ข้อสอบ MCQ และการวิเคราะห์ ๕


ย้อนไปที่ ตอน      


หลักการสร้างโจทย์ (stem)และคำถาม (lead-in)ใน MCQ  (ต่อ)

  • แต่ละข้อต้องถามเพียงประเด็นเดียว

ตัวอย่าง
จงบอก type ของ Dengue ที่พบบ่อยที่สุดในประเทศไทยและชื่อพาหะของโรค

ควรเปลี่ยนเป็น
จงบอก type ของ Dengue ที่พบบ่อยที่สุดในประเทศไทย
หรือ
จงบอกชื่อพาหะของโรค Dengue

          สาเหตุที่ต้องถามประเด็นเดียวก็เพราะ ถ้าถาม 2 คำถาม คำตอบก็ต้องมี 2 คำตอบในข้อเดียว ถ้าเด็กตอบผิด เราจะไม่สามารถวัดผลได้  เพราะเด็กอาจรู้ประเด็นหนึ่ง แต่ไม่รู้ประเด็นอีกประเด็นหนึ่งก็ได้


  • ควรเขียนในรูป Positive form มากกว่า Negative form

          โจทย์ที่มีลักษณะ Negative มักได้แก่โจทย์ที่เขียนว่า ข้อต่อไปนี้ข้อไหนผิด  หรือ ข้อต่อไปนี้ถูกทุกข้อ ยกเว้น..... 

ต้วอย่าง
In low back pain of old age the least likely cause is :
(สาเหตุที่พบน้อยที่สุดของอาการปวดหลังในผู้ป่วยสูงอายุคืออะไร ?)

          ถ้าถามอย่างนี้ จะกลายเป็นการถามเรื่องไม่สำคัญ ซึ่งตามหลัก อาจารย์ควรจะถามสิ่งสำคัญที่นิสิตต้องรู้  สาเหตุที่พบน้อยที่สุดไม่ใช่เรื่องที่สำคัญ  ดังนั้น

ควรเปลี่ยนเป็น
 What is the most often cause of low back pain in old age ?


  • ถ้าจำเป็นต้องใช้คำที่เป็นรูป negative ควรเน้นคำนั้นให้เด่นชัด และข้อที่เป็น negative ควรใช้แบบฟอร์มเดียวกันทั้งชุด (เลือกใช้ คำหนึ่งคำใดเพียงคำเดียว เช่น  except /  is not true / wrong / incorrect ) และอย่าให้มีจำนวนข้อที่เป็น negative มากเกินไป

ตัวอย่าง เช่น
          Which of the following findings is not indicate urinary tract infection?

          All of the following findings indicate urinary tract infection EXCEPT

       ใช้อักษรตัวหนา หรือขีดเส้นใต้ หรือใช้ภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ เพื่อเน้นคำที่เป็น negative ให้เด่นชัด  และเลือกคำใดคำหนึ่งทั้งชุดข้อสอบ


  • ไม่ควรใช้ Double negative  (ประโยคปฏิเสธซ้อนปฏิเสธ)

ตัวอย่าง เช่น
  All of the following findings do not indicate urinary tract infection EXCEPT

ควรเปลี่ยนเป็น
   Which of the following findings indicate urinary tract infection ?

 


  • หลีกเลี่ยงโจทย์ที่เป็น  Multiple true-false / Multidimension

ตัวอย่าง เช่น
 ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง ?
 A. โรคกระดูกพรุนพบมากในวัยทอง
 B. อาการปวดหลังเกิดจากการนอนผิดท่า
 C. กระดูกสันหลังคดมักพบในวัยรุ่น
 D. โรคสมองพิการจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการแขนขาลีบเล็ก
 E. การออกกำลังอย่างหักโหมจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง

          จะเห็นว่าโจทย์แบบนี้  ข้อ A B C D E เป็นคำตอบแบบต่างๆ ซึ่งไม่สัมพันธ์กันเลย  คิดอะไรได้ก็หยิบมาทำเป็นคำตอบ แล้วทำให้ถูกสักข้อ หรือทำให้ผิดสักข้อ  การตั้งโจทย์แบบนี้  ทำได้ง่าย แต่อาจารย์จะวัดผลไม่ได้ แม้ว่าเด็กจะตอบถูก อีก 4 ข้อที่เหลือเขาอาจไม่มีความรู้ก็ได้ 


ต่อ ข้อสอบ MCQ และการวิเคราะห์ ๖

หมายเลขบันทึก: 74250เขียนเมื่อ 24 มกราคม 2007 23:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 10:43 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ตัวอย่างอาจารย์ชัดดีค่ะ เอาไว้ไปใช้ต่อได้เลย เชียงรายเรื่องออกข้อสอบยังต้องการความรู้อีกมากค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สมประสงค์ ป้องปาน

ขอบคุณครับ ผมจะติดตามต่อไปคับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท