ในงานที่รับผิดชอบของครูกาญจน์ คือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต แหล่งเรียนรู้ชุมชนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่สามารถเรียนรู้ได้ทุกเวลา ตลอดชีวิต การ่จะทำให้องค์ความรู้ที่มีอยู่แล้วในชุมชนมาส่งเสริมให้ เป็นแหล่งเรียนรู้นั้นต้องใช้พลังศรัทธา พลังสร้างสรรค์ ของชุมชนเข้ามาร่วมและความอดทนความเสียสละของผู้รับผิิืดชอบต้องมีมาก สูงตำบนนาเคียนมีร้านน้ำชาเป็นแหล่งรวมกลุ่มแลกปลี่ยนเรียนรู้มากที่สุดอย่างไรที่ทำให้ร้านน้ำชา
ให้เป็นศูนย์เรียนรู้ครูกาญจน์ได้รับความขอช่วยจากชาวบ้านในตำบนาเคียนให้เขียนโครงการของบผู้ว่า (CEO)แต่ไม่ได้รับอนุมัติ แต่ความคิดนี้ยังอยู่ในใจครูกาญจน์ที่อยากชุมชนมีแหล่งเรียนตลอดชีวิต
อาจารย์อย่าเพิ่งท้อนะครับ
ไม่ได้งบไม่ใช่ทุกอย่างจะจบ
นครศรีธรรมราช ได้ว่า เป็นจังหวัดที่มี "ร้านน้ำชา" มากที่สุด ในบรรดาหลายๆจังหวัด (ผมก็ยังไม่เห็นข้อมูลยืนยันที่ชัดเจน ว่าจังหวัดมากที่สุดจริงๆ)
เพียงแค่อาจารย์มองเห็นทุนเดิม ของชุมชน คือ "วัฒนธรรมการพูดคุยของคนที่ร้านน้ำชา" ผมเชื่อว่าอาจารย์พบประตูไปสูความสำเร็จแล้วครับ
แต่ว่าเรามาค่อยๆช่วยกันคิดว่าจะเปิดประตูนี้ กันพันพรือดี?
สิ่งที่ผมเห็นจากร้านน้ำชา
การพูดคุย ที่เป็นธรรมชาติ แต่ประเด็นจะเปลี่ยนไปตาม "คุณอำนวย" ที่เป็นธรรมชาติเหมือนกัน ซึ่งแต่ละวันไม่แน่นอน ประเด็นการพูดคุยมีตั้งแต่เรื่องปากท้อง ชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการเมืองระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ประเทศ และระดับโลก
ลองแลครับ ว่าท่านอื่น เห็นมุมใดมั่งเหลย? จากร้านน้ำชา
เข้ามาทักทายคะ ครูกาญจน์คนเก่ง อย่าเพิ่งน้อยใจ เอ๊ะ กลุ่มปุ๋ยหมักนาเคียน ที่ได้งบพัฒนาจังหวัด ในส่วนการบริหารงานของ ผู้ว่าราชการจังหวัด ท่าน วิชม ทองสงค์ ด้วยอยู่ในงานที่รับผิดชอบของครู กาญจน์ด้วยใช่มั้ย แสดงว่ามีผีมือไม่เบานะ สำหรับแหล่งเรียนรู้ร้านน้ำชา วันก่อนรู้สึกว่าครูราญจะเขียนไปแล้วรอบหนึ่ง น่าจะรวมกลุ่มตั้งวงเรียนรู้กันนะว่าจะทำอย่างไรให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของนครได้ ตอนนี้งบพัฒนาจังหวัดจะได้น้อยลง ถ้าอย่างไรเสนอความคิดกับผู้บริหารเพื่อใช้งบปกติ ลองดูนะคะ