ชีวิต..การเรียนรู้...ความรู้


หลายคนบอกว่าชีวิตคือการเรียนรู้ นั่นหมายถึงการเรียนรู้และชีวิตเป็นสิ่งที่จะแยกขาดจากกันไม่ได้ ทุกขั้นตอนของชีวิตประกอบด้วยการเรียน จะทำให้เกิดข้อคำถามเกิดขึ้นกับตนเองว่า เรียนรู้ เพื่ออะไร???

หลายคนบอกว่าชีวิตคือการเรียนรู้  นั่นหมายถึงการเรียนรู้และชีวิตเป็นสิ่งที่จะแยกขาดจากกันไม่ได้  ทุกขั้นตอนของชีวิตประกอบด้วยการเรียน จะทำให้เกิดข้อคำถามเกิดขึ้นกับตนเองว่า เรียนรู้ เพื่ออะไร???

เรียนรู้เพื่ออะไร??   ก็มีคำตอบหนึ่งเกิดขึ้นกับตนเองว่า   เรียนรู้ ก็เพื่อที่จะรู้ไง    แล้วรู้อะไรล่ะ?   รู้แจ้งแทงตลอดไง? รู้แจ้งแทงตลอดอย่างไร??  รู้แจ้งแทงตลอดคือสามารถเข้าใจความจริงของชีวิตไง ตั้งแต่เกิดแก่เจ็บตาย  และสุดท้ายจุดที่เป็นที่สุดของชีวิต  (ซึ่งตนเอง ยังไม่มีความสามารถพอที่จะบัญญัติศัพท์นี้ได้  และยังไม่สามารถที่จะค้นพบด้วยตนเอง  แต่โชคดีที่ได้มีโอกาสได้ศึกษาคำสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาบ้าง จึงขอนำคำๆ ว่า นิพพาน มาใช้)       เอาตามคำเข้าใจของตนเองนะคะ    รู้แจ้งแทงตลอด  คือ  การรู้แจ้งแทงตลอดในอริยสัจสี่   คือ รู้ทุกข์   รู้เหตุแห่งทุกข์   รู้ความพ้นทุกข์  และ รู้หนทางปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์         

 สำหรับข้าพเจ้าแล้ว  สิ่งนี้ล่ะ  คือ ความรู้

ตลอดเวลาที่ผ่านมา 30 กว่าปี  ข้าพเจ้าได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ จากชีวิตมามากมาย   มีสุขบ้าง  ทุกข์บ้าง  เฉยๆบ้าง    แต่ก็ยังไม่สามารถค้นพบสัจจะแท้ของชีวิต

เชื่อเสมอว่า  ชีวิตเราเป็นคนกำหนดชะตาได้ตัวเอง    ทำสิ่งใดได้สิ่งนั้น  จะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวเองทำเอง     แต่อย่างไรก็ตาม ในชีวิตมันมักจะมีทางเลือกให้เราได้เลือกเสมอ     บางครั้งมีสองทางเลือก  หรือมากกว่า สองทางบ้าง    แต่บางครั้งก็มีทางเลือกเดียว   ซึ่งทางมีให้เราได้เลือกเดินไปสู่จุดมุ่งหมาย      จุดมุ่งหมายเดียวกัน  ทางที่เดินมีได้หลายเส้นทางจึงจำเป็นที่ตัวเราเองจะเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของเราเอง.

คำสำคัญ (Tags): #ชีวิต
หมายเลขบันทึก: 74763เขียนเมื่อ 27 มกราคม 2007 12:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ผมเชื่อมั่นอย่างหนึ่งว่า การเรียนรู้อันไพศาล และสุดยอดคือ การเรียนรู้ตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้า

เมื่อเรียนรู้แจ้งแล้ว ทำให้ปัญญาเราเติบโตขึ้น เรื่อยๆ

และที่สำคัญมีความสุขทุกขณะจิตด้วย

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ      ชีวิตนี้น้อยนัก 
ความไม่เที่ยงเป็นธรรมดาของชีวิต
การมีมรณานุสติทุกขณะจิตเป็นสิ่งที่ดี
ดิฉันก็ใช้สิ่งนี้สำหรับการดำเนินชีวิต  หลงลืมไปบ้าง แต่ก็พยายามดึงสติเข้ามาที่ตัวเอง  มาที่ปัจจุบัน
พยายามที่จะดูลมหายใจ

ตอนนี้ก็พยายามที่จะทำหน้าที่ทุกอย่างที่มีให้ดีที่สุด   แต่เป้าหมายลึกๆ ของชีวิต  ไม่เคยเลือนลางไปจากหัวใจค่ะ      

ยังไง  เส้นทางตามทางพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  เป็นทางสายเอก   ดิฉันเชื่อมั่นว่า  เดินทางนี้ไม่หลงทางค่ะ

