ข้อเสนอในการจัดทำมติคณะรัฐมนตรีในการจัดการสื่อสร้างสรรค์สำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว สภาพปัญหาและความจำเป็น
ข้อเสนอในการจัดทำมติคณะรัฐมนตรีในการจัดการสื่อสร้างสรรค์สำหรับเด็กเยาวชนและครอบครัว
๑. ให้สถานีโทรทัศน์ระบบฟรีทีวีทุกช่อง สนับสนุนให้มีผังรายการที่ตอบสนองต่อการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับเด็กเยาวชนและครอบครัว ในช่วงเวลาดี (primetime) ๑๖.๐๐ น.-๒๒.๐๐ น. และดูแลไม่ให้มีเนื้อหาที่กระตุ้นความรุนแรง ความไม่เหมาะสมด้านเพศ ในช่วงเวลาดังกล่าว และให้ประชาสัมพันธ์หรือจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เด็กเยาวชนและครอบครัวได้รู้ เข้าใจและสามารถเข้าถึงรายการสร้างสรรค์เหล่านี้ได้ ทั้งนี้โดยมอบให้สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในมาตรการนี้
๒. ให้มีมาตรการจัดระดับความเหมาะสมของสื่อ โดยใช้เกณฑ์การจำแนกเนื้อหาตามช่วงอายุ และถือปฏิบัติในสถานีโทรทัศน์ทุกช่องทั้งระบบฟรีทีวีและระบบบอกรับสมาชิก ซึ่งเป็นระบบการจำแนกเนื้อหาของรายการโทรทัศน์ว่ามีความเหมาะสมกับผู้ชมในช่วงวัยใดอันจะนำไปสู่การกำหนดช่วงเวลาของการออกอากาศเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งเป็นเครื่องมือให้กับครอบครัวในการเลือกรายการ และการจัดกลไกการติดตามและเฝ้าระวังสื่อของภาคสังคม ทั้งนี้ ให้จัดให้มีหน่วยงานหลักในการทำหน้าที่กำกับดูแลและพัฒนาการใช้เกณฑ์การจำแนกเนื้อหาตามช่วงอายุ โดยอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของกรมประชาสัมพันธ์
๓. ให้มีมาตรการจัดระดับความเหมาะสมของสื่ออีกระบบหนึ่ง คือ ระบบการประเมินคุณภาพเนื้อหา ซึ่งเป็นเกณฑ์พิจารณาสำหรับผู้ผลิตเพื่อให้รายการโทรทัศน์มีคุณภาพด้านการศึกษาและการเรียนรู้ให้กับเด็ก เยาวชนและครอบครัว อันจะนำไปสู่การกำหนดแนวทางเพื่อการสนับสนุนรายการที่มีคุณภาพให้มีจำนวนมากขึ้น ทั้งนี้ โดยให้กรมประชาสัมพันธ์ และกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมเป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาและดำเนินการใช้ระบบนี้
๔. ให้มีมาตรการควบคุมและจำกัดเวลาในการโฆษณาสินค้าที่ไม่เหมาะสมต่อสุขภาพและการบริโภคของเด็ก ดังนี้ ๑) งดการโฆษณาขนมเด็กในรายการโทรทัศน์ที่มีเด็กเป็นกลุ่มเป้าหมายในทุกช่วงเวลา ๒) งดการใช้เด็ก ตัวการ์ตูน ดารา นักร้อง ศิลปิน หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักเป็นผู้นำเสนอสินค้า ๓) งดการส่งเสริมการขายขนมเด็กและการโฆษณาโดยใช้ของแถมของแจก ๔) ในการโฆษณาขนมเด็กทุกครั้งต้องมีคำเตือนในการบริโภคที่ชัดเจน และ ๕) หากผลกระทบต่อสุขภาพเด็กทวีความรุนแรง รัฐบาลควรจำกัดการโฆษณาขนมที่มีผลต่อเด็กในช่วงระหว่างอายุ ๐ ถึง ๑๓ ปีในทุกรายการ ทั้งนี้ โดยมอบหมายให้ กรมประชาสัมพันธ์ และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมเป็นหน่วยหลักรับผิดชอบดำเนินมาตรการนี้
