วันอาทิตย์ บ่ายโมงเศษ มีโทรศัพท์เข้าไปในห้องพัก (แฟลต ใน มอ)
ผมรับสาย คนที่โทรมาเป็นผู้หญิง เขาจะคุยกับภรรยาผม (บอกชื่อแบบเจาะจง) ผมก็ไปปลุกให้มารับสาย
ปรกติผู้ที่โทรไปที่บ้าน จะรู้จักเราทั้งคู่ นาน ๆ จะมีกรณียกเว้น
ช่วงภรรยาผมรับสาย ผมเหลือบไปมองหน้าเป็นระยะ ด้วยเกรงว่า เป็นการแจ้งข่าวสำคัญ เพราะเห็นพูดไม่กี่คำก็เริ่มขมวดคิ้ว
...แจ้งข่าววันอาทิตย์ ไม่น่าจะเป็นข่าวดีอันใด...
ภรรยาผมคุยแบบทวนคำ มีคำว่า ธนาคาร มีคำว่า สถาบันการเงิน มีคำว่า การสัมภาษณ์ หลุดมาด้วย
ผมฉุกใจขึ้นมา โพล่งบอกว่า ผมรับสายเอง
ตอนนั้นนึกถึงกรณีแก๊งต้มตุ๋นข้อมูลบัตรเครดิต
เมื่อนานมาแล้ว เคยมีกรณีคนในคณะโดนขโมยบัตร แล้วมีการสวมรอยโทรมาล้วงข้อมูล งานนั้นเสร็จมันไป กลายเป็นบทเรียนเตือนใจคนอื่นถ้วนหน้า
ผมทำเสียงหล่อ พูดสายไปไม่กี่คำ คาดคั้นถามกลับไปว่าเป็นใคร มีธุระอะไร ก็มีการหลุดอึก ๆ อัก ๆ ว่าจะสัมภาษณ์เกี่ยวกับธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาละงู
ละงู ?
เคยผ่านนั้นเคยผ่านอยู่หรอก เมื่อราวสิบปีก่อน แต่ดูเหมือนว่าธุรกรรมเดียวที่เคยทำแถวนั้น คือลงไปถามทางไปโรงพยาบาล แต่ไม่ใช่ที่ธนาคาร
พอผมบอกว่า เอ๊ะ ไม่เคยไปละงู อีกฝ่ายรีบตัดบทปุบปับ แล้ววางหูทันที
ผมมานั่งนึกดู คิดว่าที่เขารีบวางสาย คงไม่เกี่ยวกับที่ผมทำเสียงหล่อ
แต่คงวางสายเพราะรู้ว่า"เหยื่อ"รู้แกว
ที่ยังแปลกใจคือ เบอร์โทรบ้าน สุ่มโทรมาไม่แปลก แต่รู้ชื่อคนในบ้าน แสดงว่า ข้อมูลส่วนตัวกลายเป็นข้อมูลสาธารณะไปแล้ว
อือม์ ... โทรมาวันอาทิตย์อีกต่างหาก เพื่อสัมภาษณ์โดยไม่รู้จักมักจี่ด้วยนี่นะ
เสียมารยาทเป็นบ้า
ผมเชื่อว่าเป็นแก๊งต้มตุ๋นครับ 100 %
ที่เชื่อ เพราะคนที่เสียมารยาทแบบนี้ ไม่น่าจะมาด้วยเจตนาดี
เพราะถ้าเป็นของจริง โทรมาวันอาทิตย์ตอนกำลังเอนหลังงีบบ่ายนี่ รับรอง ไม่มีตอบ 5 ในผลการประเมินความพึงใจเด็ดขาด แต่จะตอบศูนย์หมดทุกรายการ
เตือนไว้ให้คนใน มอ. ระวังตัวเรื่องแก๊งต้มตุ๋นทางโทรศัพท์ครับ
เคยโดนเหมือนกันค่ะ แต่เป็นธนาคารชื่อแปลกๆ (แต่ก็คุ้นหู คิดว่าคงมีตัวตนจริง เพียงแต่ตัว k-jira เองความรู้รอบตัวแคบ รู้จักชื่อธนาคารไม่กี่ธนาคาร)
ที่โทรมาก็เป็นเสียงผู้หญิง บอกประมาณว่า " ธนาคารของเขามีโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับคุณ..โดยสามารถกู้เงินได้ในวงเงินแสนหรือสองแสนแล้วจำไม่ได้ โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ ดอกเบี้ยต่ำมาก (จำไม่ได้ว่าไหร่) ดังนั้นให้รีบมาติดต่อกับธนาคารภายในวันที่ ... นะคะ "
ตอนนั้นก็งงค่ะ ว่าเขารู้เบอร์ และรู้จักเราหรือ ถึงให้เครดิตเราขนาดนั้น เขาก็บอกประมาณว่ามีการสืบข้อมูลสืบค้น...(จำเหตุผลเขาไม่ได้ พูดเร็วฟังไม่ชัด แต่พอฟังออกว่าเขาบอกที่มาที่ไปออกมา)
ตอนนั้นก็งงอีก แต่ก็ฟังต่อว่าเขาจะพูดอะไรต่อ เสียงในโทรศัพท์ทำนองเชิญชวน แล้วจะขอข้อมูลอะไรเราบางอย่างด้วย เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นเวลาที่เราจะไปติดต่อสมัครเข้าไปฝากเงินเป็นลูกค้า
อ้อๆ.. นึกออกบอกอย่าง เขาบอกว่า ให้ฝากเงินไว้ในบัญชี อย่างน้อย....( จำไม่ได้อีก แหะๆ แต่ดูเหมือนไม่มากนะ แค่หลักร้อย หรือหลักพันนี่แหล่ะ)
ตอนนั้นไม่ได้นึกว่าไม่ไว้ใจ หรือว่าพวกเขาเป็นแก๊งค์ต้นตุ๋นหรอก เพราะว่าเสียงพูดฟังดูดีมาก เหตุผลที่ตอบคำถามเราก็คล่องแคล่วไม่ติดขัด เพียงแต่ตนเองขี้เกียจเป็นลูกค้าหลายธนาคาร แล้วเป็นคนประเภทไม่ชอบกู้หนี้ยืมสินติดหนี้ใคร ก็เลยบิกปฏิเธเขาไป ขอยุติการสนทนา
เขาก็ตื้ออีกนะ อ้างเงินจำนวนแสนที่ให้กู้ได้ในราคาดอกเบื้ยต่ำ คงไม่มีที่ไหนให้กู้แบบนี้ ตอนนั้นพอฟังก็ชักรำคาญ เลยบอกเขาไปอย่างน้ำเสียงสุภาพว่า
" ขอโทษจริงๆนะคะ คือไม่รู้จะกู้ยืมเงินไปทำไม เพราะไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร ไม่มีโครงการจะใช้เงินในช่วงนี้น่ะค่ะ"
เขาก็เลยอึ้ง สุดท้ายก็วางสาย
กำลังอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมธนาคารมีการสุ่มให้คนกู้ด้วยวิธีนี้ด้วยหรือ แล้วถ้านี่เป็นแก๊งค์ต้มตุ๋น ประเภทที่มีคนมาติดต่อให้ทำธุรกรรมทางการเงินถึงที่ ( เหมือนนายหน้าประกันชีวิต) แล้วเกิดสุ่มเจอคนที่กำลังต้องการใช้เงิน.. มันก็น่ากลัวเหมือนกันนะ
ประมาณว่า ข้อมูลที่ขอทางโทรศัพท์คือ ชื่อจริงและที่อยู่ ที่ทำงาน ที่จะให้มีพนักงานไปทำเรื่องติดต่อให้... น่ากลัวค่ะ น่ากลัว *O*
แต่ถ้าคิดในทางที่ดี บางทีก็อาจจะมีธนาคารจริงๆก็ได้ และนี่เป็นวิธีทางการตลาดชนิดหนึ่งของทางธนาคาร
อย่างไรก็ตาม ท่านที่เจอกับเรื่องแบบนี้ ทางที่ดี ก็คงต้องระวังตัวดีๆ สืบข้อมูลให้ละเอียด ป้องกันตัวไว้ดีที่สุด
มีอะไรก็เอามาเล่าสู่กันฟัง แลกเปลี่ยนกัน ดีเหมือนกันค่ะ เพื่อว่าจะเป็นประสยการณ์ให้ฉุกคิดเตือนใจ เมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นเหมือนกันว่าสมควรทำอย่างไร และระวังตัวอย่างไรบ้าง
ขอบคุณมากค่ะ ที่คุณ wwibul จุดประเด็นนี้ขึ้นและนำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง
สวัสดีค่ะคุณ wwibul
ขอบคุณค่ะ