จากบันทึกที่แล้ว ของผมที่บอกว่า แม่เป็นคนมีวิสัยทัศน์ ผมจะเล่าประวัติของแม่นะครับ แม่ผมจบป.4 แต่งงานกับพ่อซึ่งเป็นตำรวจชั้นประทวน ตอนนั้นแม่อายุ 18 ปี พ่ออายุ 25 ปี ตอนนี้พ่ออายุ 60 ปีส่วนแม่ 53 ปี เท่าที่ผมจำได้ แรกๆแม่มีอาชีพทำนาเพียงเดียว แต่พอมีลูกได้ 3 คน แม่ก็เริ่มทำอาชีพค้าขาย เช่นทำขนมขาย ขายแกง พร้อมกับทำนาไปด้วย แม่เป็นคนขยันมาก ความคิดของแม่ไม่เคยหยุดเลย ช่วงที่ค้าขายจะมีอาหารที่เหลือ ซึ่งปกติแม่จะทิ้งทุกวัน และแม่ก็คิดว่าเราไม่น่าทิ้งเลยเสียดาย และแล้วแม่ก็ไปซื้อลูกหมูมาเลี้ยง 2 ตัว และแม่ก็ให้มันกินอาหารที่เหลือจากการขายของแต่ละวัน ทำให้แม่สามารถจัดการอาหารที่เหลือได้อย่างลงตัว และหมูก็ขายได้ในราคาดี เพราะตัวมันจะอ้วนมาก และตอนหลังแม่เริ่มคิดใหม่ จากการไปซื้อลูกหมูของคนอื่นมา แม่คิดจะเลี้ยงแม่พันธ์เอง โดยเอาลูกหมูที่เลี้ยงตอนแรกที่จะขายเนื้อมาเป็นแม่พันธ์ และไม่ต้องซื้อลูกหมูของคนอื่นแล้ว เรามีแม่พันธ์ และก็เลี้ยงลูกมันต่อไปจนขายได้ แรกๆมันออกลูกมาไม่มาก คราวละ 5-6 ตัว พวกเรายังพอเลี้ยงได้แต่ตอนหลัง มันออกคราวละ มากกว่า12 ตัว พวกเราเลี้ยงไม่ไหวต้องขายลูกหมูให้คนอื่นๆ เหมือนที่เราไปซื้อคนอื่นตอนแรก แม่มีเคล็ดลับที่ทำให้แม่หมูมีลูกครั้งละหลายๆตัวคือ ช่วงก่อนผสมพันธ์แม่จะให้อาหารเพียงมื้อเดียวในแต่ละวัน แต่ให้กินน้ำปกติได้ และแล้วสูตรของแม่ก็ได้ผลจริงๆ แม่หมูออกลูกแต่ละครั้งพวกเราไม่ต้องได้หลับได้นอนกันเลย เพราะต้องคอยสลับกันให้ลูกหมูดูดนมแม่ของมัน มิเช่นนั้น มันจะทับลูกของมันตาย
แม่จะนอนหน้าคอกหมูเลย ผมยังจำได้ดี แกจะเป็นคนเอาใจใส่เป็นอย่างมากกับงานของแก และแม่หมูจะผูกพันธ์กับแกมาก เพราะผมยังจำได้ว่าตอนที่วันมันออกลูก มันจะดุมากใครเข้าใกล้มันจะกัดทันทียกเว้นแม่ของผมเท่านั้น และแล้วแม่ก็ทำคลอดมันเสร็จสรรพ ผมและพี่คอยช่วยแม่ตลอดเวลา ตอนที่ตื่นเต้นที่สุดคือ ตอนที่แม่ตัดสายสะดือลูกหมูแล้วให้ผมและพี่ช่วยเอาด้ายผูกที่สายสะดือของมัน ผมตกใจมากกลัวมันจะตายเพราะเสียเลือด แม่ต้องคอยบอกตลอดเวลาให้ผูกเร็วๆและให้แน่น เพื่อไม่ให้เลือดมันออก เป็นเหตุการณ์ที่ผมตื่นเต้นที่สุดตอนเด็ก ครับ และผมยังจำไม่ลืมเลย ครับ