หนึ่งความรักมีให้ใครด้วยใจรัก
เฝ้าฟูมฟักรักษาใจไม่แปรผัน
แต่สิ่งที่ได้รับหากกลับกัน
คือแปรผันเปลี่ยนไปไม่แน่นอน
....
อันที่จริงผมเข้าใจว่าบันทึกที่เขียนเรื่อง “โลกแคบและความเป็นจริงของใครบาง” ได้ปิดตัวลงไปนานแล้ว แต่ไม่นานนักผมมีโอกาสได้อ่านบันทึก วันนี้คุณบอกรักใครหรือยัง ของคุณ sompornp (http://gotoknow.org/blog/sompornpcmu/74206) กอปรกับล่าสุดวันนี้เอง ผมได้พบปะกับนิสิตท่านเดิมที่เคยมาปรึกษาเรื่องชีวิตและความรักกับผม...ทำให้ทันทีที่กลับมาถึงบ้าน ผมจำต้องย้อนกลับมาอ่านบันทึก “โลกแคบและความเป็นจริงของใครบางคน” อีกครั้ง..
เขาบอกกับผมว่า, บัดนี้ได้รู้แล้วว่านิสิตหญิงที่เขาตกหลุมรักทั้งตัวและหัวใจนั้นเป็นใคร ? เรียนคณะอะไร ? ชั้นปีไหน ? และพักที่หอพักใด ? อันเป็นความกรุณาที่เพื่อนพ้องได้ช่วยลงแรงใจในการสืบเสาะให้
เมื่อความรักมาเยือนเช่นนี้ ด้วยความที่ตลอดห้วงชีวิตที่ผ่านมาเขายังไม่เคยมีคนรัก และยังไม่เคยถูกรักโดยผู้หญิงคนใดเลย จึงย่อมไม่แปลกที่ขณะนี้เขาจะยังรู้สึกร้อนรุ่มใจและขบคิดอย่างไม่รู้จบว่าจะทำเช่นไรดีเพื่อให้ผู้หญิงคนนั้นได้รับรู้ถึงความรักที่เขามีต่อเธอ
เขาบอกกับผมว่าตอนนี้ “มีความสุขที่ได้รัก” แต่ในขณะเดียวกันก็จ่อมจ่มอยู่กับความไม่สบายใจกับอาการ “ทุกข์ใจที่ไม่กล้าบอกรัก” ซึ่งผมก็ยิ้ม ๆ ด้วยความรู้สึกว่าเป็นธรรมดาแหละ โลกและชีวิตมีสองมุมเสมอ
เขาเปรยกับผมอย่างราบเรียบว่านี่ใช่ไหมที่โบราณพูดไว้ว่า " ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”
ผมบอกว่าโบราณกล่าวไว้เช่นนั้นจริง แต่สำหรับผมกลับมองว่าแท้ที่จริงความรักเป็นสิ่งงดงามเสมอ เป็นยิ่งกว่าแดดอุ่นยามเช้าในสายลมหนาว เป็นยิ่งกว่าฝนแรกแห่งวสันตฤดู และเป็นยิ่งกว่าลมเย็นกลางห้วงเดือนเมษายน
ผมย้ำกับเขาอย่างหนักแน่นว่า “ที่ใดมีรัก ที่นั่นย่อมมีรัก” แต่ที่เขากำลังทุกข์ร้อนอยู่นั้นเป็นผลพวงของการไม่กล้า “บอกรัก” ..
แต่เขาก็สวนกลับด้วยคำถามที่ทำเอาผมต้องต้องตะลึง แน่นิ่งว่า “ถ้าบอกรักแล้ว หากผู้หญิงคนนั้นปฏิเสธความรักของเขา จะถือว่าเป็นความรักได้หรือไม่”
“ได้สิ ! การได้รัก ก็มิได้หมายความว่าจะต้องถูกรับรักเสมอไป สำคัญที่หัวใจของเราเข้าใจคำว่ารักสักแค่ไหน” ผมอธิบายราวกับนักรักผู้จัดเจน (ทั้ง ๆ ที่ชั่วโมงบินของผมไม่เคยโบยบินออกไปไกลกว่าปัจจุบันที่เป็นอยู่) “การได้รักก็ย่อมแสดงให้เรารู้ว่าความรักมีอยู่จริง และมีอยู่ในทุกสถานที่ โดยเฉพาะมีอยู่อย่างเต็มล้นในหัวใจของคนเรา การได้รักใครสักคนถึงแม้อาจจะไม่สมหวังในความรัก แต่อย่างน้อยการได้รักก็เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า เรายังมีชีวิตอยู่และมีจิตใจอันงดงามที่จะแบ่งปันความดีงามให้กับคนอื่น”
ก่อนแยกออกจากกัน ผมนึกขึ้นได้ว่ามีหนังสือกวีนิพนธ์เล่มหนึ่งที่ชื่อว่า “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีรัก” ของคุณไพวรินทร์ ขาวงาม จึงได้เอ่ยปากชวนให้เขามายืมไปอ่าน มิหนำซ้ำยังแซว ๆ หยอก ๆ ว่า “วันนี้งดอ่านหนังสือธรรมะสักวันนะ แล้วหันมาอ่านหนังสือว่าด้วยรักจากทางโลกสักวันเถอะ” ... เขายิ้มอย่างเขินอาย ก่อนจะถีบจักรยานตามรถเก๋งผมมาอย่างไม่รู้จักหอบเหนื่อย
ผมให้หนังสือกับเขาไป ย้ำว่ารักษาให้ดี เพราะมีเหลือเพียงเล่มเดียว และอวยพรให้เขามีความสุขกับการอ่านหนังสือเล่มนี้ พร้อมทั้งย้ำเตือนว่าวันหลังอ่านเสร็จแล้วค่อยมาสนทนาแลกเปลี่ยนกันว่าเขาเชื่อเหมือนที่ผมเชื่อว่า “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีรัก” หรือไม่ ? รวมถึงการวกกลับไปกล่าวย้ำกับเขาอีกหนว่า “การบอกรัก คือ วิธีหนึ่งในการแสดงความรัก และขอให้มีความสุขที่จะบอกรัก โดยไม่ขลาดกลัวต่อการได้รับผลตอบแทนจากการบอกรัก”
ผมอยากให้ท่านทั้งหลายได้อ่านบทกวีที่ชื่อ “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีรัก” เหมือนนิสิตท่านนี้บ้าง เผื่อบางทีท่านอาจได้หวนรำลึกขบคิดถึงประเด็นที่ผมได้กล่าวไว้ในทำนองว่า แม้บรรพชนจะพร่ำสอนเตือนสติเรามายาวนานว่า “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์” ซึ่งผมก็เชื่อเช่นนั้นเหมือนกัน หากแต่ก็ยังเชื่อและศรัทธาไม่น้อยไปกว่ากันว่า “ที่ใดมีรัก ที่นั่นย่อมมีรัก” เพียงแต่เราต้องเรียนรู้ที่ “จะรัก” และ “ถูกรัก”อย่างมีเหตุมีผล
(ลองอ่านดูนะครับ) เผื่อเราและเราจะได้ต่อยอดทัศนะที่ว่าด้วย “รัก” กันสักยก..
ที่ใดมีรัก ที่นั่น ย่อมมีทุกข์ !
ที่ใดมีสุข ที่นั่น มีรักไหม ?
หมื่นคำถาม แสนคำถาม ก็ถามไป
โลกมิเคยแล้งไร้ซึ่งความรัก
ยังสุขทุกข์ ทั่วทุกหัวระแหง
ต่างตำนานอันแสดงแจ้งประจักษ์
บางตำนาน เบิกบานหวานชื่นนัก
บางตำนานสำลักแต่น้ำตา
รักเช่นใด ? คือรักที่ก่อทุกข์
รักเช่นใด ? ก่อสุขเสน่หา
รักเช่นใด ? รุ่งโรจน์แล้วโรยรา
รักเช่นใด ? ปรารถนาชั่วฟ้าดิน
ปริศนา ปรารถนา คะนึงนับ
ปวงปราชญ์เอย เฉลยสดับ มิเคยสิ้น
ถามยิ่งถาม ตอบถาม ยิ่งย้ำยิน
น้ำตารัก ยังรดริน รอยยิ้มรัก
หวัดดีคะ....ไม่เคยอ่าน หนังสือที่แนะนำนี้หรอกคะ....แต่สนับสนุนเรื่อง
" การบอกรักกับคนที่เรารัก " คือ ถ้าเราได้บอก / ได้แสดงความรู้สึก เราก็จะไม่ต้องอึดอัด...พอบอกไปแล้ว เขา ไม่รักตอบ
ก็ แนะนำว่าให้ทำความเข้าใจ สภาวะนั้น ให้ได้....แต่ถ้า น้องนักศึกษา เขามีทุนเดิม ในตัวเอง ก็จะดีมาก
คือ จะไม่เศร้า นานเกินไปนัก.....
ทุนเดิมในตัวเอง คือ การเข้าใจตัวเอง มีความมุ่งมั่น
ม ีความสุขกับสิ่งที่เราค้นพบและกระทำ.....
ถ้าจะให้ดี ก็คบเป็นเพื่อน ดูแลกันไป เรียนรู้กันไป
น่าจะดีกว่า.....
คุณแผ่นดิน.....
ผมเห็นด้วยว่าคุณแผ่นดิน โรแมนติค ละเอียดอ่อนเรื่องของความรู้สึก
และบางครั้งก็จริงจังดูดุดัน เด็ดเดี่ยว
โรแมนติกแมน
หาคนมาเทียบชั้น หนุ่มหล่อเมืองปายได้แล้ว
สาวๆ บล็อก คงต้องตามติด 2 หนุ่มนี้แน่ๆ เลย
ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีรักจริงๆ ค่ะ....พี่จะบอกรักลูกก่อนนอนทุกวันว่า "แม่รักหนูนะคะ"...จนวันหนึ่งแกสงสัย ถามว่า...."แม่ทำไมแม่ต้องบอกรักลูกทุกวัน....." แม่แก้เขินเลยจึงบอกไปว่า....แม่จะนอนไม่หลับถ้าไม่ได้พูดอะไรกับลูกก่อนนอน....แม่ก็อยากนอนเร็ว...จึงอยากพูดสั้นที่สุดไง....ถ้าพูดเรื่องอื่นต้องพูดนาน...ไม่รู้คิดได้ไงวันนั้น...อิ...อิ...
|
Life cannot be without.......LOVE
We have only one life to live, so enjoy it every moment you can.
We have only one life to live, so enjoy it every moment you can.
สวัสดีครับคุณ
ขอบคุณครับอาจารย์ปวีณา
สวัสดีครับคุณสมพร
บทหนึ่ง..ฝากไว้ให้พิจารณา
หนึ่งความรักมีให้ใครด้วยใจรัก
เฝ้าฟูมฟักรักษาใจไม่แปรผัน
แต่สิ่งที่ได้รับหากกลับกัน
คือแปรผันเปลี่ยนไปไม่แน่นอน
สวัสดีครับ
หนึ่งความรักมีให้ใครด้วยใจรัก
เฝ้าฟูมฟักรักษาใจไม่แปรผัน
แต่สิ่งที่ได้รับหากกลับกัน
คือแปรผันเปลี่ยนไปไม่แน่นอน
....
บทกวีข้างต้นสะท้อนให้เห็นสัจจะที่น่าสนใจมาก นั่นคือ ความไม่เที่ยงแท้ของวิถีชีวิต หรือแม้แต่ความรัก
แต่สำคัญ ผมว่าคนเราต้องตระหนักถึงความรักที่แท้จริงว่าเป็นการให้หรือไม่ ..
ถ้าเราคิดว่าใช่ ... การให้ จึงกลายเป็นหัวใจหลักของการมีความรักของคนเรา ..
...
ขอบคุณครับ