ผมเป็นคนไม่ชอบเขียนหนังสือมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว จะเขียนก็ต่อเมื่อจำเป็นจริงๆเช่นต้องเขียนรายงานส่งเพื่อเอาคะแนน หรือต้องเขียนเพราะเป็นเรื่องของวิชาชีพ เช่น บันทึกประวัติของคนไข้ การตรวจร่างกาย ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลการตรวจพิเศษ การให้การรักษา การผ่าตัด และผลของการรักษา ฯลฯ (ถ้าไม่เขียนคนไข้ต้องแย่แน่ๆ)
พอมาทำงานที่เทศบาลบางครั้งจำเป็นต้องเขียนบทความบ้างก็จะเรียกทีมงานมาเล่าแนวคิดแนวทางให้ฟัง ให้ไปเขียนมาให้ดูแล้วจะแก้ไขให้ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้แก้ไข ไม่ใช่เพราะดีจนไม่ต้องแก้ไข แต่ไม่ค่อยถูกใจเลย ถ้าต้องแก้ไขก็เขียนเองใหม่ทั้งหมด (แต่ก็ไม่กล้าเขียนเอง เพราะค่อนข้างมั่นใจว่าจะแย่กว่าที่ทีมงานเขียนให้) เล่าให้ฟังอย่างนี้ต่อไปทีมงานอาจงอนไม่ยอมเขียนให้แล้ว ต้องเขียนเองคงแย่แน่เลย
ใจจริงก็อยากเล่าประสบการณ์ของตัวเองหลายๆเรื่องให้คนอื่นฟังบ้าง เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ไม่ได้คิดว่าเก่งกว่าคนอื่นหรอก แต่บางเรื่องก็มีคนเขียนน้อย เช่น การลดน้ำหนักตัว ถ้ามีเขียนอยู่บ้างก็ขายยา ขายอาหารเสริม ขายอุปกรณ์ต่างๆมากกว่า และตัวเองก็ได้ปฎิบัติจริง น้ำหนักลดจาก 90กก. มาเหลือแค่ 72 กก.ใช้เวลา 2 ปีเศษๆ เรื่องขยะก็ไม่ค่อยมีคนเขียนอีกเหมือนกัน ลองๆ เขียนดูแต่ก็ไม่เสร็จสักที
แม้กระทั่ง Blog ที่ท่านอ่านอยู่ก็มีเพื่อนอดหลับอดนอนคอยแต่งหน้าตา ใส่เพลง ใส่รูปให้ เพื่อนอย่างนี้ก็มีด้วย ไม่ทราบจะขอบคุณอย่างไร เลยเขียนบทความเรื่องนี้ให้รู้กันว่า คนดีๆที่เสียสละเวลาช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่อยากแสดงตัวก็ยังมีอยู่ในสังคม นับเป็นเรื่องดีๆในโลกไซเบอร์ครับ
นี่ขนาดเกริ่นนำนะคะ ยังเขียนสนุกขนาดนี้ ไม่ต้องออกตัวอะไรอีกแล้วค่ะ ดิฉันสมัครรับเป็นขาประจำ Blog ของคุณหมอแต่บัดนี้
รออ่านด้วยใจจดจ่อนะคะ...... : )
ตามมาให้กำลังใจค่ะ สงสัยเหมือนราณีค่ะ ไม่ค่อยชอบเขียน แต่ชอบอ่านมาก ๆ ค่ะ เพราะได้กอบโกยความรู้ค่ะ เขียนได้ยาวจังเลยค่ะคุณหมอ อิ อิ
ขอบคุณค่ะ
ปล. สนใจเรื่องขยะอยู่เหมือนกันนะคะ อาจารย์