นิยาย เป็นการจำลองโลกจริง (simulation)
พลังของนิยาย อยู่ที่การที่มัน simulation ให้กับเรานั่นแหละครับ
ถ้า simulation อย่างดี ในโครงเรื่องที่ดี ก็เหมือนเราได้ผ่านประสบการณ์ตรงในชีวิตของตัวละครในนิยายนั้น
ได้สนุกตอนอ่าน ได้ผ่านประสบการณ์ตอนจมดิ่งเข้าไปในเรื่อง
หากอ่านนิยายต่างภาษา เช่น ภาษาอังกฤษ ก็ยังได้ภาษานั้นแถมมาอีก
ไม่ใช่ว่านิยายเรื่องอะไรก็ได้
แต่ต้องเลือกอ่าน
อย่างน้อย ก็ให้ตรงจริต
อย่างน้อยให้สนุก
หากผู้เขียนมีทัศนะต่อชีวิตที่กว้างไกล ผมคิดว่า นิยาย เป็นทางลัดของการเรียนรู้
ผมอ่านกิมย้ง เพราะรู้สึกว่าเขาบรรยายผู้คนได้หลากหลาย ลึกซึ้ง
ผมอ่านอเลกซานเดอร์ ดูมาส์ เพราะรู้สึกเขาบรรยายชีวิตคนได้อย่างมีอารมณ์ขัน
ผมอ่านไอแซค อาซิมอฟ และอ่านสตีเฟน แบกเตอร์ เพราะเขาบรรยายความเป็นไปได้ของวิทยาศาสตร์ในมุมมองที่ลุ่มลึก
ผมอ่านมาลา คำจันทร์ เพราะเขาใช้ภาษาได้งดงาม
พลังของนิยาย คือการได้เรียนรู้ปฎิสัมพันธ์ระหว่างผู้คน ผ่านรูปแบบความบันเทิง
เจอเด็กที่ไม่ใส่ใจโลกรอบตัว ผมมักตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่า เด็กเล่นแต่เกมส์ แต่ไม่อ่านนวนิยายครับ
ผมอ่านมาลา คำจันทร์ เพราะเขาใช้ภาษาได้งดงาม
***************
อยากให้อาจารย์ลองอ่านของ วัฒน์ วรรลยางกูร(มือเขียนซีรอง-ได้เข้ารอบซีไร้ท์หลายต่อหลายครั้ง) เช่น คือรักและหวัง , บนเส้นลวด ,สิงห์สาโท ฯลฯ
ภาษาสวย แนว ๆ มาลา คำจันทร์ หากเน้นเรื่องท้องทุ่งคุ้งน้ำ และธรรมชาติ
ลองสักหนึ่งเรื่องนะคะ
สวัสดีค่ะอาจารย์ ชอบอ่านนิยาย ชอบของ โสภาค สุวรรณ เรื่องเกี่ยวกับจิตวิทยาค่ะ