สัมมนาร่วมเรียนรู้กับคุณลิขิต


ทำให้ผมรู้จักกับคำว่า "ความรู้ฝังลึก"

         ผ่านมาหลายวัน เหตุการณ์เกิดตั้งแต่วันที่ ๑๙ ม.ค.๕๐ ผมเพิ่งได้มาบันทึกวันนี้(๒๘ ม.ค.๕๐)  แต่ยังงัยก็ยังจำเหตุการณ์ได้อย่างดี  กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราช  ให้เกียรติผมเป็นวิทยากร  พร้อมกับ ครูนงเมืองคอน ครูราญเมืองคอน  น้องติ่ง(ปราชญ์ลูกทุ่ง)  ตามบันทึกสดของผมที่นี่ ก็เขิน ๆ กับคำว่าวิทยากร  เพราะนั้นคือผู้รู้แต่เราเหมาะที่จะเป็นผู้แลกเปลี่ยนมากกว่าครับ

        ก็ไม่เป็นไรจะเรียกอะไรก็ตามแต่ที่จะเหมาะสมกับ  ช่วง  เวลา  สถานที่  จังหวะการดำเนินการเรื่องนั้น ๆ    การสัมมนาแลกเลี่ยนเรียนรู้ของทีมงานคุณลิขิตของ กศน.นครศรี ฯ  ถือได้ว่าเป็นการเตรียมจัดทัพเพื่อเดินทัพในพื้นที่อีก ๖๐๐ หมู่บ้าน ในการจัดกระบวนการ KM  เพื่อแก้จนเมืองนคร ปี ๒๕๕๐  ดีใจที่ได้เห็นการเตรียมความพร้อม ของทัพ กศน. ประสบการณ์ปีที่ผ่านมาเป็นบทเรียนให้ กศน.เสริมศักยภาพบุคลากรขอชื่นชมครับ

         ในครั้งนี้ผมได้เรียนรู้เรื่องหนึ่งชัดเจนขึ้นอีก ในขณะที่ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้อยู่กับคุณลิขิต ในวันนั้น (๑๙ ม.ค.๕๐) คำว่า " ความรู้ฝังลึก" ครับ  อย่างที่หลายท่านที่มีประสบการณ์  ได้บอกกันไว้ว่า  KM ไม่ทำไม่รู้  จริง ๆ ด้วยครับ  ยิ่งทำยิ่งรู้  ในบรรยากาศของการทำหน้าที่วิทยากร  ในขณะเดียวกันผมรู้สึกว่าผมก็เป็นนักเรียน  ได้เรียนรู้เพิ่มประสบการณ์จากเหตุการณ์เพิ่มขึ้นอีก(ได้กำไร) 
 
          ความต้องการของคุณลิขิตวันนั้น  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสุภาพสตรี คือ  อยากรู้เทคนิคและลีลาของการเขียน Blog  ความต้องการนี้เริ่มตั้งแต่เริ่มต้นของการทำหน้าที่บทบาทวิทยากรตามที่เขามอบหมาย  แต่เราในทีม วิทยากรก็ฝืนใจเขาเอาไว้  เพราะรู้ดีว่าถ้าฐานของเรื่องที่ทำไม่ชัดเจนในความรู้สึก  ก็คงยากที่จะเขียนออกมาได้จากใจ   ซึ่งก็เกิดกับเราทีมวิทยากรมาก่อน  เราพยามทำให้คุณลิขิตลึกซึ้งกับ KM ก่อน  ให้ผ่อนคลายไม่เกร็งกับสิ่งที่ทำ (เกร็งในที่นี้ถ้าจะบอกว่าเริ่มขับรถออกถนนครั้งแรกนั้นเป็นอย่างไรคงเข้าใจนะครับ)  ตามที่เขาพอจะเข้าใจได้ทำให้เหมือนขับรถตอนที่เราไม่เกร็งสตาร์ทเครื่องแล้วหมุนพวงมาลัยแผ่วเบาแล้วเคลื่อนไป 

