ชาวบ้านกับผีมีความสัมพันธ์กันแนบชิด มีชาวบ้านในโครงการของเราหลายคนที่เจ้าพิธีในหมู่บ้านของตน บางก็เป็นผู้ที่จะต้องเลี้ยงผีทุกปี
ทุกพื้นของหกอำเภอให้ความเคารพนับถือ ใกล้ชิดกับ ผี มีพิธีเลี้ยงผีที่เรียกชื่อแตกต่างกันไปตามพื้นที่ เข่น เลี้ยงหอปู่ตา เลี้ยงหอพ่อปู่จันแดง เลี้ยงญาแม่บุญตาบึงวังซิ่ว เลี้ยงผีบ้าน ของรักษมรักษา ผีไร่นา เต้าที่เจ้าฐาน เจ้าไฮ่เจ้านา ผีตาแฮก บริเวณที่เป็นที่สิงสถิตของผีถือว่าเป็นบริเวณศักดิ์สิทธิ์ ห้ามคนเข้าไปเกี่ยวข้อง ถ้ามีป่าไม้บริเวณนั้นก็ห้ามตัดห้ามทำลาย ถ้าอยู่ใกล้บึงก็ห้ามลงจับปลาบริเวณนั้น
พ่อวิเชียร โสมี ก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นเจ้าพิธีต่าง ๆ ทั้งพิธีบุญ งานมงคล และงานตาย พ่อวิเชียรแอบมาบอกดิฉันเบา ๆ ว่าจะต้อง ทำพิธีบอกกล่าวหน่อยที่พวกเราจะมาจัดงาน มาเสียงดังเอะอะร้องรำทำเพลงในนา เดี๋ยวเจ้าไฮ่เจ้านาเพิ่นจะตกใจ พาลโกรธ และพยายามเลี่ยงอย่าให้งานของพวกเราตรงกับวันพระจะดีที่สุด พ่อพูดเอาจริงเอาจัง จนดิฉันรู้สึกกลัว กลัวว่าจะทำผิดแล้วจะทำให้ชาวบ้านไม่สบายใจส่งผลกระทบอื่น ๆ และกลัวผีจะแสดงอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ นา ๆ โดยเฉพาะเวลาที่เราพักอยู่ในนา บรรยากาศตอนกลางคืนที่มันแตกต่าง มันทำให้จินตนาการประหลาด ประหลาดได้
แม่บับพาก็ยังมาย้ำอีกว่า แม่ว่าตอนกลางคืนที่พวกเราสนุกสนานกัน พวกเขา พากันมาดูด้วย มาสนุกด้วย พวกเขามาดี
รู้สึกเย็นวาบไปทั้งกระดูกสันหลัง
ไม่เสี่ยง ดีที่สุด
แม่บับพาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่บ้านนาดี ภูมิลำเนาของแม่บับพา นั้น แม่บับพาเลี้ยงผีทุกปี
ครั้งหนึ่งที่พาชาวบ้านรวมทั้งแม่บับพาไปเยี่ยมบ้านลุงโฮจิมินห์ ช่วงบ่าย แม่บับพาเกาะแขนดิฉันแจ ดิฉันไม่ได้สังเกตละเอียด รู้แต่ว่าการไปดูงานคราวนี้แม่บับพาไม่มีคำถาม ไม่อยู่แนวหน้า ซึ่งจะเป็นลักษณะพิเศษปกติของแม่บับพา สนใจ อยู่แถวหน้า ซักถาม คราวนี้เงียบใช้ผ้าคลุมศรีษะตลอด แม่ไม่พูดอะไร แต่พอกลับมาถึงที่พัก แม่ถึงได้เฉลย
ของ ที่นั่นแรงมาก แม่กลัว ถึงได้เกาะแขนลูกตลอดเวลา
เหรอคะ ไม่น่าเชื่อ
มีจริงนะ แม่รู้สึกได้
ผีต่างชาติก็มีด้วย ต่อถึงกันได้อีกต่างหาก
ที่ตั้งนาของพ่อวิเชียร อยู่เยื้อง ๆ กันกับทีเผาผี ป่าช้าของหมู่บ้านเวลาจะเดินทางเข้านาพ่อวิเชียรต้องผ่านป่าช้านั้นก่อน
อย่างไรก็ตามตลอดเวลา ๕ วันที่เราอยู่ที่นาพ่อวิเชียร เราก็พากันแห่ขบวน แคน กลอง ร้องเพลง ผ่านป่าช้า เพื่อไปอาบน้ำในหนองน้ำสาธารณะของหมู่บ้าน ซึ่งห่างจากนาพ่อวิเชียรประมาณ ๑๐๐๐ เมตร ของตอนห้าโมงเย็นทุกวัน
มีคนจากหมู่บ้านอื่นขี่รถเครื่องผ่านมาจอดดูด้วยความงุนงงสงสัย พวกนี้แห่ขบวนอะไรกัน
แห่ไปไหน เขาถาม
แห่ไปอาบน้ำ พวกเราตอบ
ไม่เคยมีใครในสมัยนี้แห่ขบวน ร้องเพลงสนุกสนาน ไปอาบน้ำกันเป็นโขยง คนลืม ทิ้งความสนุกสนานที่แนบไปกับการทำกิจการต่าง ๆ ที่ปู่ย่าตายายเราพาทำ
แต่คณะพวกเราทำกันเพื่อสืบทอด สัมผัสความรู้สึก และเพราะมันทำให้การเดินไปอาบน้ำระยะทางเหมือนใกล้ลงถนัดใจ
ดูท่าทาง พ่อวิเชียร กังวลใจบ้างที่เพื่อนบ้านก็คงไม่เข้าใจ
อาจารย์ทนายได้ช่วยอธิบาย มันไม่เป็นไร เป็นเรื่องดี เราแสดงออกถึงความสนุกสนานกัน พวกเรามาดี เราไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร สิ่งที่เราจะทำก็เป็นเรื่องดี ฟื้นฟูดิน ฟื้นฟูไร่นาของเรา สร้างกลุ่มให้เข้มแข็ง
พ่อวิเชียรค่อยคลายใจ ผมก็ว่ายังงั้นแหละ เพียงแต่ว่า ตั้งแต่เกิดมา ผมก็ไม่เคยทำแบบนี้เท่านั้นเอง
งานก็ผ่านไปด้วยดี ผีก็คงเห็นในเจตนารมณ์ของหมู่ชาวบ้านในความตั้งใจที่จะฟื้นไร่นา ฟื้นประเพณี ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านดังที่พวกเราทำกันอยู่
ผมไม่แน่ใจว่าปัจจุบันนี้
ผีหลอกคน หรือคนหลอกผี
หรือคนเอาผีมาหลอกตัวเองกันแน่
แต่ถ้าเอาผีมาพัฒนาคนนั้นผมเห็นด้วยในแทบทุกพิธีกรรมที่เราทำ
ลองรวบรวมภูมิปัญญานี้เป็นหมวดหมู่ดีไหมครับ