ทำไมคนเราจึงมักท้อ...ต่อการดูแลตนเอง
Text : Ka-Poom
.......................................................................................................
---------->ดิฉันได้รับการ consult จากหลายๆ บุคคลที่มีเรื่องที่ไม่สบายใจ...ทุกข์ใจ
จนบางครั้งส่งผลต่อการดำเนินชีวิต...รบกวนความเป็นปกติในแต่ละวันของตนเอง...
ขนาดว่าเป็นมาก...จนวุ่นวาย...
ซึ่งความวุ่นวายที่ว่านี้...เป็นความวุ่นวายที่ก่อเกิดขึ้นในจิตใจตนเอง...
เมื่อดิฉันสอนให้เข้าใจ...และพิจารณาเหตุแห่งความจริง...ของสาเหตุที่เกิด
---------->และให้แก้ที่สาเหตุ...ที่แท้จริง...อันเป็นมาจากภายในของตัวเรานั้น
ดิฉันก็มักจะได้รับการบอกกล่าวว่า...ช่างเป็นเรื่องที่ "ยาก"...
ความยาก...นั้นย่อมนำสิ่งที่ดีมาให้เสมอ..หากเราสามารถผ่านความยากนั้นมาได้
แต่...คนเรานั้นมักจะติด...ที่เสพความง่ายมากกว่า
นั่นหมายถึง...หากทำสิ่งดีดี...โดยเฉพาะความดีต่อชีวิต "ตน"...นั้นมักจะท้อที่จะทำ
เราจึงมักวนอยู่แต่ใน---------->อารมณ์ ความโกรธ หงุดหงิด โมโห...หดหู่ ซึมเศร้า..
จนบางครั้ง...อาการมากขึ้นจนทำให้เรา "เดือดร้อน"....มากๆ...เช่น นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ ปวดท้อง
ใจสั่น จิปาถะอาการ มากจนบางคนคิดฆ่าตัวตาย...หรือจิตวิปลาส...ไปก็มีเยอะ
แต่ในห้วงเวลาที่เราพอรู้ตัวและแก้ไขได้เราไม่สนใจ...
ผลัดไปเรื่อยๆ...คิดว่าตนเองจัดการได้...ยังสบายดี
แต่เมื่อไรก็ตามที่ "ทุน"...ทางจิตใจ หมดลงไป...เมื่อนั้นเราถึงจะรู้ได้ว่าเราเดือดร้อนแล้ว
ความเข้าใจ
จะนำมาซึ่งความตระหนักและเห็นลงมือทำ
แต่..คนส่วนใหญ่ "มักบอกว่า รู้แล้ว...แต่ยังไม่อยากทำ หรือยังทำไม่ได้"...
นั่นดิฉันมองว่า...เขายังไม่เข้าใจหรือยังไม่รู้อย่าง...แท้จริง
รู้เพียงเพราะเห็น
รู้เพียงเพราะได้ยิน
รู้เพียงเพราะได้อ่าน
รู้เพียงเพราะได้ฟัง...
....
แต่ไม่ได้รู้อย่างเข้าใจ...เพราะหากเข้าใจแล้ว---------->เราจะใส่ใจในตนเองมากขึ้น
พิจารณา "ตน"...มากขึ้น...ว่าเอ๊ะ..ร่างกายเราตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างนะ
จิตใจเราเป็นอย่างไรบ้างนะ...สะสมทุนภูมิคุ้มกันเพิ่ม...ดีไหม...หรือว่าจะใช้ของเก่าให้มันหมดไป..แล้วหมดไปเลย
หากเรา...มองเรื่องเล่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อย...พอเราเดือดร้อน...แล้วการแก้ไขมักจะยาก
ยากกว่าการที่จะสะสมทุนภูมิคุ้มกัน..."โรคทางจิตใจ"....จนมันเดี้ยงไปมากๆๆ...นั่นแหละเราถึงเริ่มจะรู้ตัว...
โรคทางจิตใจ คนเป็นมักไม่รู้ตัว อาจเพราะตามตัวเองไม่ทัน คนที่รักรอบข้างมีส่วนช่วยมาก และต้องเป็นคนที่เขายอมรับ เพราะนั่นหมายถึงว่าสิ่งที่เขาได้รับคำแนะนำ ถ้าเขานำไปปฏิบัติ คือการเปลี่ยนตัวเอง แล้วใครที่ไหน จะยอมเปลี่ยนตัวเองง่ายๆ ถึงแม้เราจะบอกว่าเพื่อตัวของเขาเองก็ตาม ถึงอย่างไรก็ยังให้กำลังใจทั้งคนเป็นโรค และคนที่เข้าใจและต้องการช่วยเหลือคนเหล่านี้ และอยากจะขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย ... จากคนที่เคยเป็นโรคทางจิตใจ
สวัสดีค่ะ..คุณจิณงนภา
"โรคทางจิตใจ คนเป็นมักไม่รู้ตัว อาจเพราะตามตัวเองไม่ทัน "...
เรานั้นมักปล่อยตนเองไปตามเรื่องที่เข้ามากระทบ...มากระทบทุกวัน...ทุกวัน...และตามเรื่องนั้นไม่ทัน...ปล่อยดวงจิตลอยไปตามเรื่อง...
พอรู้ตัวอีกครั้ง...อ้าวเป็นโรคเครียด...โรคประสาท หรือโรคจิตเสียแล้ว.....
ดีใจ...ที่ได้พบรอยที่คุณจิณงนภามาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้...ถือเป็นวิทยาอันมีค่ามากเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
(^_____^)
กะปุ๋ม
ดีใจที่ได้รู้จัก คุณ Ka-Poom เห็นประวัติส่วนตัวแล้วรู้สึกทึ่งมากๆ เยี่ยมจริงๆ
ที่คุณจิณงนภา..เห็นนั้นล้วนเป็นสิ่งสมมติทั้งสิ้นคะ...
หากแต่...จริง...คือสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใน...และความเพียรพยายามที่ตนเอง...ทำความรู้จัก "ตน"....และบอกเล่าสู่ภายนอก
(^_______^)
ขอบอกอีกครั้งว่าดีใจมากที่ได้รู้จักกัน ณ เวทีเสมือนแห่งนี้นะคะ
ขอบคุณค่ะ
กะปุ๋ม
สวัสดีครับ
นานแล้วที่ไม่ได้ทักทาย วันนี้มีเรื่องบางอย่างอยากพูดคุยกับคนทำงานด้านให้คำปรึกษา
วันนี้ผมมาประชุมกับหน่วยงานของทหาร หาทาทางออกเกี่ยวกับการแก้ปัญหาทางภาคใต้ ระหว่างที่พูดคุยกับนั้น มีเรื่องหนึ่งที่เคยโดนกับตัวเอง คือ ความเครียด
เครียดรายวันครับ
พวกเราที่อยู่ในสามจังหวัดถ้าจะนับว่าเกิดกับความเครียดรายวันคงไม่ผิด บางครั้งผมมั่นใจกับตัวเองไม่เครียด เพราะอาศัยที่เป็นเคร่งศาสนา และเป็นอาจารย์สอนวิชาจิตวิทยา
แต่อยู่มาวันหนึ่ง วันนั้นมีเหตุการณ์ฆ่ากันตายมาก และเกิดขึ้นใกล้ตัวมากๆ ด้วย ระหว่างที่ขับรถกลับบ้าน รู้สึกเครียดมาก จนต้องยกโทรศัพท์คุยกับเพื่อนๆ ทีอยู่ในกลุ่มจิตวิทยาพูดคุยเรื่องนี้กันให้มันคลาย แต่ก็บางครั้งก็มาอีก และรู้สึกสงสารกับชาวบ้านธรรมดาพวกเขาคงมีความเครียด และเป็นทุกข์ มาก และพวกเขาคงต้องการเพื่อน หรือใครก็ได้สามารถมาคลายทุกข์ตรงนี้ของเขาได้
ทราบว่าตอนนี้มีหน่วยงานเฉพาะรับทำงานด้านนี้ แต่ผมรู้สึกว่ามันน้อยมาก
พูดได้แค่นี้ คงไม่หวังอะไรมาก แต่หวังว่าวันหนึ่ง(คงอีกนาน)ทุกอย่างคงดีขึ้น