ทำไมผมถึงอ่านหนังสือนวนิยายเรื่อง ทางเทวดา


ทำดีได้ดี หากทำไม่ดีจะได้ดีได้อย่างไร
เป็นเพราะว่าผมเผลอไปพูดที่โต๊ะทานอาหารวันก่อนว่า ผมอ่านหนังสือ จิตว่าง ไม่ค่อยเข้าใจ คืออ่านแล้วยังรู้สึกสมองว่างๆ (แต่จิตยังรู้สึกไม่ค่อยว่าง)

เพื่อนร่วมงานคือคุณไกรวาส นักวิ่งสาวปอดเหล็กของภาควิชา ก็เลยเสนอให้ผมอ่านนวนิยายเรื่องนี้ ว่าแล้วเธอก็ไปเช่ามาวางบนโต๊ะพร้อมให้ผมอ่านได้ทันที

ผมเป็นคนขี้เกรงใจเพื่อน ก็เลยต้องอ่านทุกตัวหนังสือให้คุ้มค่่าเช่าของเธอ (ไม่งกเลย)

ก็ขอสรุปให้ฟังสั้นๆ ว่า
เป็นจินตนาการเกี่ยวกับเทวดาที่กำลังหมดเวลาบนสวรรค์ ต้องลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ เพื่อสร้างความดีใหม่อีกครั้ง

ที่ขำๆ ก็คือ การที่คนเราแต่ละคนมีความแตกต่างกันนั้น เพราะก่อนลงมาเกิดมีค่าคะแนนรวมไม่เท่ากัน
(มีคะแนนอยู่ 5 หมวด คือ ความรู้ ความหล่อ ความสุขสบาย สุขภาพ และคู่ครอง ค่าคะแนนยิ่งสูงยิ่งดี)

เทวดาองค์นี้ต้องการลงมาเกิดเพื่อทำความดีในโลกมนุษย์ จึงยอมลดคะแนนจากส่วนของความหล่อ และความสุขสบายลง โดยนำไปเพิ่มคะแนนในส่วนของความฉลาดแทน (แต่ไม่ลดคะแนนคู่ครองเพราะยังอยากได้แฟนสวย)

เขาจึงมาเกิดในครอบครัวที่จน และเป็นคนที่ขี้เหร่มาก (ถึงมากที่สุด)
แต่เมื่อโตขึ้น เขาจึงเป็นหมอที่เก่ง (หมอผ่าตัดหัวใจ) มีชื่อเสียง อุทิศตนเพื่องาน  และยังอยากจะมีแฟนสวย

ผู้แต่งสามารถสร้างบรรยากาศในภาคอีสาน (เดาว่าเป็นขอนแ่ก่น) ให้มีเรื่องราวที่สนุกสนาน ตลอดทั้งเล่ม

อ่านจบแล้วได้อะไรบ้างนอกจากความสนุกที่ว่าแล้ว
ผมว่าแก่นที่แท้จริงที่ผู้เขียนตั้งใจไว้คือ ทำดีต้องได้ดี

แต่การทำความดีนั้นเป็นเรื่องที่ต้องอดทน เพียรพยายาม เป็นอย่างมาก(ตลอดเรื่อง)

หากเผลอไปทำชั่วเข้าเมื่อใด ความดีที่ทำมาตลอดชีวิตอาจจะหายไปหมดก็ได้

รวมค่าคะแนนความดีตอนสิ้นชีวิตอาจจะไม่พอที่จะขึ้นสวรรค์ก็เป็นได้
ถ้าไม่ได้ขึ้นสวรรค์ก็คือตกนรกนั่นเอง

คนที่ทำงานผม เห้นหรือไ้ด้ยินว่าผมอ่านหนังสือเล่มนี้ ก็พากันขำว่าศาสตราจารย์ไม่มีอะไรจะทำแล้วหรือ??

นี่ถ้าชมรมศาสตราจารย์แห่งประเทศไทย (กำลังก่อตั้ง) รู้เข้าผมสงสัยว่าท่านจะยังคงอยากเชิญผมเป็นสมาชิกอีกหรือไม่

แต่ผมไม่รู้สึกแปลกอะไร (สงสัยจิตเริ่มจะว่างขึ้นบ้างแล้ว) อย่างน้อยท่านอาจารย์วิจารณ์ ก็เขียนในบันทึกของท่านว่า ท่านอ่านขายหัวเราะ หรือ ต่วยตูน ก่อนนอน

การอ่านหนังสือที่หลากหลายจึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้อ่านเอง จริงไม๊ครับ

หมายเหตุ: หากมีคุณหมอที่หน้าตาขี้เหร่มาก ไปเปิดคลินิกส่วนตัว คุณคิดว่าจะกล้าไปหาคุณหมอคนนั้นไม๊ครับ
หมายเลขบันทึก: 74377เขียนเมื่อ 25 มกราคม 2007 16:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 13:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (41)
  • คุณหมอท่านที่กล่าวมาทำงานอยู่ที่ขอนแก่นใช่ไหมครับ วางยาเก่งด้วยครับ
  • เขาจึงมาเกิดในครอบครัวที่จน และเป็นคนที่ขี้เหร่มาก (ถึงมากที่สุด)
    แต่เมื่อโตขึ้น เขาจึงเป็นหมอที่เก่ง (หมอผ่าตัดหัวใจ) มีชื่อเสียง อุทิศตนเพื่องาน  และยังอยากจะมีแฟนสวย
  • ยิ้ม ยิ้ม

  • อ. ขจิต ครับ
  • เนื่องจากในเรื่องระบุว่าเป็นหมอผ่าตัดหัวใจ ซึ่งมีทั้งหมด 3 คน พอมีคนเล่าให้คุณหมอทั้งสามฟัง แต่งก็คิดว่าเป็นตนเอง ถึงตอนนี้ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ครับ
  • ประโยคหลังสุดนั้น ผมคิดว่า อ. ขจิต ก็อยากมีเหมือนกัน จริงไม๊ครับ
  • อยากมีครับ
  • อยากจะมีแฟนไม่สวยก็ได้ขอให้นิสัยดี
  • ผมตั้งความหวังสูงไปไหมครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์หมอสมบูรณ์

  • ชอบอ่านนิยายเหมือนกันค่ะ
  • ฟังเรื่องย่อแล้วน่าสนุกนะค่ะ
  • การอ่านนิยาย ก็ทำให้เกิดการเรียนรู้ได้ค่ะ...โดยเฉพาะนิยายที่เป็นเรื่องในสังคมที่แตกต่างจากเรา...วันดีคืนดีเมื่อเราเข้าไปในสังคมนั้นจะทำให้เราเข้าใจ และปฏิบัติตามมารยาทสังคมได้
  • นอกจากนี้ยังมีข้อคิด หรือทำให้เราได้ฝึกหาข้อคิด หาแก่น หาว่าเราได้อะไรจากการอ่านนิยายนั้น

 

พลาดบันทึกนี้ไปได้อย่างไรกันเนี๊ยะ..

ตามรอย อ.แป๋วมาค่ะ...ถึงได้มาเจอ

"ทำดี - ดี"..."ทำชั่ว - ชั่ว"...หมายถึง ทำดี ก็คือ ดี ไม่ต้องแปลความหมายเป็นอย่างอื่น...ทำชั่ว ก็คือ ชั่วเลย...ไม่ต้องรออะไรเลย...ไปอ่านเจอในหนังสือท่านพุทธทาสค่ะ ....ไม่ต้องรออะไรทั้งสิ้น...ทำแล้วได้ทันทีทันใดเลยค่ะ

(^_____^)
.

แหม พึ่งรู้ว่าคุณหมอก็อ่านหนังสือแนวนี้ได้ด้วย ว่างๆนาบบอนจะเอาไปวางไว้ที่โต๊ะสักเล่มบ้างนะครับ
  • มีเพื่อนแนะนำให้อ่านเหมือนกันเรื่องนี้ บอกว่าสนุกมาก
  • จึงรอวันงานสัปดาห์หนังสือ จะได้ซื้อราคาลดเปอร์เซ็นต์ซะหน่อย
  • เพื่อนบอกว่า พระเอกก็มีช่วงหล่อค่ะ.. ไม่ใช่หล่อตอนจบ แต่เป็น "หล่อตอนปิดไฟ" น่ะค่ะ  เลยอยากอ่านให้เห็นกับตา ว่าหล่อยังไง อิอิ

อ. ขจิต ครับ

  • ลดสเปกตามอายุที่เพิ่มขึ้นหรือเปล่าครับ
  • แต่เท่าที่ดูแล้ว สเปกประมาณนี้มีให้เลือกเยอะมากครับ

อ. paew ครับ

  • สนุกครับ อ. ลองไปอ่านดูครับ
  • ผมว่าคนเขียนเขาก็พยายามที่จะให้ความรู้ ให้แนวคิดแก่ผู้อ่านบ้าง เพื่อให้หนังสือเขามีคุณค่า อีกทั้งทำให้ผู้เขียนเป็นที่รู้จักไปด้วยครับ

Ka-poom ครับ

  • ทำดี คือ ดี ไม่ต้องไปแปลเป็นอย่างอื่น เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว ครับ
  • ขอบคุณที่แวะมาช่วยแก้ไขความหมายที่ผิดเพี้ยนไป
  • ผมตั้งใจจะเขียนบันทึกไม่มากนัก จะพยายามทำให้ได้ 9 บันทึกต่อเดือนสำหรับบล็อกนี้ หากว่างๆ จะแวะมาอ่านก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ

นายบอน ครับ

  • ไม่ได้คุยกันนานพอสมควร ดีใจที่แวะมา
  • ยินดีจะอ่านทุกแนวครับ อยู่ที่ว่าแต่จะนำหนังสือมาวางที่โต๊ะได้อย่างไร
  • เมื่อวานผมเพิ่งได้มาอีกเล่ม เป็นตำรา (ฝรั่ง) ท่านนายกสมาคม (Pain) ส่งมาทาง EMS (เพราะจะต้องไปบรรยายร่วมกับท่าน) ที่บอกก็คือไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้ครับ ....ดูจะง่ายเกินไป..

คุณ k-jira ครับ

  • ยินดีที่รู้จักและขอบคุณที่แวะมาแลกเปลี่ยน ครับ
  • ลองอ่านดูนะครับ สนุกดี
  • มีอยู่คำหนึ่งในหนังสือ ที่ผมคิดว่ามีความเห็นได้สองอย่าง คือ ผู้เขียน เขียนผิด หรือเขาตั้งใจจะบอกว่า นักข่าว นั้นมักจะสื่อความหมายที่ผิดๆ ได้
  • คำนั้นก็คือ นักศึกษาแพทย์  เป็นตอนที่นางเอกของเรื่องสัมภาษณ์คุณหมอพระเอก ที่เพิ่งกลับจากนอก ซึ่งตอนนั้นหมอไม่ใช่นักศึกษาแพทย์แล้ว นักศึกษาแพทย์จะใช้เฉพาะ 6ปี แรก เท่านั้น
  • อ่านแล้วจะมีความเห็นเหมือนผมไม๊ครับ

ชอบอ่านนิยายเหมือนกันค่ะ

ส่วนเรื่องทำดีนั้น ช่วงนี้เค้าฮิต ทำดีได้ไม่ต้องเดี๋ยวค่ะ เพราะคนเรานั้น ถ้าคิดจะทำความดี ทำได้ตลอดเวลา อิอิ

สงสัยต้องไปหาอ่านบ้างแล้วล่ะค่ะ น่าสนุกนะคะ

  • แล้วคุณ PAN กล้าไปตรวจกับคุณหมอตามที่กล่าวถึงไม๊ครับ
หน้าตาคงไม่เหมือนเอ็ดดี้ใช่มั้ยคะ คิดว่ากล้านะคะ
  • คงจะประมาณนั้นแหละครับ
  • มีคนถามผมว่า คิดว่าตัวเองมีคะแนนความหล่อเท่าไหร่
  • ผมตอบไปว่าประมาณ 210 คะแนน (มากกว่าพระเอกในเรื่องเล็กน้อย คือ 10 คะแนน)
  • ขออภัยที่มาอ่านช้าไปหน่อยค่ะ....รอยต่อภารกิจบางอย่างทำให้ไม่สะดวกในการเข้ามาคุย
  • โดยส่วนตัวสำหรับดิฉัน...ถ้าหล่อได้เปรียบค่ะ...บุคลิคดีตามมา...มีเสน่ห์ยิ่งดีใหญ่...สุภาพสุดยอด...บางครั้งไม่ได้อย่างว่าก็เอาประเภทเร้าใจน่าค้นหาก็ได้ค่ะ

คุณกฤษณาครับ

  • คุณสมบัติว่านั่นนะ เหมือนกับ หมอผู้หญิงชื่อน้ำมนต์ ในเรื่องเปี๊ยบเลย ลองไปอ่านดูก่อนว่าสุดท้ายชีวิตเธอลงเอยแบบไหน
  • หรือจะถามนอกรอบก็ได้ครับ
คุณกฤษณาครับ
  • สเป็คนั้น ก็คือ คุณหมูไง.......น่าอิจ...จริง
อาจารย์หมอสมบูรณ์ครับ
  • ไอ้ 210 คะแนนนี่ มันคะแนนเต็มเท่าไหร่ครับ ผมจะได้รู้ว่าผ่านหรือตก
  • ผมชอบอ่านหนังสือทุกประเภทครับ
  • นิยายเรื่องแรกที่อ่านคือเรื่อง นิจ ของหลวงวิจิตรวาทการเป็นผู้เขียน ต่อมาก็อ่านเรื่องห้วงรักเหวลึก ของผู้เขียนคนเดียวกัน แล้วมาเสียน้ำตาให้กับเรื่องคู่กรรมของทมยันตีครับตอนนั้นน่าจะอยู่สักชั้น ม.ศ.2 หรือ 3 นี่แหละ
  • คนทั่วไปพอดูได้จะได้จะได้คะแนน 400 ขึ้นไป ถ้า 500 จะเป็นระดับพระเอก ครับ
อ.หมอสมบูรณ์คะ...มีคนคิดแปลกๆอย่างดิฉันด้วยหรือคะ...น่าทึ่งค่ะ
คุณไมโตคะ...ผิดไปแล้วค่ะ...ขี้เหล่อย่างดิฉันไม่มีโอกาสเล่นตัวนานค่ะ...ขืนรอสเป็คอย่างว่า...มีหวังเหงือกแห้งกันพอดี...ได้ยังไงก็เอาแล้วหละค่ะ..คุยกันง่ายๆรู้เรื่องไม่เรื่องมากก็พอค่ะ
  • คุณกฤษณาอยากรู้ละซิ ว่าคนสเปก เดียวกัน เป็นอย่างไร วันจันทร์ จะบอก หรือว่าจะไปหามาอ่านเองจะได้ทราบซึ้งกว่า
ฉันรอไม่ไหว....อาจารย์เล่าเลยก็ได้ค่ะ...มันเลวร้ายน่าอายมากไหมคะ...หรือมันยำแย่จนไม่กล้าบอก...กลัวฉันอาย....
  • ไม่เล่าครับ
  • กลัวเพื่อนอาย
  • ว่าไปแล้วยังคล้ายกับชีวิตของใครบางคนใกล้ๆ ตัว อีกด้วย คล้ายมากเลย
OKค่ะ...ไม่เล่าก็ไม่เล่า..เดี๋ยวจะเศร้าใจ...ถ้างั้นก็ไม่อยากรู้นะ...กลัวรับไม่ได้
เล่าเถอะครับ อาจารย์หมอสมบูรณ์ ดูตาผมซิ แบบว่าอยากรู้มั่กๆ

นี่คุณไมโต..

  • ฉันว่าพอคุณรู้จาก อ.หมอสมบูรณ์..คุณก็เตรียมหัวเราะก๊ากๆๆๆ..ใช่ไหมล่ะ...ระวังขากรรไกรค้างนะคะ...
  • เดี๋ยวฉันไปเตรียมดมยาสลบเอาขากรรไกรคุณลงก่อน
  • เป็นเรื่องในนิยาย เล่าไปก็ไม่เสียหายอะไร
  • มี นศ. แพทย์หญิง สาวสวยในรุ่น ชื่อน้ำมนต์ สเปก เธอ ก็ต้อง หล่อ รวย จึงคบหากับ นศ. รุ่นพี่ตามสเปก
  • แต่เธอใช้ความสวยของเธอ หลอกใช้ความฉลาดจากพระเอกขี้เหร่ ได้ตลอด เพราะเธอรู้ว่าพระเอกแอบปลื้มหรือรักเธอ
  • สุดท้ายเธอถูกรุ่นพี่หลอก เขาจบไปก่อนและถูกหญิงอื่นคว้าไปครอง
  • เธอจึงต้องตกเป็น น้อย อย่างลับๆ โดยที่ไม่มีความสุขในชีวิต ทำงาน ร.พ. เอกชน มีเงินใช้ แต่ก็ต้องเงียบเหงาเปล่าเหลี่ยว เพราะสเปกของเธอเป็นเหตุ
  • ก็มีเท่านี้แหละครับ

หนิงไปตรวจค่ะ  ชอบเลย!! คุณหมอที่หน้าตาขี้เหร่ๆเนี่ย...  เพราะจากประสบการณ์ส่วนตัว  จะเป็นคนใจดีมากๆค่า...และ...( แอบเผื่อฟลุ๊ค จะได้เป็นแฟนคุณหมอ  อิอิ ซตพ ว่า เราสวย เพราะคุณหมอต้องการแฟนสวย  เย้เย้ ) ขำ ขำค่ะ

แต่จริงๆหนิงชอบไปหาคุณหมอที่ใจดี  มีเวลาให้เราค่ะ ไม่เลือกที่หน้าตาหรอกค่ะ

ดิฉันว่า แพทย์หญิงน้ำมนต์พลาดไปนิดเดียว...นิดเดียวจริงๆค่ะ...เธอกลับตัวไม่ทัน...ถ้าเธอปรับทันรับรอง...ไม่ได้เป็นน้อยหรอกค่ะ...น่าจะมาปรึกษาดิฉัน...ไม่น่าคิดคนเดียวทำคนเดียวเลยค่ะ...ชีวิตก็จะทุกข์ไปตลอด...น่าสงสาร....

คุณกฤษณา ครับ

  • ใช่แล้วเธอไม่ปรึกษาใคร และเรื่องไม่ได้จบแค่นั้นนะ ที่สำคัญอยู่ตรงนี้
  • เมื่อเวลาผ่านไป เธอก็เป็น สาวใหญ่ เธอกลัวจะได้ไปอยู่หมู่บ้านคานทองนิเวศน์ โครงการ 5 เธอก็เลยหันมาหาหมอขี้เหร่อีกครั้ง แบบว่า ขี้เหร่ก็เอา น่าขำไม๊....

คุณหนิงครับ

  • ขอบคุณไม่มีรังเกียจหมอขี้เหร่ แต่การจะพิสูจน์ว่าตัวเองสวยหรือไม่ด้วยวิธีดังกล่าว คงจะใช้ในชีวิตจริงไม่ได้นะครับ
  • ไปหาคุณหมอที่มีเวลาให้เรา ดีแล้ว และส่วนใหญ่ก็ใจดีด้วย ครับ
  • เข้ามาอ่านแบบยิ้มๆ ค่ะ ทุกท่านน่ารักดีค่ะ

ค่ะคุณหมอ  อย่างหนิงนี่ไม่ต้องพิสูจน์แล้วค่ะ  อิอิ

  • คุณหนิง คุณ lily ครับ
  • ว่างๆ ลองหามาอ่านดูซิครับ สนุก รับรองได้
โอ้...ขี้เหร่ก็เอา ...ไม่มีทางเลือก....ถ้าเป็นสุขจริงก็ดีทั้งนั้นค่ะ

อยากรู้ตอนจบจังครับ อาจารย์

นิสัยผมเสียอย่างเวลาอ่านนวนิยาย คือต้องขอแอบเปิดอ่านตอนจบก่อน

ถ้าจบถูกใจ จึงอ่าน

ถ้าจบเศร้าแบบ tragedy ไม่อ่านครับ

 

  • สงสัยต้องไปหามาอ่านแล้วล่ะครับ
  • โดยสรุป....คุณหมอน้ำมนตร์เธอพลาดไป 2 ประการด้วยกัน อย่างแรกคือเธอยึดติดกับรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งทำให้เธอตกบ่วงแห่งความทุกข์ แม้เธอจะรู้ตัวในภายหลัง แต่ก็สายไปเสียแล้วประการหลังที่เธอพลาดคือเธอไม่พยายามปรึกษาคุณกฤษณา ไม่อย่างนั้นคุณกฤษณาคงไม่ได้มีแฟนชื่อหมูมั้ง.....ใช่ไหมอาจารย์.....อิ อิ
  • คุณไม่โต คุณกฤษณา และคุณหมอเต็มศักดิ์ ครับ
  • ตอนจบก็คือ ทำดี (ได้) ดี 
  • หลังจากหมอขี้เหร่ ทำดีมาโดยตลอด คณะกรรมการสวรรค์ พิจารณาให้ความดี คือถ้าอยู่ในที่มืด จะหล่อมาก เท่าๆ พระสังข์ เมื่อนางเอก สาวสวย นักข่าว เห็นจึงจบลงแบบ happy ending
  • เข้าข่าย  หล่อได้ (สวยได้) ในความมืด  ครับ

 

  • ส่วนเรื่องการให้คำปรึกษาของคุณกฤษณา นั้น เท่าที่ผมรู้ เธอไม่มีประสบการณ์เรื่องนี้ ครับ

ขอโทษค่ะ ดิฉันมาช้าและก็ไม่ได้เข้ามาตามเก็บเศษที่เพื่อนๆเหลือไว้ให้...วันนี้เพิ่งสบโอกาสค่ะ..ขออนุญาต อ.หมอสมบูรณ์ค่ะ

  • Hello!  คุณไมโต...เพื่อนหมูอ้วนของแมงมุมแชร์ล้อท...ทำไมคุณรู้ล่ะว่าแม่นางเอกน่ะพลาดประการที่ 2 .....จริงๆด้วยแหละ......
  • อ.หมอสมบูรณ์คะ...ประสบการณ์น่ะ...ไม่จำเป็นต้องได้จากการปฏิบัติเสมอไปหรอกค่ะ.....อ่านเอาบ้างก็ได้....ทีคุณพยาบาลสาวๆสอนวิธีเลี้ยงลูกให้คุณแม่ได้เฉยเลย...น่าทึ่งออก....เน๊อะ...คุณไมโต...กิ๊ก..กิ๊ก...
  • ใช่ ใช่
  • ที่ห้องคลอดก็เหมือนกัน เชียร์เบ่งกันเก่งทุกคน ทั้งที่ยังไม่เคยคลอดเองก็มี
  • เพื่อนหมูอ้วนของแมงมุมแชร์ล้อท เพิ่งนึกได้ว่าเรื่องนี้ผมอ่านนานมากแล้ว ขอบคุณที่ช่วยเตือนความจำ
เด็กหญิงขวัญมณี มณีโชติ (ใบเตย)
สวัสดีคะ คุณหมอ หนูคงจะอายุน้อยสุดที่มาเสนอความคิดเห็น (อายุ13ปี) หนูอ่านนิยายของอาจารย์ ว. เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกสนุกมากคะ ตอนแรกก็ไม่อยากอ่านหรอกคะแต่คุณแม่บอกว่าอ่านแล้ววางไม่ลง หนูก็เลยลองอ่านดู พออ่านหน้าแรกยันบรรทัดสุดท้ายโหหนุกจิงๆ หนูอยากเป็นหมอคะแต่ไม่เก่งวิทย์กะคณิตแต่ก็พอไปได้ไม่เหมือนคุณสาแคนเก่งไปเสียหมด แต่ถึงยังไงก็จะพยายามให้ถึงที่สุดคะ

สวัสดีค่ะคุณหมอหนูก็เป็นคนขอนแก่นเหมือนกันชอบอ่านหนังสือทุกชนิดเลยก็อ่านแล้วรู้สึกขำๆพระเอกในเรื่องเหมือนและยิ่งตอนพระเอกเข้าไปเรียนครั้งแรกพวกภารโรงนึกว่าเขาเป็นภารโรงใหม่แล้วยิ่งขำ แต่พออ่านเนื้อเรื่องจบรู้สึกอยากทำความดีมากขึ้นอีกและอยากเก่งและเป็นหมอเหมือนกับเขาเพื่อที่จะได้อุทิศตนให้กับชุมชนของตัวเอง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท