บางครั้งคนเราต้องมีบ้างที่ต้องมีทั้งความทุกข์ ความสุข ปะปนกันไป มันแล้วแต่ว่าเราจะจีดการกับมันอย่างไร หากเรารู้จักกับคำว่าสติ ใจเย็น แล้วหาทางแก้ไขอย่าชาญฉลาดมันก้จะไม่ใช่ปัญหาของเราอีกต่อไป ฉันเคบอ่านบทความบทความหนึ่ง เขาบอกไว้ว่า
คนเราหากไม่เคยเจอกับอุปสรรคก็จะไม่มีวันเข้าใจกับคำว่าชีวิตอย่างแท้จริงหากเราไม่รู้จักกับชีวิต แล้วเราจะรู้จักการดำรงชีวิตอย่างไร แล้วอีกไม่นานเธอก็จะกลายเป้นนที่ไม่มีตัวตนบนโลกที่ใครบอกว่ามันแสนจะวิไล
ฉันเห้นด้วยกับบทความนี้ว่าคนเราไม่มีใครท่เกิดมาแล้วไม่รู้จักกับคำว่าท้อแท้ ทุกข์ใจ แต่ไม่ว่าเราะท้อแท้ หรือทุกใจแค่ไหน เราก็จะหายได้ภายในเวลาไม่กี่นาที เพราะคำว่ากำลังใจจากใครสักคนที่เรารอคอย หากมีเขาคนนั้นมาคอยห่วงใย ปลอบโยน และคอยบอกเราว่าเขาจะอยู่เคียงข้าเราไปตลอด คำพูดเพียงแค่นี้ มันก้พอที่จะทำให้ฉันหายจากโรคท้อแท้ และนอกจากนี้มันยังเป้นเกราะกำบังความเหนื่อยล้าให้กับใจฉันอีกด้วย แม้บางรั้งฉันอาจเหนื่อยแทบจะล้ม แต่ฉันไม่เคยลืม คำพูดที่ยังคงลอยมาเข้าในหูของฉัน ให้ฉันได้มีแรงสู้ต่อไป ไม่ต้องใช้มือเพื่อคอยฉุดดึง ขอแค่สายใยแห่งความรัก และความหวังดี ความห่วงใย มาถักทอเป็นสายสัมพัน คอยดึงฉันให้ขึ้นมาจากสิ่งที่ฉันกำลังหนี ไม่ต้องมีคำว่ารักทุกนาที เพราะรู้ว่าสิ่งที่มีให้มันแสดงออกมาได้ดีกว่าคำว่ารักที่พูดทุกวัน
ฉนไม่รู้ว่าจะหาคำไหนมาบอกกับเขาคนนั้น เพื่อห้มันทดแทนการขอบคุณ ทดแทนในสิ่งที่เขาให้มา แต่คำว่ารัก และคิดถึง มันคงทดแทนทุกคำได้ดี
ไม่ต้องมีดอกไม้มาแทนใจ
แค่มีความห่วงใยอย่างวันนี้
ไม่ต้องบอกว่ารักทุกนาที
แต่ฉันก็เข้าใจดีทุกเวลา
คำขอบคุณมันอาจยังน้อยไป
ความจริงใจมันอาจไม่เทียบเท่า
ทุกสิ่งที่รู้จะมีเพียงเรา
อยากบอกกับเขาว่า "ซารางเฮโย"
ไม่มีความเห็น