          มีหลายคนเคยพูดว่า  "ถ้าให้ทำทำได้  แต่พอจะบอกให้คนอื่นทำบอกออกมาไม่ได้ไม่รู้จะพูดย่างไร"  นี่กระมังครับที่เขาเรียกว่า "ความรู้ฝังลึก"  วันนั้นผมรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ ว่า  ผมคงได้รู้ว่าความรู้ฝังลึกคืออะไรแล้วมั้ง   ความต้องการของคุณลิขิตในเวทีอยากได้มาก ๆ  แต่ผมก็ยังดึงมันออกมาจากที่มีอยู่ในตัวผมยากจริง ๆ แต่ยังงัยผมก็บอกให้รีบลงมือทำแล้วมันจะสอนเราเอง 

          เทคนิคอย่างหนึ่งที่ผมพบกับการกระทำของผมแล้วทำให้ผม  เขียนไปได้ก็คือนั่งลงแล้วเริ่มที่คำแรก  ถ้าไม่เริ่มคำแรกมันไม่มีคำที่สอง  และสักพักประโยคจะตามมาเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องยกร่างอะไรเลย เพราะมันคือการบันทึกไม่ใช่แต่งนิยาย   ถ้าเรายิ่งนึกว่าไม่รู้จะเขียนอะไรดี  หลายวันกี่วันเราคงไม่มีคำตอบจากคำถามนั้น  แต่ถ้าลงมือทำนึกเหตุการณ์ในงานนั้น ๆ เริ่มนับหนึ่งแล้วจะได้นับสอง นับสาม นับสี่ กันต่อไปครับ  ผมถ้าเขียนไม่ออกผมไม่พยามยามนึก ไม่พยามเขียนเพราะยิ่งฝืนใจให้ทำ  เหมือนกับโดนกดดันสมองไม่โปร่ง  ออกไปเดินสักพักปล่อยเป็นธรมชาติ จะผ่อนคลายในขณะที่เดินบางครั้งมีเรื่องปิ้งขึ้นมารีบลงสมุดทันทีสองสามคำก็ช่วยได้ ให้ต่อยอดได้  เมื่อพร้อมที่จะเขียนก็จะเขียนไปได้เอง  นั่งลงแล้วพิมพ์เหมือนที่ทำกับบันทึกนี้ครับ

         

คำสำคัญ (Tags): #ความรู้ฝังลึก
หมายเลขบันทึก: 75015เขียนเมื่อ 28 มกราคม 2007 23:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:11 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)
  • วงคุณลิขิตที่อบรมกันวันนั้นเท่าที่ผมจำชื่อได้จากหน้าจอgotoKnow กลับไปเขียนกันก็มีหลายท่านแล้วนะครับ ดูที่แพลนเน็ต KM สกุลเมืองคอน นี่นะครับ
  • อ.บีแมน เขาเขียนถึง อ.ชาญวิทย์ อยู่นะครับ ดูที่นี่
  • วงเรียนรู้คุณลิขิตวงนี้ครั้งต่อไปคงจะได้เล่าและแลกประสบการณ์การไปเปิดไปเขียนฯลฯ และต่อยอดเรื่องอะไรกัน ดูกำหนดการครั้งต่อๆไปที่นี่ครับ อ.ชาญวิทย์ หาตัวยากอยู่ผมจึง ก็ขอจองคิวไว้ทาง blog ก่อนล่วงหน้านะครับ ไม่แน่เขาอาจมีโปรแกรมให้เราอีกก็ได้นะครับ
  • ผมกำลังจะมาบอกทีเดียว.ครับคุณชาญวิทย์ ว่าผมเขียนถึงเล็กน้อย..
  • พอดีครูนง..แกมาบอกเสียก่อน..
  • ผมมาอ่านที่คุณชาญวิทย์เขียนแล้ว..
  • ผมคิดว่า..ผู้ชายนี่ส่วนใหญ่เขียนบันทึกได้เก่งกว่าผู้หญิงนะครับ (เขียนเข้าข้างพวกเดียวกันเองหรือเปล่า)
  • เนื่องจากผู้หญิงส่วนใหญ่เกิดมาพูดเก่งกว่าผู้ชาย..ดังนั้นโลกจึงสร้างให้ผู้ชายเขียนได้เก่งกว่าผู้หญิงนะครับ
  • แต่ถ้าสำรวจสถิติ..ใครเขียนบล็อกมากกว่ากัน (นับจำนวนบล็อกไม่ใช่บันทึก) ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย...ผมว่าต้องยกให้ผู้หญิงเขาครับ

เรียน ท่านอาจารย์จำนง
          ขอบคุณมากครับที่แจ้งให้ทราบว่า  หลายท่านกลับไปเขียนแล้ว  ได้ตามไปเยี่ยมมาแล้วครับ
           พร้อมกับไปดูท่านอาจารย์ Beeman แล้วด้วยครับ

เรียน ท่านอาจารย์ beeman

         ดีใจมากครับที่ท่านอาจารย์มาเยี่ยม  ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นและให้ข้อมูลครับ  ปัจจุบันนี้ผมพบเห็นในที่ทำงานหลาย ๆ ที่มีผู้หญิงเสียเป็นส่วนใหญ่เลยครับ  โดยเฉพาะหน่วยงานที่รับพนักงานใหม่ ๆ ยังงง ๆ อยู่ว่าผู้ชายหายไปไหนกัน

      ขอบคุณค่ะที่มาร่วมเป็นวิทยากรในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ วงเรียนรู้คุณลิขิต แล้วพี่ชาญวิทย์เริ่มงานใหม่เป็นอย่างไรบ้าง   KM คนคอนเคลื่อนทัพไปไกลกว่าที่คิดแล้วนะค่ะ  เมื่อวานนี้ทาง กศน.นครศรีธรรมราช ในฐานะเลขานุการโครงการ     นำโดยรองเกษร อ.เป้า และดิฉัน ได้ไปออกแบบการเรียนรู้       วงเรียนรู้คุณอำนวยอำเภออีกวง เพิ่มศักยภาพคุณอำนวยอำเภอ โดยได้รับความอนุเคราะห์ด้วยดี จากม.วลัยลักษณ์ มีท่านรองอธิการบดีฯ ดร.กีร์รัตน์  สงวนไทร พร้อมคณะ มีพี่ติ๋ม มวล. คุณนิรันดร์  คุณบรรจงวิทย์ ฯลฯ ประมาณ 7 คน ร่วมกำหนดการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพคุณอำนวยอำเภอ ในวันที่ 16 ก.พ. 50 และ 19 ก.พ. 50  เน้นเทคนิคเรื่องเล่าเร้าพลัง และการสกัดขุมความรู้ และเครื่องมืออื่น ๆ ค่ะ  จะมีทีมคุณอำนวยอำเภอซึ่งเป็นเกษตรอำเภอ เข้าร่วมด้วย   พี่ชาญวิทย์ ช่วยลุ้นเป็นกำลังใจคณะของเกษตร และพวกเราด้วยนะค่ะ ผลเป็นอย่างไร จะมาเล่าให้ฟังค่ะ

น้องชมภู

         ขอบคุณที่เล่าประสบการณ์ให้ทราบดีใจและยินดี ในทุก ๆ เรื่องที่ร่วมกันทำถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยน  ทุกคนเมื่ออยู่ในวง KM ไม่มีใครขาดทุน หรือเสียดุล  เราจะได้อะไรที่อธิบายยากเสมอ

         สำหรับงานใหม่ก็ตกถัง KM แก้จนเมืองนครโครมใหญ่แล้วครับตอนนี้  คงได้เจอกันบ่อยขึ้น (หวังไว้อย่างนั้น) 

         วันนี้ไปที่ชั้น 5 ศาลากลาง ท่านผู้ว่า ฯ วิชม  ยังเล่าถึงเรื่องนี้เป็นกระบวนการให้ ผู้ตรวจราชการ ทีม กพร. และบริษัทที่ปรึกษาได้รับฟังกันอย่างภาคภูมิใจ  เราเองฟังกี่ครั้งก็สนุกเหมือนเดิม

เข้ามารับรู้ ซึมซับสิ่งดีๆ และสนุกอีกรอบครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท