ผมจำได้ว่าได้ฟังคุณธวัช หวัดเต๊ะ จาก สคส. พูดเรื่องคนที่ใช้ KM เป็นเครื่องมือในการทำงานว่าจะทำให้คนๆนั้นจากการเป็นใครไม่รู้ ท่านใช้คำว่า nobody ซึ่งก็คือเป็นคนที่ไม่มีสาระอะไรเลยเป็นใครก็ไม่รู้ ได้กลายมาเป็นsomebody ขึ้นมา somebody ก็น่าจะประมาณว่าเป็นใครคนหนึ่ง เป็นใครบางคนขึ้นมา สำคัญขึ้นมาบ้างว่างั้นเถอะ
ผมนำเรื่องนี้มาโยงกับบทความเรื่องช้างตัวใหญ่หันมามองมดตัวเล็กๆได้เพราะอนิสงส์ของ KM ลิ้งค์
และผมก็โยงกับบทความของครูราญเมืองคอนคนนอกระบบเรื่อง กศน. จะจัดกิจกรรมโดยให้กลุ่มเป้าหมาย "ตั้งลูกขี้" หรือเป็น "ลูกขี้ตั้ง" ลิ้งค์
ผมขอต่อความคิดครูราญเมืองคอน คนอกระบบสักเล็กน้อยว่า ในการเล่นสะบ้า จะเป็นเกมส์การละเล่นอย่างหนึ่งคนใต้(หรือเปล่าไม่แน่ใจ หรือเป็นการทั่วไป) จะมีการปักลูกสะบ้าเรียงกันเป็นแถว 10 -20 ลูก ลูกสะบ้าที่เรียงกันอย่างนี้นี่แหละ แล้วให้คนอื่นเล่น (ยิงสะบ้า) เขาเรียกว่า "ลูกขี้ตั้ง" คือรอถูกระทำฝ่ายเดียว ฝ่ายลูกที่ใช้ยิง ไปทำให้ลูกที่ปักเรียงกันนั้นล้ม เขาเรียกว่า "ลูกเกย" "ลูกเกย"ก็คือลูกสะบ้าธรรมดานี่แหละแต่จะเลือกลูกที่เด่นกว่าลูกสะบ้าธรรมดา(ยกระดับขึ้นมา) คนเล่นสะบ้าที่เก่งนอกจากจะฝีมือการเล่นเก่งแล้วก็ต้องเลือกเฟ้น"ลูกเกย"ที่ดีอีกด้วย
ผมโยงสามเรื่องนี้เข้าเป็นเรื่องเดียวกันทั้งการทำให้ nobody กลายมาเป็นsomebody ได้ก็ดี สังเกตนักเล่นสะบ้าเลือก"ลูกขี้ตั้ง" ขึ้นมาเป็น"ลูกเกย"ก็ดี หรือจากการพัฒนาตนเองจากคนตัวเล็กไม่ได้สลักสำคัญอะไรขึ้นมาเป็นคนที่มีสาระมากขึ้นจนคนอื่นสนใจศึกษาเรียนรู้มากขึ้นก็ดี เป็นเรื่องเดียวกัน เป็นผลจากการที่ตนเองพัฒนาตนเองขึ้นมาโดยใช้ความรู้เป็นเครื่องมือทั้งสิ้น
การที่จะให้ คน งาน องค์กร พัฒนาขึ้นมา ให้คนๆนั้น งานๆนั้น หรือองค์กรๆนั้นมีความหมายมีความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายผู้รับริการ หรือกลุ่มต่างๆที่รายล้อมอยู่มากขึ้น ก็ต้องยกระดับคุณภาพการทำงานขึ้นมา KM จึงคือคำตอบที่สำคัญ
ผมเองใช้ตนเองเป็นเครื่องมือตรองดูว่า KM ใช่คำตอบที่ทำให้ผมยกระดับคุณภาพการทำงานขึ้นมาหรือไม่ ผมว่าใช่เลย
ท่านละครับ ! KM คือ..........?
ลึกซึ้งมากนะคะ ครูนง ... และขอต่อว่าครูราญหน่อย เอาเรื่อง "ตั้งลูกขี้" หรือเป็น "ลูกขี้ตั้ง" มาตั้งเป็นเรื่องเป็นราว ... เพิ่งมารู้ตอนครูนงนี่เองนะคะ ถึงที่มาที่ไป ก็เลยเพิ่งมา "อ้อ เข้าใจเปรียบเทียบนะคะ" ... คนนครฯ นี่น่าสนใจ ... ไปซึมซับคารมค่ะ
KM ของดิฉันหรือ ... ขอแค่มีบรรยากาศที่ดีในการส่งเสริมการ ลปรร. และ เอาใจเขามาใส่ใจเราค่ะ
สุดยอดเลยค่ะ ครูนงเมืองคอน
การที่จะให้ คน งาน องค์กร พัฒนาขึ้นมา ให้คนๆนั้น งานๆนั้น หรือองค์กรๆนั้นมีความหมายมีความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายผู้รับริการ หรือกลุ่มต่างๆที่รายล้อมอยู่มากขึ้น ก็ต้องยกระดับคุณภาพการทำงานขึ้นมา KM จึงคือคำตอบที่สำคัญ
คุณหมอนนทลีครับ
KM ของคุณหมอคือขอให้มีบรรยากาศที่ดีในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเอาใจเขามาใส่ใจเรา จุดมุ่งหมายนี้ของคุณหมอ ผมก็ว่าสุ่จุดมุ่งหมายใหญ่ของผมที่ว่ามุ่งพัฒนาทั้งคน งาน และองค์กร นั่นแหละครับ
ช่วงนี้หน้าเว็ปบล็อก gotoKnow ของเราปรับเปลี่ยนสู่สิ่งที่ดีกว่าบ่อยชนิดชั่วโมงต่อชั่วโมง ทำให้ผมเฝ้าติดตามความรู้เรื่องนี้จากบล็อกคุณหมอบล็อกหนึ่งด้วย เพราะคุณหมอไวต่อเรื่องนี้ไม่เบา สื่อสิ่งที่ยากๆให้ผมเข้าใจได้เสมอ
ดร.อรรณพ ครับ
ขออภัยด้วยครับหากช่วงท้ายบันทึกทำให้อาจารย์เข้าใจยากไปหน่อย เป็นเสียงในฟิล์มปักษ์ใต้บ้านผมครับ
ดีใจที่อาจารย์เข้ามาทักทายแลกเปลี่ยน
อ.อัมพร ครับ
ขออนุญาตเรียกอาจารย์นะครับ ยินดีมากที่เข้ามาเยี่ยม และร่วมแลกเปลี่ยน
คุณเมตตาครับ
คุณเมตตาคือลูกเกย แถวหน้าคุณอำนวยเมืองไทยนะครับครับ ผมตั้งเองนะครับ ก็คนอะไรได้ดั่งใจจริงๆ