เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันได้เตรียมจัดท่าผู้ป่วยเป็นพระภิกษุ อายุ 70 กว่า..หลวงตากระดูกขาหัก.....
วันนั้นเราจัดท่าให้นอนตะแคงขวา....เพื่อฉีดยาชาเข้าไขสันหลังให้ขาชาก่อนผ่าตัด.....หลวงตาปวดขาที่หัก....เราเลยให้ยาแก้ปวดเป็น fentanyl ไป 25 ไมโครกรัม...อาการปวดทุเลาลงบ้าง....เราให้ออกซิเจนดมด้วยเพื่อป้องกันภาวะออกซิเจนต่ำหากหลวงตาเผลอหลับไป... การจัดท่าที่ดีจะทำให้ง่ายในการสอดเข็มเข้าระหว่างช่องว่างกระดูกเพื่อเข้าไปให้ยาชาในไขสันหลัง
คุณหมอดมยาฝึกหัดทำไม่ได้......จึงเชิญอาจารย์เข้ามาช่วย....
ขณะอาจารย์กำลังยืนใส่ถุงมือ...อยู่ดีๆก็หันขวับไปข้างหลัง
“ใครเรียกพี่”......ทุกคนเงียบ...อาจารย์พูดกับใคร?เสียงดังเชียว...ไม่เห็นมีใครไปทำอะไร...แล้วใครจะไปกล้าตบไหล่อาจารย์ถ้าไม่ใช่เพื่อน...ไม่มี้......
“น้องเรียกพี่หรือเปล่า” อาจารย์หันไปก็พบอาจารย์แพทย์ผ่าตัด อาจารย์แพทย์ผ่าตัดส่ายหน้า
“อ้าว...อาจารย์....หนูนึกว่าน้องเรียกหนู...อาจารย์มาแตะไหล่หนูหรือเปล่าคะ”
“เปล่าครับ” อาจารย์แพทย์ผ่าตัดตอบ เธอยืนห่างตั้งเกือบเมตร มือเอื้อมไม่ถึงไหล่หรอก...และก็ไม่ได้ไปตบไหล่ด้วย....
“เมื่อกี๊หนูรู้สึกว่ามีคนเดินอยู่ข้างหลัง...แล้วเอามือตบไหล่เหมือนจะคุยด้วย...แล้วใครล่ะ”
ดูอาจารย์วิตกกังวลอย่างยิ่ง....ทุกคนไม่รู้จะช่วยยังไง...ได้แต่รับฟังคำพูดที่พูดออกมาเป็นระยะๆ....เธอกลัวๆ.... หลวงตาถูกจัดให้นอนตะแคงซ้ายอีกครั้ง....เพราะตะแคงขวาได้ท่าที่ไม่เหมาะสม....แทงหลังไม่ได้
..เปิดset blogใหม่....น้องทำเข็มทั้งซองหล่นลงใน set ปนเปื้อนทำให้เราต้องเปิดอีกเป็น set ที่ 3 ....... กว่าจะทำได้... หืดขึ้นคอ.....ใช้เวลานานมากๆๆ.....
แต่ที่หนักกว่านั้น....เราคุยเรื่อง “แล้วใครมาเขี่ยหลังหนู” ทั้งวัน....ก่อนเดินละออกไปแล้วเริ่มการผ่าตัด ฉันยกมือไหว้แล้วบอกหลวงตาว่า..เราขอทำผ่าตัดค่ะ...ซึ่งน่าจะทำเสียตั้งแต่ก่อนเริ่ม...ไม่มีใครได้คิด......
สุดท้ายทุกอย่างก็เรียบร้อย....แต่เราคุยกันเรื่องผีทั้งวัน.....
และสรุปว่า “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่”.....ค่ะ
โห....
กะจะเข้ามาทักทายตั้งแต่เช้า...แต่มัวเขียนบันทึกอยู่คะ...มาอ่านแล้ว...ดีแล้วค่ะที่ไม่ได้เข้ามาอ่านแต่เช้ามืด...(^____^)
ทำบุญ...แผ่กุศล...นะคะ
คิดถึงพี่ติ๋วนะคะ...และสวัสดีอีกครั้งค่ะ อ.หมอสมบูรณ์...Y__*
อ.ติ๋ว
ท่านอ.สมบูรณ์คะ
สวัสดีค่ะน้องกะปุ๋ม...
สวัสดีค่ะ คุณน้อง
พูดจริงหรือคะ อ.Paew...ขนลุกซู่เลย....