๕. ให้มีการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนการพัฒนาสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ต้นแบบ โดยเป็นความร่วมมือของสถานีวิทยุและโทรทัศน์ในกำกับของรัฐที่มีอยู่แล้ว ได้แก่ สถานีวิทยุและโทรทัศน์ในกำกับของกรมประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุและโทรทัศน์ในกำกับขององค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุและโทรทัศน์ในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้นำเสนอรายการสร้างสรรค์และมีคุณค่าต่อการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับเด็กเยาวชนและครอบครัว ทั้งนี้ โดยมอบให้หน่วยงานที่กำกับดูแลสถานีวิทยุและโทรทัศน์ดังกล่าวข้างต้นรับผิดชอบและดำเนินการ
๖. เพื่อให้เกิดการสนับสนุนการสร้างแรงจูงใจในการสร้างสรรค์รายการและการพัฒนาสถานีต้นแบบดังกล่าวข้างต้น เสนอให้ สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และ กระทรวงวัฒนธรรม ดำเนินการจัดทำพระราชบัญญัติกองทุนสื่อสร้างสรรค์เพื่อเด็กเยาวชนและครอบครัว โดยมีภารกิจหลัก ๔ ด้าน คือ
ด้านที่ ๑ สนับสนุนให้เกิดการผลิตสื่อสร้างสรรค์ให้มีจำนวนและมีคุณภาพมากขึ้น โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้กำหนดขึ้น
ด้านที่ ๒ สนับสนุนให้เกิดการศึกษาวิจัยและพัฒนาสื่อเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว สนับสนุนการฝึกอบรมผู้ผลิต และการจัดสรรทุนการศึกษาเพื่อสร้างผู้ผลิตสื่อและนักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญในสาขานี้
ด้านที่ ๓ สนับสนุนการมีส่วนร่วมของเด็ก เยาวชนและครอบครัว ในระดับการเฝ้าระวังสื่อ และระดับของการผลิตสื่อ เพื่อทำให้รายการโทรทัศน์เกิดความหลากหลาย และ การให้เด็กเยาวชนและครอบครัวในแต่ละพื้นที่มีโอกาสในการผลิตสื่อที่ตรงกับความต้องการของชุมชน
ด้านที่ ๔ สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาช่องทางเผยแพร่สื่อสำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว ทั้งนี้ โดยการจัดตั้งสถานีวิทยุและโทรทัศน์ขึ้นใหม่ หรือ การพัฒนาสถานีของรัฐที่มีอยู่ให้เป็นสถานีวิทยุและโทรทัศน์สำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว
ทั้งนี้ พระราชบัญญัติกองทุนสื่อสร้างสรรค์สำหรับเด็กเยาวชนและครอบครัว จะระบุให้มีกลไกการบริหารจัดการ โดยคณะกรรมการกองทุนฯ และมีการจัดสรรงบประมาณจากแหล่งงบประมาณต่างๆ ที่เพียงพอต่อการดำเนินงานตามภารกิจข้างต้น
--------------------------------------------------------------------------------
[1] เป็นผลมากจากการศึกษาวิจัย เรื่อง สภาพคุณภาพเนื้อหาของรายการวิทยุโทรทัศน์ ในชุดโครงการสื่อมวลชนเพื่อการศึกษาและการเรียนรู้ โครงการยุทธศาสตร์สื่อเด็ก โดย ผศ.ดร.วิลาสินี พิพิธกุล สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ,หน้า๒๕๔๖
[2] เป็นผลมาจาการศึกษาวิจัยของโครงการยุทธศาสตร์สื่อเด็ก มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก ,๒๕๔๘
ผมว่าประเทศเราก็กำลังจะมีแนวโน้มไปนางทางที่ดีแล้วนะครับเช่นในอินเตอร์เน็ต กระทรวงไอซีทีก็ได้มีโปรแกรม house keeper มาสกีนการใช้งานของเยาวชนแล้วนะครับ แต่ยังขาดการกระจายการนำไปใช้เท่านั้นเอง
ส่วนทางโทรทัศน์นี่นะแหละเป็นที่น่าเป็นห่วง อีกทั้งยังต้องหวังพึ่งทางบ้านด้วยนะครับ ที่สำคัญก็คือผู้ปกครองทั้งหลายก็ต้องใส่ใจลูกหลานด้วยนะครับ
ก็คงต้องรีบผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบครับ
โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเรื่องทุนในการสร้างสื่อสร้างสรรค์
ไม่รู้ว่ารัฐบาลชุดนี้จะเอาอย่างไร