เจตนาสัมปทา


ทิ้งท้ายบทนี้ คิดและเห็นภาพของการจัดการศึกษาไทย โดยเฉพาะในภาคส่วนของการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ทำให้ลูกหลานไทย คิดไปข้างหน้าก็ไม่มีความหวัง คิดไปข้างหลังก็ไม่มีความสุข
                                                                                            วันนี้ได้ร่วมกิจกรรมรับมอบอาคารปูนซีเมนต์ไทยเพื่อชุมชน      มหาชีวาลัยอีสาน  อำเภอสตึก   จังหวัดบุรีรัมย์     ผมเชื่อว่าภาพของกิจกรรมครั้งนี้จะคงอยู่ในความทรงจำของทุกท่านที่ได้ร่วมงานในวันนี้     กิจกรรมบ่งบอกถึงใจที่ถึงใจของพันธมิตรทางวิชาการ  แววตาบ่งบอกถึงการเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ และที่สำคัญทำให้เห็นคำอธิบายที่ชัดเจนของการเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้                                     

                               การเกิดเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้  ในแนวคิดหนึ่งเห็นว่า ฐานอันแข็งแกร่งของการเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้จะนำไปสู่การเกิดเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้   ดังคำพระท่านว่า คบคนพาลพาลพาไปหาผิด  คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล   การเรียนรู้เช่นกันหากว่าเพื่อนพ้องน้องพี่ชวนกันทำทุกเรื่องให้เป็นเรื่องที่ต้องเรียน  เครือข่ายการเรียนรู้ก็จะเกิดการเกาะเกี่ยว เกี่ยวก้อยกันหาความรู้ขยายกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ทั่วเมืองไทย 
                                

                              การเกาะเกี่ยว เกี่ยวก้อยกันหาความรู้ ในแต่ละพื้นที่หากช่วยกันค้นหาความรู้  ใช้ความรู้  สร้างชุดความรู้  ความรู้จะเกิดการไหลเวียนจากคนสู่คน  จากชุมชนสู่ชุมชน  ภาพของการเรียนรู้ทั้งในระดับบุคคลและสังคมย่อมปรากฏให้เห็น  
                               

                               การเรียนรู้ทั้งในระดับบุคคล  ระดับสังคม  สิ่งหนึ่งที่เป็นเบื้องหลังหรือแรงขับสำคัญคือเจตนาในการเรียนรู้   เจตนาดีการเรียนรู้ก็จะพบสิ่งที่ดี  เจตนาไม่ดีการเรียนรู้ก็จะพบสิ่งที่ไม่ดี  คำพระท่านเปรียบเจตนาว่าเป็นเหมือนเงิน  เงินเป็นของกลางที่อยู่กับคนดีก็ได้  อยู่กับคนชั่วก็ได้   พระท่านเรียกสิ่งนี้ว่า   
เจตนาสัมปทา   
                             

                          เจตนาสัมปทา  เป็นเจตนาดีสามประการ คือ  
                               
       
1.  ปุพพเจตนา      ก่อนจะทำอะไรต้องมีศรัทธาในสิ่งนั้น                                 
       
2.  มุญจเจตนา      ขณะที่ทำอะไรอยู่นั้น จิตใจที่มีศรัทธา ต้องไม่หวั่นไหว                                
      
      
3.  อปราปรเจตนา    เมื่อได้ทำอะไรไปแล้วให้มีความสุขเมื่อคิดไปถึง    คิดไปข้างหน้าก็ให้มีความหวัง   คิดไปข้างหลังก็ให้มีความสุข                                

                           ทิ้งท้ายบทนี้ คิดและเห็นภาพของการจัดการศึกษาไทย โดยเฉพาะในภาคส่วนของการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน   ที่ทำให้ลูกหลานไทย คิดไปข้างหน้าก็ไม่มีความหวัง   คิดไปข้างหลังก็ไม่มีความสุข  
                              
                       
                        
ทุกข์ทางการศึกษา  สิ่งใดคือต้นเหตุ   สิ่งใดเป็นหนทางแห่งการดับทุกข์                                        
หมายเลขบันทึก: 76009เขียนเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2007 20:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 เมษายน 2012 14:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • การศึกษาแบบเราจัดง่ายดีครับผม
  • ไม่เหมือนระบบราชการจัดยากมาก
  • มาทักทายครับ
  • ขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะจะนำ เจตนาสัมปทา   เป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อการเรียนรู้ต่อไปค่ะ

ท่าน ผอ.

รู้สึกปลื้มครับ ที่ท่านผอ.นำมาประยุตก์ใช้อธิบาย...

โบราณาจารย์เปรียบเทียบไว้หลักคำสอนของพระพุทธเจ้าไว้หลายนัย เช่น

เหมือนดังทะเล ทะเลค่อยๆ ลึก มีทั้งระดับตื้นๆ และลึกหยั่งไม่ถึง คำสอนก็มีทั้งง่ายๆ และยากๆ...

ในทะเลเป็นแหล่งรวมสรรพสิ่งมีค่ามากมาย คำสอนก็มีสิ่งหลายหลากที่มีคุณค่า เช่นนั้น..

เหมือนดังแผ่นดิน แผ่นดินใช้เป็นที่อยู่อาศัย ใช้เป็นที่ทำมาหากิน แต่ก็ไม่รู้จักสิ้นไป คำสอนก็นำมาประพฤติปฏิบัติ นำมาประยุกต์ใช้ ก็ไม่รู้จักสิ้นไป...

เหมือนดังท้องฟ้า นกเมื่อบินไป คิดว่าจะให้ทั่วทั้งฟ้า หรือจดขอบฟ้า แต่ก็ไม่สามารถทำได้ อาจหมดแรงหรือมีอันเป็นไปเสียก่อน คนแม้มีศัทธาวิริยะที่จะศึกษาให้จบสิ้นก็อาจมีอันเป็นไปเสียก่อนที่จะศึกษาจบ...

เจริญพร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท