เน้นแรงใจภายใน เพื่อการหายของตนเอง


ส่วนใหญ่ใน "ชีวิต" เรากำหนดและเลือกได้ แก่ตนเอง

Text : Ka-Poom

 ..........................................................................

---------->ประมาณวันอังคารที่ผ่านมาดิฉันได้รับ case แทนน้องหนุ่ย...
เป็น case ซึมเศร้าอีกแล้วค่ะ...ช่วงนี้ดิฉันจะเจอเยอะมาก...ในผู้ป่วยที่มีอารมณ์ซึมเศร้า..หดหู่ใจ

case นี้เป็นชายหนุ่ม...อายุประมาณ 36 ปี
มีอารมณ์ซึมเศร้า...และมีความคิดทำร้ายตนเอง จนถึงการฆ่าตัวตาย
ดิฉันได้รับมูล case จากน้องหนุ่ยคร่าวๆ...

จากนั้น...ก็ทำความรู้จักกับ case เพื่อให้ได้รายละเอียดในระดับเชิงลึก...
จึงได้รู้ว่า..----------->case เริ่มมีอาการเมื่อไม่นาน...เขาสังเกตตนเองว่า เริ่มเปลี่ยนไปได้ประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา
จากเมื่อก่อนเป็นคนอารมณ์ดี...สดใส ร่าเริง คุยเก่ง
แต่พอประมาณสามเดือนก่อน...เขากลับมีอารมณ์หดหู่ไม่อยากพูดคุยกับใคร...เบื่อ นอนไม่หลับ
และมักคิดว่าคนอื่น..นั้นเกลียดตนเอง ไม่ชอบตนเอง...ใครมองหน้า หรือพูดคุยซุบซิบอะไรก็คิดว่าเขาว่าให้ตนเอง

สำหรับ case นี้ยังดีว่า...การรับรู้ยังปกติ ยังไม่เสียฟังก์ชั่น...
ยังมีความสนใจตนเอง...และพิจารณาตนเองได้...ตลอดจนยังสามารถทำงานได้ตามปกติ

ก่อนส่งพบแพทย์เพื่อรับยานั้น...
ดิฉันจึงคุยเชิงบำบัดกับ case ให้เขาพิจารณาตนเอง...ให้ถ่องแท้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
มองตนเอง..เมื่อก่อนเป็นอย่างไร...และเดี๋ยวนี้เป็นอย่างไร
case ค่อนข้างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และไม่ต้าน...

สิ่งหนึ่งที่ดิฉันจะถาม case ก่อนเสมอ..อย่างเน้นย้ำเลยค่ะ...ว่า ---------->"อยากหายไหม...อยากรู้สึกดีขึ้นไหม..."
case นี้มีแววตามุ่งมั่นมากว่าอยากหายจากที่เป็นอยู่...เป็นการหายที่ไม่ใช่การตาย
หายจากความรู้สึกที่มันวุ่นๆ อยู่ในใจ ที่รบกวนเขาอยู่ตลอดเวลา

ดิฉันมองว่า...แม้จะยาก..แต่ก็ทำให้รู้สึกมีกำลังใจขึ้นสำหรับผู้บำบัดที่ case ก็มีกำลังใจร่วมด้วย...
ดิฉันให้เขาพิจาณาความคิด...ต่างๆของตนเองว่าที่มีเกิดขึ้นนั้น...เราสร้างขึ้นมาเองทั้งนั้น
และเราเท่านั้น...ที่เลือก..ให้มันเป็นไป...และเกิดอยู่...
case ค่อนข้างมีฐานความคิดเชื่อตามแนวพุทธศาสนาอยู่แล้ว...จึงค่อนข้างคุยได้ในแง่การพิจารณา...
เหตุ...แห่งที่มาของการเกิดความรู้สึกภายใน...นั้น...


ดิฉันให้ case ทำร่วมกับการพิจารณาความคิดทางปัญญา คือ การออกกำลังกาย...
เพราะอย่างน้อย...การออกกำลังกาย ก็จะเป็นอีกเครื่องมือหนึ่ง..ที่จะสามารถช่วยให้ case ผ่อนคลาย และเมื่อผ่อนคลายแล้ว...ก็จะสามารถดึงกระบวนการทางปัญญามาใช้ได้ง่ายขึ้น

 

หมายเลขบันทึก: 74164เขียนเมื่อ 24 มกราคม 2007 14:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2013 12:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

การพิจารณาตนเอง วิเคาะห์ รับรู้ในสิ่งที่ตนเองเป็น รู้ว่าทำอะไร ต้องการอะไร มีเป้าหมายอย่างไร ช่วยให้เรามีสติ  และเหมือนกะปุ๋มว่า ใช้ฐานความเชื่อทางพระพุทธศาสนา ประกอบกับการออกกำลังกาย จะช่วยให้เราเรียนรู้ที่จะอยู่ในโลกนี้อย่างเป็นสุข

ช่วงที่ผ่านมานอนไม่หลับ คิดเรื่องงาน สลัดไม่ออก พยายามต่อสู้อยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ก็รู้ว่าสาเหตุแห่งการทุกข์เกิดจากอะไร  แต่เราระงับมันไม่ได้  เมื่อระงับไม่ได้ก็ปล่อยไป แต่ให้รู้ว่าจิตขณะนั้นเป็นอย่างไร  ค่อย ๆ แก้  ค่อย ๆ ปรับ นอนไม่หลับ ก็ไม่ต้องนอน จำคำที่กะปุ๋มสอนไว้

ต้องปรับความคิด กระบวนการคิดและการพิจารณาความจริงความจริงคือ อะไรอย่างหลอกตัวเองทุกข์ก็รับรู้ว่าทุกข์มองทุกข์ให้เห็น คือ ทุกข์เรื่องอะไรเมื่อมองเห็นแล้ว...ก็ "อ้อ"...นี่หรือคือทุกข์ของเรา...ทุกข์มากมั๊ย..มากกี่คะแนน...ลดลงหรือยัง..พิจารณา...อยู่ตลอดให้รู้ตัวพิจารณาตลอดให้รู้ตัวไม่ต้องพยายามทำให้ทุกข์หายนะคะแต่มองให้เห็นว่าที่เราไม่สบายใจนี่ คือ อะไร...และสาเหตุ คือ อะไรเพราะอะไร...เราถึงไม่สบายใจมองแบบ..ถอด..ตัวและย้อนมองให้เห็น..

 

ขอบคุณพี่อึ่งอ๊อบมากค่ะ...

ที่ร่วมเข้ามาแบ่งปัน...ประสบการณ์การเรียนรู้ภายในเสมอ...

วันนี้...กะปุ๋มอยู่กับ case จนถึงเย็นมากๆ ...เป็น case เด็กถูก abuse ทางอารมณ์...ก็เลยอยากให้เวลาเขาและพาเขาทำ art therapy ... เสร็จแล้วก็รีบไปวิ่งเพื่อ delete อะไรเน่าๆ ที่ค้างๆ ทั้งในร่างกายและจิตใจออกไปค่ะ...เสมือนการทำ Detox น่ะค่ะ...เสร็จแล้วก็นั่งคุยกับแม่...อ่านหนังสือ...และเข้ามา blog นี่แหละค่ะ...

(^_____^)

กะปุ๋ม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท