ข่าวดี คนมีมันน้อย


เราๆ ท่านๆ คงจะเห็นคุณค่าของการควบคุมน้ำหนัก หรือลดความอ้วนกันไม่มากก็น้อย วันนี้มีข่าวดีสำหรับท่านที่มี(ไข)มันน้อยครับ…

Hiker

เราๆ ท่านๆ คงจะเห็นคุณค่าของการควบคุมน้ำหนัก หรือลดความอ้วนกันไม่มากก็น้อย วันนี้มีข่าวดีสำหรับท่านที่มี(ไข)มันน้อยครับ…

ศาสตราจารย์ดอกเตอร์ ทิม อาร์. นากี (Nagy อาจมาจาก "นาคี" ที่ออกเสียงแบบแขกเป็น "นากี"…

นั่นคือ อาจมีเชื้อสายอินเดีย บังคลาเทศ หรือศรีลังกา) อาจารย์สาขาวิทยาศาสตร์การอาหาร แห่งมหาวิทยาลัยอลาบามา สหรัฐฯ พบว่า การมี(ไข)มันน้อยน่าจะช่วยป้องกันมะเร็งได้

อาจารย์นากีแบ่งหนูชุดแรกเป็น 2 กลุ่ม ให้อาหารเท่าๆ กัน ทว่า… กลุ่มหนึ่งให้อยู่ในอุณหภูมิที่น้องหนูบอกว่า กำลังสบาย (27 องศาเซลเซียส) อีกกลุ่มหนึ่งให้อยู่ในอุณหภูมิที่น้องหนูบ่นว่า หนาว (22 องศาเซลเซียส)

หนูกลุ่มที่อยู่ท่ามกลางอุณหภูมิหนาวจะผอมกว่า เนื่องจากต้องใช้พลังงานส่วนหนึ่งในการทำให้ร่างกายอบอุ่น

อาจารย์นากีทำให้หนูทั้งสองกลุ่มเป็นมะเร็ง (บาปจัง)… ปรากฏว่า มะเร็งในกลุ่มหนูอ้วนโตเร็วกว่ากลุ่มหนูผอม

นอกจากนั้นกลุ่มหนูอ้วนยังมีระดับฮอร์โมนเลพทิน (leptin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีส่วนกระตุ้นการเจริญเติบโตของเนื้องอกเพิ่มขึ้น และมีระดับฮอร์โมนอะดิโพเนคทิน (adiponectin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีส่วนในการป้องกันมะเร็งลดลง

ต่อมาท่านทำการทดลองอีกครั้ง… คราวนี้ให้อาหารแบบ "ไม่อั้น" ปรากฏว่า กลุ่มหนูหนาว (22 องศาเซลเซียส) กินอาหารมากกว่ากลุ่มหนูอุ่น (27 องศาเซลเซียส) ถึง 30% ทำให้อ้วนพอๆ กัน

ผลปรากฏว่า เนื้องอกโตเร็วเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มหนูหนาว (เลี้ยงที่ 22 องศาเซลเซียส ทำให้กินมากขึ้น) หรือกลุ่มหนูอุ่น (เลี้ยงที่ 27 องศาเซลเซียส)

อาจารย์ท่านแนะนำว่า ปัจจัยที่มีส่วนกระตุ้นให้มะเร็งโตเร็วน่าจะเป็นสัดส่วนของ(ไข)มันในร่างกาย

  • ไขมันยิ่งมาก ยิ่งเสี่ยงมะเร็ง
  • ไขมันน้อยหน่อย เสี่ยงมะเร็งน้อยลง

  Mouse On Wheel                   

การควบคุมน้ำหนักเพื่อป้องกันโรคอ้วน หรือการลดน้ำหนัก (ถ้าน้ำหนักเกินหรืออ้วน) น่าจะมีส่วนช่วยป้องกันมะเร็งได้

ขอให้พวกเรามีสุขภาพดี และมีน้ำหนักพอดีไปนานๆ ครับ...

    ดาวน์โหลดฟรี...                              

  • เชิญดาวน์โหลดแฟ้ม (MSword) ฟรีที่นี่...
  • "สูตรลดความอ้วนฟรี (สูตรคุณสุภา)" พัฒนาสูตรโดยคุณสุภา เกียรติก้องแก้ว
  • [ Click - คลิก - Click ]
  • เชิญดาวน์โหลด "สูตรลดความอ้วนฟรี" สูตรจากเว็บไซต์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครลำปาง
  • [ Click - คลิก - Click ]

    รวมบทความ "ลดความอ้วน"...            

    แหล่งที่มา:               

  • ขอขอบพระคุณ (thank) > UAB study suggests that body composition is key player in controlling cancer risks. UAB Cancer Answers monthly e-newsletter. > http://www.uabhealth.org/default.aspx?pid=103662 > January 24, 2007.
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ จัดทำ > ๒๙ มกราคม ๒๕๕๐ > ปรับปรุงแก้ไข > 24 เมษายน 2550.
หมายเลขบันทึก: 75077เขียนเมื่อ 29 มกราคม 2007 12:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

ขอบคุณอาจารย์ค่ะ 

สำหรับเรื่องของหนูน้อยทั้งหลาย   ถึงแม้ว่ามะเร็งจะไกลตัวหนูมาก  เพราะหนูออกกำลังกายตลอดเวลา และดูแลเรื่องอาหารการกินอย่างดี  แต่ก็เป็นข้อมูลที่ดีเอาไว้ป้องกันตัวเอง และคนรอบข้างค่ะ(แต่สงสารเจ้าหนูน่ะค่ะ  ขอบคุณเค้าด้วยที่ทำให้เรารู้ถึงโทษของไขมัน) ------- ด้วยความเคารพ

  • ทราบมาว่า ยิ่งอ้วน โรคหลายโรคยิ่งถามหา จริงหรือไม่คะอาจารย์หมอ
  • ดังนั้น  เราควรหันมาควบคุมน้ำหนักกัน ตั้งแต่การบริโภคอาหาร และการออกกำลังกาย ถูกต้องไหมคะ

 

  • การควบคุมน้ำหนักกับการควบคุมใจ  ทำได้ยากพอๆกัน 
  • น้ำหนักอยากลดแต่ใจอยากกิน(จุ) 
  • ขอข้อเสนอแนะจากท่านด้วย ครับ

ขอขอบคุณอาจารย์ชาลินีและท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอขอบคุณที่กรุณาให้เกียรติอ่านบันทึก และแวะมาเยี่ยมเยียนครับ...

ขอแสดงความยินดีที่อาจารย์ใส่ใจสุขภาพ ดูแลอาหาร และออกกำลัง... อย่างนี้น่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับนิสิต นักศึกษาได้เลย

  • คนเรามีอะไรดีตรงที่ "เรามักจะทำอะไรดีๆ ได้มากกว่าที่คิดเสมอ"

ขอขอบคุณครับ...

ขอขอบคุณ คุณอ้อ-สุชานาถและท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอขอบคุณที่กรุณาให้เกียรติอ่านบันทึก และแวะมาเยี่ยมเยียนครับ...

ภาวะน้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วนมีส่วนทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นมะเร็ง เบาหวาน ความดันเลือดสูง อัมพฤกษ์-อัมพาต เส้นเลือดหัวใจตีบตัน ข้อเสื่อม และโรคอื่นๆ อีกมากมาย

  • การควบคุมอาหาร โดยเฉพาะการเปลี่ยนข้าวขาวเป็นข้าวกล้อง + "ผักครึ่งหนึ่ง อย่างอื่นครึ่งหนึ่ง" และออกกำลังเป็นประจำ โดยเฉพาะเดินให้ได้วันละ 60 นาที (ในจำนวนนี้ควรเป็นเดินเร็ว 30 นาที) มีส่วนช่วยให้อายุยืนอย่างมีคุณภาพ...

ขอขอบคุณครับ...

ขอขอบพระคุณอาจารย์เม็กดำ1 และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอขอบคุณที่กรุณาให้เกียรติอ่านบันทึก และแวะมาเยี่ยมเยียนครับ...

วิธีเพิ่มความรู้สึก "อิ่ม" กล่าวกันว่า มีอย่างนี้...

  1. ดื่มน้ำทุกครั้งที่หิว... บางครั้งเราหิวน้ำ ทว่า... แปรผลพลาดไปเป็นหิวข้าว
  2. ดื่มน้ำก่อนอาหาร... 1 แก้วช่วยให้อิ่มเร็วขึ้น
  3. ทานข้าวกล้องแทนข้าวขาว... เพื่อเพิ่มเส้นใย (ไฟเบอร์) ทำให้อิ่มนานขึ้น
  4. ทานอาหารเช้า... โดยเฉพาะข้าวโอ๊ต + แอปเปิล + นมไขมันต่ำ หรือนมไม่มีไขมัน (สูตรนี้มีโปรตีนสูง + เส้นใย / ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ ทำให้อิ่มนาน)
  5. นั่งทาน... นั่งแล้วอย่าลุก + ทานช้าๆ เคี้ยวช้าๆ เพื่อให้สมองรับรู้ว่า "กินแล้ว" ซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาทีขึ้นไป จึงจะเริ่มรู้สึกอิ่ม
  6. ไม่ดื่ม... แอลกอฮอล์ (เหล้า เบียร์ ไวน์) ทำให้อ้วน และขาดสติ (เลยกินมาก)
  7. ไม่ดื่ม... น้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้เติมน้ำตาล (ถ้าต้องการลดน้ำหนักควรงดน้ำผลไม้ ทานผลไม้แทน เพื่อให้อิ่มนานขึ้น)
  8. ไม่ร่วม... งานเลี้ยง ยกเว้นจำเป็นจริงๆ
  9. ไม่ร่วม... งานสังสันทน์ ยกเว้นจำเป็นจริงๆ
  10. ไม่เบรค... ไม่ทานขนม + เครื่องดื่มเวลาพัก (เบรค) ถ้าอดไม่ได้ให้เดินชดเชย 30 นาที x 3-7 วัน
  11. ออกกำลัง... เดินเร็ว 30 นาที/วัน + เดินเร็วปานกลาง 30 นาที/วัน (30 นาทีไม่พอที่จะควบคุมน้ำหนัก... ควรเป็น 60 นาที/วัน)
  12. ท่านพระสารีบุตรสอนว่า ให้หยุดบริโภคก่อนอิ่ม พอให้เหลือสัก 5-6 คำจะอิ่ม แล้วดื่มน้ำแทน พอแล้ว เท่านี้พอยังอัตภาพให้เป็นไปได้ (ไม่ป่วย ไม่ขาดอาหาร ไม่ตาย) เพื่อความอยู่ผาสุก (ไม่ง่วงซึม ไม่เกิดโรคจากการกินมากเกิน)

ขอขอบพระคุณครับ...

 

สวัสดีค่ะอาจารย์หมอวัลลภ

เรื่องการทดลองหนู ทำให้นึกสนุก เอาของฝากมาให้ค่ะ ลองดูนะคะ

http://gotoknow.org/file/tigger/rat.pps

^____^

ขอขอบคุณอาจารย์ iS และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอขอบพระคุณที่กรุณาให้เกียรติอ่านบันทึก และแวะมาเยี่ยมเยียน 
  • เป็น animation (ภาพเคลื่อนไหว) ที่ดูสนุกมากครับ

ขอเรียนเชิญท่านผู้อ่านคลิกที่นี่ เพื่อชมภาพประกอบการทดลองหนูของท่านอาจารย์ iS (สงสารน้องหนูจัง...)

ขอบคุณมากคะที่แบ่งปันความรู้ความเข้าใจในด้านโภชนาการ การลดความอ้วนก็มีส่วนดีแต่จ๋าขอเพิ่มมุมมองหนึ่งว่า ควรต้องดูแลให้ร่างกายไม่ผอมเกินไป การออกกำลังกายก็จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ  ทำควบคู่ไปกับการกิน ..ที่สำคัญในปัจจุบัน อาหารการกินที่ไทยมีให้เลือกสรร..มากมาย ทำให้คนไทยสามารถกินได้ง่าย คล่อง จึงเกิดอาจส่งผลให้คนไทยมีนิสัยการกินที่ผิดไป... กินจุบจิบมากขึ้น...ก็อาหารการกินบ้านเราสมบูรณ์ซะขนาดนี้นี่คะ...จ๊ะจ๋าคนหนึ่งที่พิสมัยการกิน..แต่ขอเน้นเป็นผลไม้มากกว่าอาหารหวานคะ

ขอขอบคุณอาจารย์จ๊ะจ๋าและท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอขอบคุณที่กรุณาให้เกียรติอ่านบันทึก และแวะมาเยี่ยมเยียนครับ
  • อาหารบ้านเรา โดยเฉพาะกับข้าวไทยดูจะดีกับสุขภาพทีเดียว มีสมุนไพร มีผัก มีน้ำพริก
  • ทว่า... ขอกะทิน้อยหน่อย ขอมันและน้ำมันน้อยหน่อย และขอผลไม้แทนอาหารหวานอย่างที่อาจารย์แนะนำจะดีขึ้นเยอะเลย

ขอขอบคุณครับ...

สงสัยนิดหน่อยคะ

จากข้อความนะคะ

มะเร็งในกลุ่มหนูอ้วนโตเร็วกว่ากลุ่มหนูผอม

นอกจากนั้นกลุ่มหนูผอมยังมีระดับฮอร์โมนเลพทิน (leptin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีส่วนกระตุ้นการเจริญเติบโตของเนื้องอกเพิ่มขึ้น และมีระดับฮอร์โมนอะดิโพเนคทิน (adiponectin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีส่วนในการป้องกันมะเร็งลดลง

น่าจะเป็นกลุ่มหนูอ้วนรึเปล่าคะที่มีฮอร์โมนที่กระตุ้นการเติบโตของเนื้องอกมากกว่าอะคะ

ขอขอบคุณ... คุณ ~apple~ และท่านผู้อ่านทุกท่าน

  • ขอขอบคุณมากที่ชี้แนะข้อบกพร่อง... ตรงนั้นผิดจริงๆ และแก้ไขแล้วครับ...
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท