หลายคนคงเคยได้ยินกับคำว่า "สภาพัฒนาการเมือง" ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่มีนายกรัฐมนตรี พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้มีนโยบายอย่างชัดเจนว่า"จะจัดทำแผนแม่บทพัฒนาการเมืองที่เสริมสร้างระบบคุณธรรม จริยธรรมทางการเมือง โดยการจัดตั้ง สภาพัฒนาการเมือง โดยได้ตั้งคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสภาพัฒนาการเมืองขึ้นมาชุดหนึ่งแล้ว ซึ่งกำลังออกแบบ ยกร่างสภาพัฒนาการเมืองและคงจะนำไปทำเวทีประชาคมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน" คำถามต่อมาคือ สภาพัฒนาการเมืองคืออะไร?
เป็นที่ทราบกันดีว่าสังคมและการเมืองไทยกำลังเกิดวิกฤติเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนไทย คือ คนเริ่มจะไม่มีคุณธรรม จริยธรรม คนไทยขี้โกงมากขึ้น (จากเดิมที่โกงอยู่แล้ว) คนไทยเริ่มเห็นแก่ตัวเอง และประโยชน์ส่วนตนและมุ่งแสวงหาอำนาจ ใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ส่วนตนมากขึ้น เมื่อพฤติกรรมของคนไทยเป็นเช่นนี้ พฤติกรรมของนักการเมืองก็ชอบโกง ชอบทุจริตคอร์รัปชั่นและลุแก่อำนาจ โดยพยายามปิดหูปิดตาประชาชนด้วยระบบการครอบงำทางเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารและสื่อสารต่าง ๆ โดยเฉพาะการกำจัดฝ่ายที่เปิดโปงการทุจริตคอร์รัปชั่นที่เราเห็นกันอยู่บ่อย ๆ จึงเกิดคำถามขึ้นว่า การเมืองไทยและสังคมไทยจะพัฒนาการเมืองให้ดีอย่างไร นั่นคือ การทำการเมืองไทยให้มีคุณภาพโปร่งใส เป็นการเมืองของคนไทยทุกคน ที่จะต้องร่วมกันสร้างอนาคตเมืองไทยให้มีการแบ่งปันและจัดสรรทรัพยากรที่เป็นธรรม น่าอยู่ และเป็นสังคมที่มีความสุขอย่างยั่งยืน ทางออกหนึ่งคือ การใช้กลไกสภาพัฒนาการเมือง เป็นเครื่องมือในการสร้างการเมืองโดยมีแผนพัฒนาการเมืองไทย ที่กำหนดแนวทางการพัฒนาการเมืองไทยให้เป็นการเมืองที่มีคุณธรรม จริยธรรม ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น เบียดบังผลประโยชน์ ทรัพยากรของชาติไปเป็นของตนและพวกพ้อง ดังนั้น แผนพัฒนาการเมืองจึงมีความสำคัญยิ่งต่อการกำหนดยุทธศาสตร์การเมืองไทยในยุคนี้ทั้งในแง่การเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองให้คนไทยและการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมผู้นำและนักการเมือง การส่งเสริมธรรมาภิบาลการเมืองและการบริหาร การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ การส่งเสริมการกระจายอำนาจและการจัดสรรทรัพยากรที่เป็นธรรม และการสร้างสังคมสมานฉันท์ ซึ่งในการกำหนดให้มีแผนพัฒนาการเมือง จำเป็นต้องมีกลไก "สภาพัฒนาการเมือง" เพื่ออกแบบแผนพัฒนาการเมืองตามเป้าหมายการเมืองไทยที่พึงประสงค์ทั้งนี้เพราะสภาพัฒนาการเมืองเป็นสภาของทุกคนในสังคมไทย ที่จะเป็นผู้กำหนด
1. การส่งเสริมการเรียนรู้ทางการเมือง
2. ส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน
3. ส่งเสริมการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ
4. ส่งเสริมให้การเมืองภาคพลเมืองที่มีคุณธรรม จริยธรรม
5. สภาพัฒนาการเมือง จะเป็นสถาบันสร้างความสมานฉันท์ในทุกระดับ
การสร้างการเมืองที่ดี โดยมีจุดเริ่มต้นของ "สภาพัฒนาการเมืองไทย" จึงเป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเมืองและให้ความรู้ประชาธิปไตยแก่พลเมือง ทั้งในระดับครอบครัว โรงเรียน มหาวิทยาลัย กระทรวงศึกษาธิการ สภากาแฟ เวทีชาวบ้าน และวงการสื่อสารไทย จะต้องให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อการพัฒนาเมืองไทยให้หลุดพ้นจาก "วงจรอุบาทว์" อย่างถาวร
I do not have idea.
การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน เราก็เป็นหนึ่งในนั้น หากนิ่งดูดาย ยอมให้คนกลุ่มน้อย ปกครองคนกลุ่มใหญ่โดยไม่เป็นธรรม เราต้องแสดงพลังของเราให้เขาได้รับรู้
ไม่ทราบวันนี้อาจารย์ได้เข้าร่วมเวที...รับฟังความคิดเห็นสภาพัฒนาการเมืองไทย ภาคเหนือตอนล่าง ที่โรงแรมแกรนด์ริเวอร์ไซด์ด้วยหรือปล่าวครับ...
วันนี้ผมเห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง...แต่ที่ผมแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม...ผมยังยืนยันความคิดเดิมครับ...
เวลาเราร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเวทีไหนก็ตาม...สิ่งที่เราเห็นกันอย่างชินตา...คือเอาคนคิดเก่งเสนอเก่งมานั่งเสนอความเห็นกัน...แล้วสรุปไปให้คนส่วนกลางรวบรวมต่อ...
สิ่งสำคัญก็คือ...ที่เสนอกันเกือบทุกคน...เป็นการเสนอแบบ คุณนะทำ(จนเป็นสังคมคุณน่ะทำไปแล้ว)...อยากให้นักการเมืองมีจริยธรรม...อยากให้มีระบบการเมืองที่ดี...ผมถามคำเดียวว่า...แล้วตัวคุณจะทำอะไร...(ดูความเห็นของคุณหมอสุธีแล้วบอกได้เลยว่า???...อิอิ)
ที่น่าพอใจคือเวทีวันนี้มีคนตรวจสอบเวทีอยู่ไม่น้อย(คงพอใจนะครับอาจารย์หมอสุธี...อิอิ)
สภาพัฒนาการเมือง...สุดท้ายจะเป็นอะไร...
องค์กรเอกชน???
องค์กรภาครัฐ???
องค์กรอิสระ???
องค์กรประชาชน???
ได้รับคำตอบว่า...แล้วแต่ความเห็นของประชาชน...เพราะนี่คือการเมืองภาคประชาชน...แต่ก็อยากมีรูปแบบชัดเจน...มีงบประมาณสนับสนุน...และมีบทบัญญัติอยู่ในรัฐธรรมนูญ...
แล้วถ้ามีเกิดขึ้นได้จริง...เป็นการเมืองภาคประชาชนจริง ๆ ... องค์กรนี้จะยืนอยู่จุดไหน...
ฝ่ายตรงข้ามนักการเมือง....???
ฝ่ายสนับสนุนนักการเมือง...???
คนกลางที่คอยทำให้การเมืองพัฒนาไปสู่ความเข้มแข็ง...???
เหล่านี้เป็นคำถามที่ผมฝากไว้ในเวที...ถ้ายังหาคำตอบได้ไม่ชัด...ก็จะจบลงอีหรอบเดียวกับ...สภาที่ปรึกษาฯลฯนั่นแหละครับ...