คุณมีทุนที่ดีครับ

และเส้นทางที่เดินไป มีเหตุการณ์มากมาย แต่ผมก็เชื่อว่า เส้นทางตามทางพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  เป็นทางสายเอก  

ไม่หลงทางแน่นอน

เพราะความรู้แจ้ง และ เข้าใจใน "สัจธรรม"

เมื่อรู้แจ้ง เห็นชัด เป้าหมายอันสูงสุดของชีวิตก็ชัดเจน และมุ่งมั่นไปถึง โดยการประพฤติดี ทุกขณะจิต

"ความดีสวยงามเสมอ"

ดีใจนะคะ ที่ได้รู้จักคุณจตุพร  ในครั้งนี้

เวลาของชีวิตไม่มากนัก  ดังที่คุณจตุพรกล่าวไว้

บล็อกนี้ ดิฉันสมัครไว้นานแล้ว
เพิ่งได้มาลองเขียนบันทึกในบล็อกก็วันนี้

ก็รู้ว่า บล็อกนี้ถูกสร้างขึ้นเพียงแค่เป็นสื่อหนึ่งเท่านั้น
ไม่ได้สร้างไว้เพื่อให้มันได้เติบโตงอกงามแต่อย่างไร

ซึ่งเป็นธรรมดา  ที่สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
แม้ว่าเราอยากให้ทุกอย่างคงทน  ทุกอย่างดีงาม  แต่ทุกสิ่งมันเป็นไปตามธรรมชาติ  ย่อมสลายไปเป็นธรรมดา  วนเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ....

หากคำนึงถึงชีวิตที่เวียนว่ายตายเกิด  ชีวิตเราก็คงจะพบเจอสิ่งที่เราคิดว่าเรายังไม่รู้มานับชาติไม่ถ้วน     สิ่งเดิมๆ  ปัญหาเดิมๆ  ความสุขเดิมๆ  ความทุกข์เดิมๆ  ... 

ช่วงก่อนหน้านี้  ดิฉันก็ใช้เวลาอยู่กับการครุ่นคิดเรื่องของชีวิตและการแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุด   แต่ยิ่งคิดมาก  ค้นหามาก   ก็พบว่ามันเป็นแต่ความคิด   เพราะตนไม่ได้ปฏิบัติให้จริงจัง    แต่ว่าสิ่งเหล่านั้นที่ได้จากการเรียนรู้ การขบคิด  ต่างๆ  มันก็กลายเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้ตัวเองเข้าสู่การปฏิบัติมากขึ้นค่ะ

วันนี้...เป็นอีกครั้งที่ตัวเอง เริ่มมาขีดเขียน ความคิด ความรู้สึกลงบนคอมพิวเตอร์ ... แต่สิ่งนี้ก็ไม่คงทนค่ะ 

..ขอบคุณอีกครั้งค่ะ  ที่แวะมาแชร์ความรู้สึก นึกคิดกัน ...

  • แวะมาทักทายค่ะน้องมนต์  เห็นว่าไปสอบ CU-TEP มา   พี่เองก็ไปสอบหลายครั้ง   เป็นเกณฑ์ของที่ทำงาน ก็ผ่านเกณฑ์แล้ว  แต่สำหรับการเรียนต่อป.เอก  หลายๆที่เขารับแต่ TOEFL
  • ถ้าน้องมาเรียนที่มน.คงได้ติดต่อกันนะคะ
สวัสดีค่ะ พี่ลูกหว้า   
มนต์ไปสอบ CU-TEP มาค่ะ   ซึ่งเป็นการสอบครั้งแรก    เพราะมนต์ไม่ได้คิดไว้ก่อนเลยค่ะ   คือ หลังจากที่เรียนจบ ป.โท  กลับมาทำงาน  ตอนนั้นมีแรงฮึดที่จะเรียนต่ออยู่  แต่ขณะนั้นทำเรื่องขอลาเรียนต่อ ทางวิทยาลัยฯ ไม่ให้ลาเรียนค่ะ  เพราะที่ทำงานมีคนทางคอมพิวเตอร์น้อย     และ พอดีมันมีความจำเป็นบางอย่างด้วย   ตอนนั้นจึงคิดว่าคงไม่มีสิทธิ์ได้เรียนต่อแล้ว  แต่ด้วยใจที่ยังรัก การเรียนต่ออยู่  พอมีโอกาสที่สมัครขอทุนได้  ก็เลยได้สมัครขอทุน และเป็นโอกาสดีๆ ขึ้นมา   ก็มีหลากหลายเรื่องราวเกิดขึ้นในการได้รับทุนครั้งนี้ ไว้หากมนต์มีเวลาพอ อาจบรรจงเขียนเป็นเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังต่อไปค่ะ

สำหรับที่เรียน ตอนนี้คิดว่าจะเรียน ที่ ม.นเรศวรค่ะ  ถ้าได้เรียนที่นั่น ก็คิดว่าคงได้ติดต่อกับพี่ลูกหว้าเช่นกันค่ะ :)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท