จีน ดาวเทียมจ้าวปัญหา
วันอังคาร 23 มกราคม 2550 ที่ผ่านมานายหลิว เจียนเชา โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนได้ออกมายืนยันการทดสอบอาวุธที่มีประสิทธิภาพในการทำลายดาวเทียม และได้กล่าวว่าการกระทำการดังกล่าวทางประเทศจีนได้แจ้งให้สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆทราบถึงการดำเนินการดังกล่าวแล้ว
ขณะเดียวกันรัฐบาลสหรัฐก็ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ที่จีนได้ทำการทดลองอาวุธต่อต้านดาวเทียมว่าถึงจีนจะได้ทำลายดาวเทียมตรวจสภาพอากาศรุ่นเก่าของจีนไปแล้ว แต่การทดลองครั้งนี้ถือว่าเป็นภัยคุกคามทางอ้อมต่อระบบความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากดาวเทียมตรวจสภาพอากาศที่จีนทำลายทิ้งลอยอยู่ในอวกาศในระดับเดียวกับดาวเทียมจารกรรมของสหรัฐ อีกทั้งนายทอม เคซีย์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐยังออกมากล่าวแสดงความวิตกว่าการทดลองทำลายดาวเทียมของจีนนั้นว่าจะก่อให้เกิดขยะจำนวนมหาศาลในอวกาศ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสถานีอวกาศนานาชาติที่มีคนประจำการอยู่ รวมถึงเป็นอันตรายต่อดาวเทียมพาณิชย์ หรือยานอวกาศสหรัฐด้วย
จากเหตุการณ์ดังกล่าวจึงทำให้จีนได้เป็นประเทศที่ยิงทำลายดาวเทียมครั้งแรกของโลกตั้งแต่ทศวรรษ 20 เป็นต้นมาทันที เนื่องจากสหภาพโซเวียตและสหรัฐซึ่งก่อนหน้านี้เคยปฏิบัติการทำลายวัตถุในวงโคจรของโลกมาก่อนนั้น แต่ได้ตกลงเลิกทำการทดลองในลักษณะดังกล่าวไปหมดแล้ว เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับเศษขยะที่เกิดจากการทำลาย ที่จะกลายเป็นขยะลอยอยู่ในอวกาศ สร้างมลพิษและคุกคามโลก การออกมายอมรับการทดลองของจีนล่าสุดนี้ จึงสร้างความฮือฮา หวาดวิตกให้แก่หลายชาติ และทำให้จีนตกเป็นจำเลย ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักเกี่ยวกับ "พฤติกรรมไร้ความรับผิดชอบ"นี้
ในแนวความคิดของผมจากเรื่องนี้ทำให้คิดได้ว่าทำไมจีนจึงมีแนวความคิดง่ายๆ อย่างนี้ ซึ่งยังพฤติกรรมไร้ความรับผิดชอบต่อมวลมนุษย์ชาติ อีกทั้งยังไม่เป็นเรื่องที่สร้างสรรค์ในโลกใบนี้เลย ซึ่งหากมีซักวันหนึ่งขยะอวกาศที่มาจากการทำลายดาวเทียมนั้นหลุดวงโคจรตกลงมายังพื้นโลกและก่อให้เกิดความเสียหาย อาจจะคล้ายๆ กรณีในไทยที่มีชิ้นส่วนเครื่องบินพาณิชย์หล่นมาใส่ยานยนต์ที่สัญจรไปมาแถวย่านบางเขนเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ซึ่งผมคิดว่าควรจะมีมาตรฐานทางกฎหมายในระดับสหประชาชาติรวมถึงข้อตกลงนานาชาติที่จะออกมารองรับปัญหานี้ และทุกๆประเทศเองควรส่งเสริมการสร้างและพัฒนาเทคโนโลยีที่จะมาช่วยสร้างความสามารถในการเปลี่ยนพลังงานดาวเทียมให้เกิดขึ้นมาได้จริงๆ ซึ่งหากทำได้จริงแล้วจะเป็นการยืดอายุดาวเทียมได้และยังจะเป็นการใช้ทรัพยากรวงโคจรของดาวเทียมไปอย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เป็นไปอย่างทุกวันนี้ ทั้งยังจะส่งผลในการช่วยลดขยะอวกาศจากดาวเทียมปลดประจำการที่ยังเป็นขยะอวกาศที่ลอยแคว้งคว้างไปมาในปัจจุบันให้น้อยลงได้อีกด้วย
ที่มาของข้อมูล http://www.thannews.th.com