re : social intelligence
Mindblind 1 (http://gotoknow.org/blog/light/75245)
Mean Monkey (http://gotoknow.org/blog/light/75611)
หัวข้อย่อย " The Male Brain "
จากการสำรวจพบว่า
- เด็กชาย มีโอกาสเป็น autistic มากกว่าเด็กหญิง 4 เท่า
- เด็กชาย มีโอกาสเป็น Asperger มากกว่าเด็กหญิง 10 เท่า
อนุมานว่า สมองแบบ “ผู้ชาย” สุดๆ มีแนวโน้มที่จะทำให้คนมีความบกพร่องในพัฒนาการด้านสังคมและการสื่อสาร
แต่ชีวิตก็ไม่ได้โหดร้ายเสมอไป คนที่มีความบกพร่องในการสื่อสารทางสังคม ก็จะมีความโดดเด่นในอีกด้านหนึ่งเช่นความสามารถทางปัญญาในระดับปราชญ์ได้เช่นกัน (เช่น ความสามารถในการแก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่ยากและซับซ้อนได้ดีเท่ากับคอมพิวเตอร์ ในขณะที่คนทั่วไปทำได้ยากมาก)
ในทางตรงกันข้าม สมองแบบ "ผู้หญิง" สุดๆ ดูจะล้ำลึกในเรื่องความเข้าอกเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้อื่นได้ดี จึงเหมาะกับอาชีพ ครู และ ที่ปรึกษา ซึ่งมีคุณสมบัติในการเข้าไปนั่งอยู่ในใจ (inner world) ของคนอื่นได้ นี่แหละคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมของผู้ที่เป็นแม่
Baron-Cohen หัวหน้าศูนย์วิจัยเรื่อง autistic ได้ออกแบบทดสอบ EQ เพื่อวัดการรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่น EQ ในที่นี้ เป็น Empathy Quotient ไม่ใช่ emotional intelligence ปรากฏว่า โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้หญิงทำคะแนนได้ดีกว่าผู้ชาย
แต่ถ้าพูดถึงเรื่อง systems thinking กลับเป็นเรื่องของสมองผู้ชาย ผู้ชายจะได้คะแนนมากกว่าผู้หญิงในแบบทดสอบเกี่ยวกับเครื่องจักรกล หรือ ระบบที่ซับซ้อน ในขณะเดียวกัน คนที่เป็นโรค autism จะทำคะแนนได้ดีกว่าคนทั่วไป
คนส่วนใหญ่มักคิดว่า ผู้หญิงไม่เหมาะกับเรื่องวิทยาศาสตร์ล้วนๆ แต่ Baron-Cohen คิดต่าง เขาคิดว่า ผู้หญิงก็เป็นวิศวกรได้ ผู้ชายก็เป็นนักบำบัดจิตได้ เพราะเชื่อว่า สมองของชายและหญิงอยู่ในระดับความสามารถเดียวกัน ว่าจะเป็นเรื่องความเข้าใจผู้อื่น หรือ การคิดเชิงระบบ พบว่า มีผู้หญิงหลายคนที่เก่งฉมังในเรื่องระบบความคิด และมีผู้ชายหลายคนที่สุดยอดในเรื่องความเข้าใจผู้อื่น
รูปแบบของสมองที่ดีที่สุดคือ สมองที่สมดุล คือ ดีทั้งการเข้าใจผู้อื่น และ การคิดเชิงระบบ (มีศาสตร์ และ ศิลป์)
หัวข้อย่อยต่อไปคือ Making Sense of People
ไม่มีความเห็น