มีจิตเบิกบานที่จะทำงานหน้าตักของตนเองไปอย่างมีความสุข ... 

ขอบคุณค่ะ สำหรับบทเรียนที่มีคุณค่ายิ่งชิ้นนี้

 

  • ตามคุณหมอนนทลีเข้ามาร่วมเรียนรู้ด้วยคนนะครับ
  • เห็นด้วยครับเครือข่าย จะสำเร็จไม่ได้หากมองแต่ประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง และไม่มีจิตสาธารณะ

คุณหมอนนทลี แห่งเพื่อนร่วมทางครับ

        หากเราจะได้สกัดออกมา เราก็จะได้ความรู้จากชาวบ้าน ภาคประชาชนมากมายครับ นี่คือตัวอย่างครับ หากผมมีโอกาสไปร่วมอีกเมื่อไหร่ ผมสัญญาว่าจะนำมาเล่าอีกนะครับ.......ขอบคุณที่เข้ามา ลปรร. 

น้องสิงห์ป่าสัก ครับ

      เขียนเอาไว้เพื่อเรียนรู้และเตือนตนเองครับ

ผมว่าขึดจำกัดที่เวลาครับ

ผมไม่มีปัญหาเรื่องเรียวลง แต่มีปัญหาแผ่วลงครับ เมื่อเราต้องกระจายเวลาไปบนเครื่อข่ายที่กว้าง

แต่วันหนึ่งก็ลงตัว

สำคัญที่ความเข้าใจซึ่งกันและกันครับ

ดร.แสวง ครับ 

เขียนเอาไว้เตือนตนเองครับ เพราะ KM ราชการมันมีบทเรียนมามากว่าทำใหญ่ไปก่อน แล้วสุดท้ายก็ค่อยจางลงๆ ซึ่งจริงๆแล้วน่าจะทำจากเล็กๆไปก่อน แต่ก็เล็กอย่างมีคุณภาพครบเครื่องนะครับ แล้วค่อยขยายใหญ่ขึ้นๆ อย่างนี้จะจีรังยั่งยืนมากกว่า แต่ที่ต้องทำใหญ่ครอบคลุมหมดทุกพื้นที่ก็มีเหตุผลอีกครับว่าโอกาสในการเรียนรู้จะต้องให้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน จะเลือกปฏิบัติกับบางหมู่บ้าน ตำบล ก็ไม่ได้อีก จำเป็นจะต้องทำหมด เมื่อทำหมดกับทุกพื้นที่ก็กลัวจะเข้าทำนองดังกล่าว บทความนี้จึงเอาไว้ระวังตนเองครับ

ขอบคุณครับอาจารย์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท