“สังคมไทยในวันนี้ ขาดคุณธรรม จริยธรรมในทุกระดับ ไม่ต้องไปดูถึงระดับชาติ ดูเพียงระดับคนเดินดินทั่วๆไปก็มองเห็น......” นี่คือข้อสังเกตของเพื่อนนายบอนที่โรงพยาบาลวชิระ กทม.
ครูอ้อย สิริพร กุ่ยกระโทก เคยทำการศึกษาวิจัยพฤติกรรมคนบนรถเมล์ใน กทม. ซึ่งจะต้องนั่งรถเมล์ร้อน และเลือกนั่งสายที่วิ่งเป็นระยะทางยาวๆ นั่งดูพฤติกรรมชาวบ้านชาวช่อง แล้วจดข้อความลงในสมุดยิกๆๆๆ
การเดินทางด้วยรถเมล์ธรรมดา ต้องเจอกับรถติด ช้าบ้าง บางทีก็ซิ่งหวาดเสียวบ้าง แต่การเดินทางแบบนี้ ใกล้ชิดกับคนในสังคมมากที่สุด
พฤติกรรมคนบนรถเมล์ ทำให้มองเห็นถึงคุณธรรม จริยธรรมที่หล่นหายไปจากใจ...
เด็ก ผู้หญิง คนชรา ยืนโหนรถเมล์โตงเตงไปตลอดเส้นทาง ชายหนุ่มนั่งบนเก้าอี้ยังคงเฉย... ไม่แผลอหลับนะครับ แต่ทำเฉยๆ ไม่รู้ไม่ชี้ นานๆทีจะเห็นสุภาพบุรุษลุกให้ผู้หญิงมีครรภ์นั่งบ้าง
แต่รถเมล์หลายสาย ผู้ชายลุกให้ผู้หญิงนั่งหลายคน , เมื่อมีคนลุกจากที่นั่ง ผู้ชายก็จะสะกิดผู้หญิงที่กำลังยืนอยู่ ให้เดินไปนั่งเก้าอี้
รถเมล์บางสาย พอมีคนลุกจากเก้าอี้ปุ๊บ หนุ่มใหญ่ที่มองเล็งไว้แล้ว รีบเดินเข้าไปนั่งทันที ตัดหน้าผู้หญิงที่กำลังจะเดินไปนั่ง....
นายบอนนั่งรถออกมาจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 เก้าอี้ยังว่างหลายที่ ช่วงที่ผ่านสวนจตุจักร รถติดและค่อยๆเคลื่อนตัวตามหลังรถคันหน้า อยู่ๆรถแท็กซี่ที่อยู่ข้างหน้าเกิดหยุดกะทันหัน รถเมล์ที่ขับตามหลังต้องรีบเหยียบเบรกในระยะกระชั้นชิดทันที ก่อนที่จะชนท้ายรถแท็กซี่ ทำเอาผู้โดยสารหลายคนหัวคะมำไปชนกับราวเหล็กที่อยู่ตรงเบาะหน้าเข้าอย่างจัง
คุณแม่กับลูกชายตัวน้อยก็ไถลไปกระแทกตรงเบาะหน้า ลูกชายหัวโนเล็กน้อย กระเป๋ารถเมล์ที่เป็นผู้หญิง รีบหยิบยาหม่องออกมาทาให้คุณแม่ และคุณลูกทันที
ผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอย่างไม่ระวัง ลื่นไถลจากเบาะมาชนกับเสาเหล็กอย่างแรง กระแทกเข้าที่หัวไหล่ พอตั้งสติได้เขารีบตะโกนโวยวาย และเดินมาเตะประตูรถ ด่าทอคนขับ คนขับจึงชี้บอกว่า เพราะแท็กซี่คันนั้น เบรคกะทันหัน ผู้ชายคนนั้นเลยเดินลงจากรถ ลงมาชี้หน้าคนขับแท็กซี่ และเรียกตำรวจไปที่แท็กซี่คันนั้น
นี่เป็นเหตุการณ์เล็กๆ ที่กลายเป็นเรื่องขึ้นมา จากคนขับแท็กซี่ และผู้โดยสารที่โวยวายคนนั้น
มองถึงเรื่องะระดับชาติ หลายคนมักจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก โดยไม่ได้สนใจว่า คนอื่นจะได้รับผลกระทบหรือไม่
การรักษาผลประโยชน์ของตนกลายเป็นเรื่องใหญ่ในปัจจุบัน หากสูญเสียผลประโยชน์แล้ว ก็พร้อมที่จะฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง แต่ถ้าเป็นผลประโยชน์ของส่วนรวม ของประเทศชาติ ไม่ค่อยใส่ใจมากนัก
อาจจะเป็นเรื่องยากลำบาก ในการปลูกจิตสำนึกเรื่องคุณธรรม จริยธรรมในสังคมไทย แต่ก็จะต้องจุดประกายกันต่อไป
ก่อนที่ความไร้คุณธรรม จะฝังรากลึกในสังคมไทยมากกว่านี้ ก่อนที่จะไม่ได้เห็นคนสละที่นั่งบนรถเมล์ให้เด็ก ผู้หญิง และคนชราอีก ก่อนที่อุบัติเหตุ ความผิดพลาดจะกลายเป็นเรื่องใหญ่มากกว่านี้
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณบอน
ขอบคุณค่ะ
คิดถึง เจ้าของคนเขียนบันทึกนี้
สบายดีนะคะ