ความเป็นแม่มีความสำคัญกับการเติบโตของลูกอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันความเป็นแม่ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยว มีแม่ก็ต้องมีพ่อคู่กัน พบว่าการทำหน้าที่แม่ส่วนหนึ่งมาจากแรงสนับสนุนของพ่อที่ทำให้แม่ทำหน้าที่ได้เต็มกำลัง ถ้าเปรียบเทียบคงเหมือนดนตรีประสานเสียงที่มีโน้ตร้องคนละคีย์แต่รวมแล้วเป็นเสียงที่สอดคล้องไพเราะ ในความเป็นพ่อและแม่มีหลายสิ่งที่ผู้เป็นแม่ต้องการได้จากพ่อ
ช่วยผ่อนภาระ
คงเป็นสิ่งแรกที่แม่อยากร้องขอจากพ่อ แม่มักพยายามจะดูแลลูกอย่างเต็มที่ แต่ในปัจจุบันการเลี้ยงลูกไม่ได้ง่ายอย่างที่เคยเป็น แม่หลายคนมีความเครียดกับหน้าที่ทั้งในบ้านและนอกบ้าน แต่ยังคงพยายามต่อไปทั้งที่เครียด และบางทีเครียดอย่างไม่รู้ตัวว่าเครียด กลายเป็นอารมณ์หงุดหงิด ยิ่งหงุดหงิดกับการเลี้ยงลูกยิ่งเครียดมากขึ้น กลายเป็นว่าทั้งพ่อและแม่คุยกันไม่รู้เรื่อง บางทีด้วยอารมณ์ที่กดดันมากๆ วิธีที่ดูแลลูกด้วยอารมณ์มักมีแนวโน้มที่จะใช่ความรุนแรงในการดูแล อยากให้พ่อได้เข้ามามีส่วนร่วมกับการดูแลลูก เลือกกิจกรรมที่คิดว่าพ่อทำได้ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่แม่จะได้มีเวลาเป็นของตัวเอง ทำกิจกรรมส่วนตัวและเวลาพักผ่อน
ภาระในการดูแลลูกมีสองส่วน ส่วนหนึ่งเป็นการดุแลในกิจวัตรประจำวัน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นทุกวัน แม้จะดูเป้นหน้าที่หลักของแม่แต่การช่วยผ่อนภาระบางส่วนของพ่อจะช่วยได้มาก พ่อบางคนถนัดช่วยดูลูกอาบน้ำ เอาเข้านอน ไปรับส่งที่โรงเรียน หรือแม้แต่ช่วยงานบ้านอย่างซักผ้าอ้อม เก็บเสื้อใส่ถังซัก ภาระอีกส่วนเป็นการช่วยดูแลในสถานการณ์ต่างๆ อย่างการช่วยทำกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการลูก การพูดคุย การเล่นกับลูก กิจกรรมเวลาออกไปนอกบ้าน ซึ่งต้องช่วยกันดูแลลูก เป็นต้น
ช่วยให้ความมั่นใจ
แม้แม่จะถูกคาดหวังว่าน่าจะรู้เรื่องลูกดีกว่าพ่อ แต่การดูแลลูกไม่มีสูตรสำเร็จ ยิ่งในการดูแลลูกในแต่ละวันมีเรื่องใหม่ๆเข้ามา บางเรื่องแม่ก้ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ปฏิบัติไปแล้วกับลูกจะเป็นบวกหรือลบ ยิ่งถ้ามีลูกที่มีธรรมชาติพื้นฐานที่ดุแลค่อนข้างยาก อย่างเด็กที่ค่อนข้างไม่นิ่ง หากปล่อยให้แม่อยู่ตามลำพัง นอกจากจะเครียดจากภาระการดูลูก แม่หลายคนขาดความมั่นใจ จนทำให้วิธีดูแลเปลี่ยนแปลงไป หลายคนรู้สึกผิด เหมือนตนเองทำหน้าที่ไม่ถูกต้อง ไปทำให้ลุกได้ผลกระทบทางลบ จนไม่กล้าที่จะทำอะไรลูก เรื่องที่ควรแนะนำก็ไม่แน่ใจ กลายเป็นการปล่อยลูกตามที่ลูกต้องการ
พ่อกับแม่มีประสบการณ์การเลี้ยงดูลูกต่างกัน แม่มักมีแนวโน้มกังวลกับปัญหาลูกได้ง่ายกว่าพ่อ ในขณะที่พ่อจะยอมรับปัญหาบางอย่างของลูกได้ หากพ่อเป็นเพื่อนคู่คิดแทนที่จะปล่อยแม่คิดอยู่คนเดียว แลกเปลี่ยนความเห็นกันในการดุแลลูก สร้างความมั่นใจให้แม่เวลาที่ต้องแก้ปัญหาบางอย่าง โดยเฉพาะปัญหาบางอย่างที่อาจจะต้องปล่อยให้ลูกแก้ปัญหาเอง หากแม่มีความมั่นใจก็จะสามารถทุ่มเทการดูแลลูกได้ถูกทางยิ่งขึ้น
ช่วยกันตัดสินใจ
เรื่องที่ต้องจัดการกับลูกต้องการการตัดสินใจร่วมกันระหว่างพ่อกับแม่ อย่างการเลือกโรงเรียนให้ลูก การเลือกกิจกรรมที่ลูกจะเข้าร่วม การอนุญาติให้ลูกทำตามที่ลูกขอ เป็นต้น การร่วมตัดสินใจแสดงถึงความรับผิดชอบที่มีร่วมกันเรื่องลูก และรับรู้ความเป็นไปของลูก พ่อหลายคนยกเรื่องลูกให้แม่จัดการทั้งหมด จนกลายเป็นยกความรับผิดชอบไว้บนบ่าของแม่คนเดียว หากไม่มีปัญหาอะไรก็ดีไป แต่เกิดปัญหาขึ้นนอกจากไม่ร่วมตัดสินใจ แม่ยังถูกตำหนิที่ตัดสินใจผิดพลาด หากเป็นอย่างนี้แม่คงกดดันอย่างมากกับความรับผิดชอบ
แม่อยากได้พ่อช่วยเป็นที่ปรึกษาที่ช่วยให้การตัดสินใจมาจากทั้งพ่อและแม่ โดยเฉพาะเรื่องสำคัญๆเกี่ยวกับลูก คิดสองคนก็น่าจะดีกว่าคิดคนเดียว
กำลังใจ
การทำหน้าที่แม่เป็นงานที่หนัก เป็นงานที่ทำทุกเวลา ลาออกไม่ได้ ลาหยุดได้บ้างแต่ต้องกลับมาทำหน้าที่โดยเร็ว แม่ทุกคนมีความสุขจากการดุแลลุกแม้งานจะหนัก เวลาที่เห็นลูกมีพัฒนาการที่ดี แม่ก็อดภูมิใจไม่ได้กับผลงานของตนเอง และมีพลังที่จะดูแลลูกต่อไป แต่ในบางขณะแม่ก็รู้สึกว่าพลังในการดูแลลูกลดน้อยลง ภาระที่ทำซ้ำๆทุกวัน และภาระอื่นๆที่แม่พยายามจะทำให้ดีเช่นกัน แม่อยากให้พ่อรับรู้ถึงความตั้งใจดูแลลูก และบางขณะที่อ่อนแรงลง พ่อจะเป็นพลังเสริมช่วยเติมพลังให้แม่ด้วยคำพุดที่ให้กำลังใจ หรือการแสดงออกที่แสดงว่าพ่อรู้ว่าอ่อนแรงลงและพ่ออยู่เคียงข้างแม่เสมอ
หลายคู่หลังจากมีลูกความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับแม่เปลี่ยนแปลงไปเป็นความห่างเหิน เหมือนมีเรื่องลูกเป็นเรื่องเดียวที่สนใจร่วมกัน แต่ความเอาใจใส่ระหว่างพ่อกับแม่กลับหายไป อาจจะด้วยภาระที่เพิ่มขึ้น ด้วยความลำบากในการปรับตัวหลังมีลูก กิจกรรมที่เคยมีความเป็นส่วนตัวก็ลดลง เวลาอยากคุยกัน สัมผัสด้วยความรักก็ลดลง เหลือแต่การทำหน้าที่ สำหรับแม่บางทีอาจมีอารมณ์ที่อ่อนไหวขึ้น โดยเฉพาะระยะแรกหลังคลอดที่ยังต้องการการปรับตัว คำพูดอย่าง “ขอบคุณแม่มาก” “แม่เหนื่อยไหมวันนี้ “หรือแม้แต่ “พ่อรักแม่”
สิ่งที่แม่ต้องการจากพ่อเป็นสิ่งที่ทำให้พ่อและแม่ได้ร่วมกันในการดูแลลูก ได้มีส่วนร่วมในการเติบโตของลูกร่วมกัน และด้วยการดูแลลูกร่วมกันทำให้ลูกได้ซึมซับสิ่งที่ดีจากทั้งพ่อและแม่ ได้เห็นรูปแบบความสัมพันธ์ที่อบอุ่นของพ่อแม่ ซึมซับความเป็นครอบครัว ความเป็นหญิงและชาย เติบโตด้วยสุขภาพที่ดี พ่อและแม่เองได้มีโอกาสเรียนรู้สร้างสัมพันธภาพต่อกันผ่านการดูแลลูก อย่างที่กล่าวกันว่าลูกเป็นเหมือนโซ่ทองคล้องดวงใจของพ่อและแม่
อ่านแล้วคิดถึงแม่จังเลยค่ะ
แม่จากไป 10 ปีแล้ว แต่รู้สึกเหมือนเรื่องเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วเลย T_T
k-jira คุณหนิง คุณมะปรางเปรี้ยวครับ ผมเห็นด้วยกับทุกๆ คนเลยครับ แม่คือผู้เหน็ดเหนื่อยที่สุดในครอบครัว คุณแม่ของ อ.ลูกหว้าโชคดีมากครับ
เอ .. แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องเมียนี่ครับ ไหงตอนคอมเมนท์กลายเป็นเรื่องแม่ไปซะนั่น แต่คิดอีกที ก็ OK นะ เมียๆ แม่ๆ ไม่ต่างกัน
(feminist อย่า serious นะครับ)
โชคดีจังที่พ่อแป้นน่ารักที่สุดในโลก อย่างงี้แม่แป้นก็ถือว่าเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดเช่นกัน
แต่ที่คิดแบบนี้ อาจจะเพราะตัวเองเป็นลูกสาวก็ได้ เพราะบ้านแป้นแบ่งกันเลี้ยงค่ะ แม่ดูแลลูกชาย พ่อดูแลลูกสาว เพื่อความเท่าเทียมกันทั้ง 2 ฝ่าย
no comment ! เรื่องนี้ เพราะพ่อจากไปตั้งแต่เรา 2 ขวบ อีก 10 ปีถัดมา แม่ก็ตามไปอยู่กับพ่อ :-( อาจจะเป็นเพราะทนความดื้อของเราไม่ไหว
อาจารย์คะ ช่วยเขียนเรื่องสิ่งที่ลูกกำพร้าต้องการความเข้าใจบ้างสิคะ
อย่างเวลาวันแม่ วันพ่อ วันครอบครัว ก็จะมีการโฆษณา ประชาสัมพันธ์กันกระหึ่มเมือง ให้กลับบ้านไปไหว้พ่อ แม่... การทำ ad เพื่อคนกลุ่มหนึ่ง แต่ไม่นึกถึงผลกระทบกับคนอีกกลุ่มหนึ่ง เคยคิดบ้างไหมว่ามันแสลง ทิ่มแทงหัวอกเด็กกำพร้า ให้เจ็บปวดทรมานขนาดไหน
สวัสดีค่ะคุณหมอ
สวัสดีค่ะ
ประทับใจกับบันทึกนี้ของคุณหมอมากๆค่ะ
การเข้าใจกัน รู้จักให้กำลังใจกัน การเสียสละและมีน้ำใจต่อกันเป็นพื้นฐานของชีวิตมนุษย์ที่ต้องอยู่ร่วมกันนะคะ
ดีมากๆเลยค่ะ บทบันทึกของคุณหมอบทนี้อยากให้คุณพ่อทุกคนได้อ่าน