เช้าวันนี้อากาศสดใสและบรรยากาศดี ก่อนเดินออกจากห้องทำงานไปร่วมกิจกรรมเคารพธงชาติหน้าเสาธงร่วมกับครู-นักเรียนเช่นทุกวัน ครูจิ๊บ นางสาวสุพัตรา วงษ์พรม ได้มาแจ้งว่า อรุณรัตน์ จุตะโน ศิษย์เก่าที่ไปเรียนปักกิ่งกลับมาเยี่ยมบ้านจะแวะมาหา จึงแนะนำให้มาตอนเช้าเพื่อพบน้อง ๆ ที่หน้าเสาธง ได้มีเวลาพูดคุยอีกครั้งกับศิษย์คนนี้ในระยะสั้น ๆ เพียง ๕ นาที สามารถสัมผัสได้ว่ายังเป็นศิษย์ที่มีความขยัน ตั้งใจ มุ่งมั่น และรักครอบครัว รักสถาบันและครูอาจารย์ ผลการสอบ(แม้จะใช้ภาษาจีนเป็นหลัก)
ทุกวิชาได้เกิน ๘๐ เปอร์เซ็นต์ อรุณรัตน์ได้คุยกับน้อง ๆ นักเรียนที่หน้าเสาธงและมอบของที่ระลึกให้แก่โรงเรียน ด้วยจิตสำนึกที่เรียนที่โรงเรียนแห่งนี้จนมีโอกาสสอบรับทุนโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน ที่ทำให้ชีวิตพลิกผันมีโอกาสไปเรียนต่างประเทศได้ นักเรียนคนนี้เป็นความภาคภูมิใจของชาวเชียงกลมวิทยา มีความขยัน ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีมาก จึงสอบได้ทุนของอำเภอปากชม ทั้งนี้คณะครูและตัวผมเองก็ช่วยกันติวเพื่อให้ผลการสอบออกมาดีและแข่งขันกับคนอื่นได้ ขณะนี้ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ ๑(ในหลักสูตร ๖ ปี)ที่ Beijing Language and Culture University ตอนที่ไปเลือกมหาวิทยาลัย อรุณรัตน์ ได้โทรฯถามผมว่าควรเลือกเรียนที่ใด ผมกับภรรยา(ซึ่งเป็นครูที่ติวภาษาอังกฤษให้ก่อนไปสอบ)ได้หารือกันไว้ก่อนแล้วว่าหากมีโอกาสเลือกและมีประเทศให้เรียน ควรเลือกประเทศจีนอันดับ ๑ รองลงมาคือ ญี่ปุ่น เพราะเราเองก็เคยไปต่างประเทศมาหลายประเทศ วิเคราะห์แนวโน้มการพัฒนาในต่างประเทศน่าจะเลือกเรียนในประเทศที่ใช้ภาษาจีน เพราะประชากรมีมากและการพัฒนาจะมีมากขึ้นด้วย เมื่ออรุณรัตน์ไปอบรมภาษาที่ ม.แม่ฟ้าหลวง ใช้เวลาตามกำหนด ๒ เดือนก็สามารถสอบผ่านการใช้ภาษาจีน และได้เดินทางไปเรียนที่ปักกิ่งในภาคเรียนที่ ๑ ของปีการศึกษา ๒๕๔๙ ขณะนี้มหาวิทยาลัยปิดภาคเรียนจึงเก็บสะสมเงินเป็นค่าเครื่องบินเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้าน เยี่ยมโรงเรียน ในอดีตคนที่เรียนเก่งแต่ยากจนเช่นอรุณรัตน์ น้อยคนนักที่จะมีโอกาสเช่นนี้ ต้องขอบคุณรัฐบาลที่มีโครงการนี้ เพราะเด็กบ้านนอกในอำเภอเดียวกันแข่งขันกันเองจึงทำให้หลายคนมีโอกาสดี ๆ เด็กที่ยากจน เรียนดีไม่มีการหลงตัวเอง อรุณรัตน์ตั้งใจเรียนเพื่อกลับมาทดแทนบุญคุณแผ่นดินที่ให้โอกาส ซึ่งความได้เปรียบขณะนี้คือภาษาจีนที่ใช้เป็นประจำในระยะเวลา ๖ ปี เห็นว่ารุ่นพี่แนะนำว่าควรเรียนสาขาอื่นเพิ่มเติมมากกว่าจะเน้นภาษาอย่างเดียว เพราะอย่างไรภาษาเราก็ได้อยู่แล้ว นี่คือมุมมองของอรุณรัตน์ที่ได้พูดคุยกันในเวลาสั้น ๆ ๖ ปีข้างหน้าโรงเรียนคงได้ภาคภูมิใจกับเด็กบ้านนอกคนนี้ที่อาจจะกลับมาเป็นครูสอนภาษาจีนซึ่งขณะนี้หลายโรงเรียนเริ่มมีการเปิดสอน ผมคงมีโอกาสได้เขียนบันทึกถึงเด็กคนนี้มาเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป
เธอคือคนที่เราชาวเชียงกลมวิทยาภาคภูมิใจ
บรรจง ปัทมาลัย ๒๓ ม..๕๐ ๒๑.๔๙ น.