อากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น เหมาะกับการใช้ปัญญาหาของกินที่จะช่วยให้ร่างกายพอจะสู้ๆ กับอากาศแบบนี้ได้ซะจริงๆ นะคะ ยิ่งดูฟ้าเหมือนกับว่า ที่เชียงใหม่เจอควันปกคลุมทั่วพื้นที่ อึดอัดได้เรื่อง
ถ้าร่างกายปรับตัวไม่ทันก็ชวนครั่นเนื้อครั่นตัวได้ง่ายๆค่ะ
พอเป็นหวัดก็ "จางปากจางคอ" คือลิ้นไม่รับรสอาหาร ไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไหร่ เลยต้องหาอาหารที่อุ่นๆ ร้อนๆ ไม่มีไขมันสูง และสะดวกๆ ไม่เสียเวลาทำมากนัก
ก็จังหวะเดียวกับที่ได้รับคำแนะนำจาก ท่านครูบา ในบันทึก เจค็อบ คนทำขนมปัง (Jacob the Baker) ว่าเขียนเรื่องข้าวจี่ ข้าวเหนียว..ก็เลยขออนุญาตเอาเรื่องใกล้ตัวมาเขียนก่อนนะคะ คือเรื่องข้าวต้ม
ข้าวต้มที่จะเล่าให้ฟัง เป็นข้าวต้มธัญญพืชค่ะ (ตามประสาคนชอบกินข้าวนก) ก็ว่าจะต้มอย่างไรให้อร่อยได้ ในเมื่อเม็ดถั่ว เม็ดลูกเดือยมักจะสุกช้า ถ้าต้มไม่เข้าที่ก็จะแข็ง ถ้าจะต้มทีละอย่างก็เสียเวลา
ส่วนใหญ่มักจะต้มข้าวที่เหลือตอนเย็นค่ะ แต่ถ้าบ้านที่ไม่หุงข้าวเองก็ต้องเตรียมตั้งแต่เริ่มต้น
วิธีการก็นำข้าวกล้องผสมกับลูกเดือยและเม็ดถั่วแดง แล้วผสมกับข้าวมันปูพอให้ได้สีสวย ล้างสะอาดแล้วแช่ไว้ก่อนพอให้ถั่วนิ่มๆ แล้วนำไปหุงค่ะ โดยเติมน้ำให้มากกว่าหุงข้าวทั่วไปเท่าตัว ก็จะได้ข้าวหุงธัญญพืชกิน
ถ้าจะทำข้าวต้มก็ตั้งหม้อน้ำ เติมข้าวที่สุกแล้วลงไปเคี่ยว เติมข้าวเหนียวลงไปต้มด้วยประมาณ 1 กำมือ ระหว่างที่รอน้ำเดือด ก็ล้างต้นหอม หั่นขนาดพอประมาณ เตรียมหมูสับเล็กน้อยสำหรับผู้ที่ไม่กินมังสวิรัตินะคะ เมื่อน้ำเดือดข้าวก็จะเริ่มข้น เติมซีอิ้วเล็กน้อย หมูสับและต้นหอมที่หั่นแล้วลงไป ถากเม็ดข้าวโพดหวานลงไปผสม คนๆไปสักหน่อยก็ราไฟให้ข้าวเดือดปุ ปุ ข้าวต้มก็จะมีสีแดง สีเหลือง สีเขียว สีขาว ล่อใจไม่ให้รู้สึกว่าจืดชืดเกินไป
แค่นี้ก็จะได้ข้าวต้มอร่อย(ชมตัวเองค่ะ) ไว้กินในวันที่อากาศเย็น วันที่ไม่ค่อยมีเวลา วันที่เบื่ออาหารมีไขมันสูง วันที่อยากเข้ามาอ่านบล็อก ฯลฯ
ส่วนเครื่องเคียงนั้น สำหรับผู้ที่ชอบกระเทียมเจียว ไข่เจียวหั่นฝอย และพริกน้ำส้ม ก็ตามอัธยาศัยค่ะ แต่สำหรับตัวดิฉันแล้ว โรยต้นหอมสดที่หั่นเหลือ พริกไทยป่น ก็ยกมารับประทานได้แล้วค่ะ
ถือว่าเป็นบันทึกที่เกิดจากได้รับคำแนะนำให้เขียนเรื่องข้าวค่ะ แต่เผอิญไม่ค่อยถนัดข้าวจี่ ขอเขียนเป็นข้าวต้มแทนนะคะ
โอย อ่านแล้วหิวข้าวต้ม
กำลังไอนอนซมเพราะไข้หวัดใหญ่มาสามวันแล้วครับ
จ๋างปากจ๋างคอมาตลอดสามวัน พออ่านของคุณจันทร์รัตนจึงหิวข้าวต้มขึ้นมา
เรียนเชิญ ท่านอาจารย์พิชัย ลองสูตรข้าวต้มดูนะคะ ..และขอให้อาจารย์หายหวัดเร็วๆค่ะ ...
อาจารย์กำลังดูถ่ายทอดสดพิธีปิดงามมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ หรือเปล่าค่ะ ตอนที่บันทึกนี้กำลังเป็นการแสดงโขน ...สวยมากเลยค่ะ แสงสีเสียง...
อาจารย์ขจิตคะ เชิญทดลองต้มข้าวธัญญพืชดูนะคะ ...กินสักครั้งจะติดใจไม่อยากกินข้าวขาวหรือแค่ข้าวกล้องค่ะ...
หรือถ้าไม่ชอบข้าวต้มก็ลองหุงข้าวธัญญพืชไว้ก่อนค่ะ แล้วก็ใส่ข้าวโพดต้มแกะเม็ดลงไป คลุกกับน้ำพริกปลาย่าง กินกับผักสดสักนิด ปลาจิ้งจ้างอีกหน่อย...เอาสเต๊กมาแลกก็ไม่ยอมค่ะ
ด้วยความยินดีค่ะถ้ามีอะไรที่พอจะแลกเปลี่ยนความรู้ได้ก็ยินดียิ่งค่ะ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์และคลอดในบทบาทผดุงครรภ์ และตอนนี้ก็กำลังศึกษาเกี่ยวกับสุขภาพของสตรีวัยกลางคนค่ะ
ข้าวต้มตลาดพยอม...ข้าวต้มปลาตอนเช้าๆใช่ไหมคะ...เจ้าที่ไม่ใส่ผงชูรสด้วยหรือเปล่า...ข้าวต้มปลาใส่ข่า เต้าเจี้ยว...อร่อยๆ
สวัสดีค่ะคุณ จันทรรัตน์
ขอให้คุณพ่อบ้านของครูอ้อยหายเจ็บคอเร็วๆนะคะ ระยะเจ็บคอคงไม่ค่อยอยากกลืนอะไรที่ระคายคอใช่ไหมค่ะ เม็ดข้าวโพดอาจจะไม่ต้องเติมก็ได้ค่ะ เคี่ยวข้าวให้เปื่อยอีกนิด ให้น้ำพอขลุกขลิกก็จะคล้ายๆโจ๊กค่ะ
ที่จริงก็เป็นคนทำกับข้าวไม่เก่งค่ะ ทำได้ไม่กี่อย่างค่ะ..
เรื่องที่อาจารย์เขียน ดีมาก ตรงที่จะให้ประโยชน์อะไรกับผู้อ่าน อ่านแล่วเอาไปทดลองทำได้สะดวกง่ายๆ
ที่บ้านผมได้ประโยชน์จริงๆ ทำให้อยากทดลองทำข้าวต้มสูตแปลกๆ หนาวๆอย่างนี้ อาหารเช้า-เย็น ถ้าเป็นแขกคนเมือง จะชอบข้าวต้ม ก้วยเตี๋ยวญวน แต่ชาวบ้านทั่วไปต้องเป็นข้าวสวย ชาวบ้านไม่ชินกับการกินข้าวต้ม แต่ชาวเมืองชอบมาก โดยเฉพาะช่วงข้าวใหม่อร่อยมาก สมัยเด็กหุงข้าวแบบรินน้ำข้าว เอาเกลือโรยปะแล่มๆ อร่อยมาก คนเมืองเย้าว่า"กาแฟหมา" เป็นอย่างนั้นจริงๆด้วย แม่ครัวสมัยก่อนรินน้ำข้าวทิ้ง มานั่งนึกตอนนี้แล้ว เสียดายๆๆๆ
อาจารย์เขียนเรื่องสนุกๆดีๆอย่างนี้อีกนะครับ
มาเยี่ยม...เจอเรื่องอาหารหวานคาวทั้งข้าวแกงกับ...
นึกถึงอาหารเมืองเหนือที่ผมกินอร่อยปากที่สุดครั้งหนึ่งที่บ้านเพื่อนชื่อพันธ์ทิพย์ คือบ้านศรีเตี้ย อ. บ้านโฮ่ง
จ . ละปูน ช่วงมาพูดให้นักเรียนฟังที่โรงเรียนธีระกานบ้านโฮ่งครับ ระหว่างปี 2529 เป็นหมู่บ้านชาวยองมีวัฒนธรรมที่สวยงาม แม่เขาทำอาหารมีน้ำพริกอ๋อง แกงโฮ๊ะ ฯลฯ อร่อยลิ้นจริง ๆขอชื่นชมฝีมือคุณแม่ข้ามหลายปีเลยครับ...
ท่านอาจารย์ umi คะ ข้ามยี่สิบปีค่ะ (อิอิ)
เชื้อสายคนยอง จะอยู่ทางสายน้ำแม่กวง ส่วนมากชอบกินปลาและอายุยืนค่ะ ...ในอดีตคนกลุ่มนี้จำนวนหนึ่งแต่งงานกับ ขมุ ที่รูปร่างแข็งแรง ทำให้ลูกหลานต่อๆมา ผิวไม่ขาวแบบคนเชียงใหม่ที่มักมีเชื้อไทยใหญ่ผสมค่ะ สำเนียงพูดก็จะต่างกัน..ฟังก็จะรู้ค่ะว่าเป็นคนยอง...
อาหารที่อาจารย์กล่าวไว้..ส่วนหนึ่งมีวัฒนธรรมของไทยใหญ่ปนบ้างค่ะ น้ำพริกอ่องแบบคนพื้นเมืองจริงๆจะเนื้อเนียนไม่แยกมะเขือเทศแยกหมูแบบที่วางขายทั่วไปและอร่อยค่ะ มั่นใจว่าคุณแม่ของเพื่อนท่านอาจารย์ทำอร่อยแน่ๆ
สวัสดีค่ะ คุณรัตติยา
จะเตรียมล้างแตงกวาไว้รอยำกุนเชียงค่ะ
สวัสดีค่ะคุณเมตตา
ถ้าใช้ข้าวที่เหลือตอนเย็น..ไม่นานค่ะ..ส่วนมากเวลาทำมักจะกะว่าพรุ่งนี้จะต้มข้าวก็จะหุงข้าวตอนเย็นเผื่อไว้เลยค่ะ...หวังว่าเด็กๆจะชอบนะคะ