เพลงยาว : ภาพสะท้อนความสัมพันธ์ของภาษาและวัฒนธรรม


กลอนเพลงยาวนั้นก็เป็นอีกหนึ่งประเภทวรรณกรรมที่มีการคัดสรรใช้คำให้เหมาะสมเพื่อให้สื่อความหมายได้ชัดเจน

เพลงยาว : ภาพสะท้อนความสัมพันธ์ของภาษาและวัฒนธรรม               

นายมนตรี  วงษ์รักษ์ 

                                                                                กระดาษน้อยแทนปากฝากมาถาม     

ว่าป่วยไข้เป็นอย่างไรใคร่รู้ความ                      หรือโฉมงามเคืองขัดหัถยา

แต่ก่อนนี้เคยได้พบประสบพักตร์                   เคยถามทักเสสรวลชวรหรรษา

ไฉนกลับห่างเหินไม่เมินมา                             หรือหวงหน้าหวงตัวกลัวหยิบยืม

เหมือนกระต่ายหมายแขเที่ยวแลหลง             แสงเพ็ญส่งมาสักน้อยก็พลอยปลื้ม

เคยสัญญาว่าอย่างไรไม่รู้ลืม                              ยิ่งดูดดื่มเสน่หานึกอาวรณ์

ขวดน้อยใสน้ำใส่เหมือนใจพี่                           เมื่อได้ยลมารศรีดวงสมร

อีกขวดขุ่นมองเห็นเป็นตะกอน                       หมือนอกพี่เมื่อเจ้าจรไปลับตา

เพียงสังเกตก็พอรู้อยู่ว่ารัก                                 อกจะหักเสียด้วยเสน่หา

อันแพรเลี่ยนเตียนดอกขอบอกมา                   เหมือนอุราเรียมที่ว่างอ้างว้างเอย

(สี่แผ่นดิน,127)               

                          บทกลอนข้างต้นเป็นบทกลอนประเภทหนึ่งที่เรียกว่า เพลงยาว เพลงยาวเป็นการเขียนจดหมายประเภทหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากจดหมายโดยทั่วไป เพราะเป็นการเขียนด้วยร้อยกรอง คือการเขียนในรูปแบบของกลอน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อสื่อความรู้สึกนึกคิดได้อย่างดี โดยเป็นลักษณะเฉพาะตัวประการหนึ่งของวัฒนธรรมไทย ความหมายและลักษณะของเพลงยาว                เพลงยาว ในสมัยสุโขทัยจะหมายรวมถึงคำประพันธ์ทุกประเภท ต่อมาในสมัยอยุธยาตอนต้นมีความหมายแคบลงเหลือเพียงความหมายของกลอนจดหมายเหตุ และกลอนนิราศ ซึ่งต่างเป็นการบันทึกเรื่องราวที่ได้ประสบ โดยหลักฐานของเพลงยาวที่ปรากฏพบ และเก่าแก่ที่สุดคือ เพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา และกลอนเพลงยาวสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ก็ได้มีการนำความหมายของเพลงยาวมาใช้ในความหมายของ จดหมายรัก หรือจดหมายเพื่อแสดงความในใจของตนให้อีกฝ่ายได้ทราบ โดยกวีที่โดดเด่นเรื่องการแต่งกลอนเพลงยาวคือสุนทรภู่ และบุษบาท่าเรือจ้าง               

                           ลักษณะของเพลงยาวจะคล้ายกับกลอนแปดมาก แต่มีลักษณะเด่นอยู่ 2 ประการคือ การขึ้นต้นบทด้วยวรรครับ และในบทสุดท้ายจะลงด้วยคำว่าเอย และนิยมใช้คำเป็นลงท้ายวรรคเพื่อให้เกิดความไพเราะ ส่วนฉันทลักษณ์ของกลอนเพลงยาวก็ใช้รูปแบบเดียวกันกับกลอนแปด  

วัฒนธรรมกับภาษา               

                         วัฒนธรรมคือลักษณะที่เป็นแบบแผนในการดำรงชีวิตที่พึงปรารถนา ที่ถูกสร้างขึ้นมาและถ่ายทอดจากอดีตสู่ปัจจุบัน โดยผ่านเครื่องมือที่เป็นสัญลักษณ์หรือสิ่งประดิษฐ์ เช่น ภาษาและศิลปะ และมีลักษณะพิเศษแตกต่างออกไปในแต่ละสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ระบบคิด ระบบทางสังคม ขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีการดำรงชีพ ศาสนาและความเชื่อ ตลอดจนประสบการณ์ร่วมและภาษา                 ภาษาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น อาจอธิบายได้ว่า ภาษาเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสารกันภายในหมู่สังคม เพื่อให้เกิดความเข้าใจและรับรู้ตรงกัน ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าภาษาเกิดมาพร้อมๆ กับวัฒนธรรม และมีการเจริญงอกงามพัฒนาการเรื่อยมาจนมีรูปแบบที่เฉพาะตัวในแต่ละประเทศ ในประเทศไทย ภาษาไทยก็มีประวัติการใช้มายาวนาน และมีรูปแบบที่เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ที่เด่นมากเรื่องหนึ่งคือเรื่องของวรรณกรรม โดยเฉพาะเรื่องของร้อยกรอง เพราะร้อยกรองนั้นมีรูปแบบฉันทลักษณ์ ที่แน่นอนตายตัว เพราะเราให้ความสำคัญในเรื่องของการใช้ภาษามาก ดังจะเห็นได้ชัดเจนจากเรื่องของคำราชาศัพท์ คำสุภาพ และคำพูดทั่วไป ซึ่งคำเหล่านี้จะถูกคัดสรรมาอย่างดีในการประพันธ์วรรณกรรมสักเรื่อง เพื่อที่จะสามารถสื่อความหมายได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น                

                         กลอนเพลงยาวนั้นก็เป็นอีกหนึ่งประเภทวรรณกรรมที่มีการคัดสรรใช้คำให้เหมาะสมเพื่อให้สื่อความหมายได้ชัดเจน และหากเราศึกษาลงไปในตัวเพลงยาวแล้ว จะพบว่านอกจากความหมายที่ต้องการสื่อออกมาแล้วนั้น เราสามารถพบลักษณะทางวัฒนธรรมได้จากเพลงยาวอีกด้วย ซึ่งเราสามารถแยกวิเคราะห์เป็นประเด็นได้ ดังต่อไปนี้                

- เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ  ลักษณะของสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติที่ปรากฏในกลอนเพลงยาวนั้น เป็นเครื่องชี้แสดงให้เห็นถึงลักษณะทางธรรมชาติและทัศนคติต่อธรรมชาติ

ตัวอย่างบทประพันธ์               

จะปิดกั้นควันไฟไว้ได้ฤา                   เมื่อปลายมือก็จะเพราะอยู่โหน่งเหน่ง               

ฝนตกคางคกก็สบเพลง                      อึ่งอ่างก็จะเก่งขึ้นเต้นปลิว

(สำนวนเก่า)

การวิเคราะห์        จากบทกลอนที่ขีดเส้นใต้จะพบคำสำคัญคือ คางคก อึ่งอ่าง ฝน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติของสัตว์สองชนิดนี้ ที่จะออกมาร้องหาคู่ ในช่วงฤดูฝน ซึ่งเราสามารถวิเคราะห์ได้ถึงสภาพแวดล้อมในสังคมที่มีสัตว์ประเภทนี้อาศัยอยู่                 

- เกี่ยวกับระบบคิด  ระบบคิดที่ปรากฏมักเป็นเรื่องของค่านิยม การมองผู้หญิงที่เปรียบกับสิ่งสวยงามในธรรมชาติ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความคิดและจินตนาการของกวี

ตัวอย่างบทประพันธ์               

ดวงพักตร์งามวิลาศเมื่อผาดผิน                        หมดมลทินไร้ไฝฝ้าราคีหมอง               

นาสาดั่งแสงขอหล่อจำลอง                               เนตรน้องดั่งนิลจักเจียระไน

(สำนวนเก่า)

การวิเคราะห์        จากบทกลอนจะเห็นได้ว่าระบบคิดเรื่องการมองผู้หญิงของกวีซึ่งเป็นตัวแทนของคนในสังคม จะมีค่านิยมในการเลือกผู้หญิงว่าอย่างไรจึงสวย ว่าต้องมีหน้าใส จมูกงุ้ม หรือมีตาที่เป็นประกาย โดยได้นำไปสัมพันธ์กับลักษณะใกล้ตัวที่เห็นได้ชัดเช่น ขอสับช้าง หรือนิล ซึ่งเป็นของที่พบได้ง่ายในสมัยก่อน                

-  เกี่ยวกับระบบทางสังคม  ลักษณะที่ปรากฏ จะสะท้อนให้เห็นถึงหน้าที่ของบุคคลในสังคมในระบบต่างๆ เช่น ระบบชนชั้น ระบบอาวุโส เป็นต้น

ตัวอย่างบทประพันธ์               

ด้วยเป็นเชื้อขัติยามหาศักดิ์                ว่าจงรักที่อาลัยให้ขนาง               

หมือนเมฆากับพื้นสุธาทาง             สุดจะอ้างเอื้อมหมายประมาณไกล

(สำนวนเก่า)

การวิเคราะห์        จากบทกลอนข้างต้น แสดงให้เห็นว่าเป็นสังคมที่มีการแบ่งแยกชนชั้น ซึ่งจะพบว่าระบบทางสังคมมีอิทธิพลอย่างมากในสังคม แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน ตรงคำว่าเมฆากับพื้นสุธาทาง โดยเป็นการอุปมาถึงความห่างไกลและแตกต่างที่ชัดเจนที่สุด เพราะเมฆอยู่บนฟ้า กับถนนบนพื้นดินมีความห่างไกลกันมาก                

-  เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณี  ในเรื่องของขนบธรรมเนียมประเพณีนั้น ปรากฏให้เห็นอยู่มาก เพราะเรื่องวัฒนธรรมที่ใกล้ตัว และพบได้ในตลอดช่วงอายุของคน

ตัวอย่างบทประพันธ์               

เมื่อยามหนาวคราวน้องขึ้นพระบาท               ใจจะขาดเสียด้วยร้างภิรมย์ขวัญ               

แสนละห้อยคอยหาร่ำจาบัลย์                            นับวันคอยวันถวิลเชย

(เจ้าฟ้ากุ้ง,ธรรมาธิเบศร์)

การวิเคราะห์        จะพบประเพณีอย่างหนึ่งคือ การไปมนัสการรอยพระพุทธบาทในช่วงเวลากฐิน คือฤดูหนาว ซึ่งหากอนุมานจากผู้แต่ง และศึกษาประเพณีโบรารณจะพบว่าพระมหากษัตริย์จะต้องเสร็จไปนมัสการรอยพระพุทธบาท พร้อมกับกับเหล่าขุนนาง และนางในทั้งหลาย                

-  เกี่ยวกับวิถีการดำรงชีพ  มักจะแสดงถึงเรื่องราวธรรมดาสามัญที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เครื่องนุ่งห่ม อาชีพ ข้าวของเครื่องใช้ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป

ตัวอย่างบทประพันธ์                                                                                               

คิดถึงแพรเลี่ยนแล้วเสียดายเหลือ                เป็นฝีมือของหม่อมย้อมมะเกลือ                    

ได้ห่มสนิทแนบเนื้อมานมนาน                เจ้าแล่งเพลาะเลาะให้เมื่อไปทัพ                     

อุตส่าห์หอบหิ้วกลับมาถึงบ้าน

(สำนวนเก่า)

การวิเคราะห์        จากบทกลอนจะพบสิ่งของอย่างหนึ่งคือ ผ้าแพรเลี่ยนหรือผ้าซาติน ซึ่งมีกรรมวิธีการทำโดยการย้อมมะเกลือเพื่อให้ได้สีดำซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิธีการย้อมผ้าเพื่อให้ได้สีต่างๆ ในสมัยนั้น นอกจากนี้ยังมีการนำมาแล่งเพลาะ (การต่อผ้าสองชิ้นเข้าด้วยกัน) เพื่อทำให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อสะดวกแก่การใช้งาน  และน่าจะมีน้ำหนักเบา ง่ายต่อการพกพา                

-  เกี่ยวกับศาสนาและความเชื่อ  อาจถือได้ว่าเป็นเรื่องที่มีการใช้ และสะท้อนออกมาได้มากที่สุดของเพลงยาว เพราะมักพูดถึงเรื่องของบุพเพสันนิวาส หรือบุญกรรม และเทพเทวดา

ตัวอย่างบทประพันธ์               

พี่หมายน้องดุจปองปาริชาติ์                              มณฑาไทเทวราชในสวนสวรรค์               

หากนิเวศน์ศิวาลัยสิไกลกัน                              จะไฝ่ฝันเด็ดดอกฟ้าสุมามาลย์

(สำนวนเก่า)               

อย่าเสียแรงที่มุ่งบำรุงรัก                                    มาดสมัครหมายสมานพิศไสม               

ได้เห็นหน้าแล้วจะลาชีวาไลย                          จะอวยโอษฐ์ให้อโหสิกรรมกัน

(เจ้าฟ้ากุ้ง,ธรรมาธิเบศร์)

การวิเคราะห์        จากบทกลอนทั้งสอง ในตัวอย่างแรกจะกล่าวถึงความเชื่อเรื่องนรกสวรรค์ และเทพเจ้าที่เข้ามาพร้อมกับศาสนาฮินดูและวัฒนธรรมอินเดีย ที่มีอิทธิพลอย่างมากในสังคมไทย ส่วนในตัวอย่างที่สองจะพบเรื่องของบุญกรรม ที่เป็นอิทธิพลมาจากพระพุทธ ศาสนา อันเป็นศาสนาประจำชาติ เป็นเรื่องที่คนไทยให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก     

- เกี่ยวกับภาษาเก่า ภาษาที่ปรากฏในกลอนเพลงยาวนั้นค่อนข้างมาก เนื่องจากเพลงยาวเป็นลักษณะทางวรรณกรรมที่ปรากฏในสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์เป็นส่วนมาก ภาษาที่ใช้จึงมักปรากฏเป็นภาษาเก่า ที่เขียนไว้ในสมุดไทย และปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลง หรือไม่ใช้คำศัพท์แล้ว

ตัวอย่างบทประพันธ์               

อันสาราบำราศบำรุงคิด                                      จาฤกไว้โดยสุจริตสาร               

พยายามตามสัตย์ปัติญาณ                                  ภอแจ้งการที่กำม์ในกายเอย

(เจ้าฟ้ากุ้ง,ธรรมาธิเบศร์)

การวิเคราะห์        จากบทกลอน จะพบคำศัพท์ว่า จาฤก ภอ  กำม์อันเป็นภาษาเก่าที่เขียนไว้ในสมุดไทย ซึ่งเป็นผลงานเจ้าฟ้ากุ้ง ในสมัยอยุธยา ซึ่งเราจะสามารถพบการเขียนแบบนี้ได้ในสมัยโบราณเท่านั้น

โดยปัจจุบัน       จาฤก                  เขียนว่า                  จารึก                                                               

ภอ                      เขียนว่า                  พอ                                                               

กำม์                     เขียนว่า                  กรรม 

สารัตถะบท               

                                จากตัวอย่างและการวิเคราะห์ที่ผ่านมา สามารถสรุปได้ว่าการใช้ภาษาในเพลงยาว นอกจากเพื่อสื่อความหมายแล้ว ยังสามารถสะท้อนวัฒนธรรมด้านต่างๆ ได้ โดยที่แฝงอยู่ในการเปรียบเทียบอุปมา จึงอาจกล่าวได้ว่าภาษาและวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่สัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น เพราะภาษาเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างบุคคลในสังคม ตลอดจนใช้ถ่ายทอดวัฒนธรรม ภาษาที่ใช้แต่งคำประพันธ์จึงมีอิทธิพลจากวัฒนธรรมเข้ามามีส่วนร่วมในการถ่ายทอดเพื่อให้เกิดภาพของความหมายที่ชัดเจน ภาษาและวัฒนธรรมจึงมีความสัมพันธ์กันอย่างเหนียวแน่น โดยที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้อย่างสมบูรณ์      

เอกสารอ้างอิง

นิตยา  กาญจนะวรรณ. วรรณกรรมอยุธยา. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์รามคำแหง. 2545

นิตยา  บุญสิงห์. วัฒนธรรมไทย. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์พัฒนาศึกษา. 2544

ประชุมเพลงยาว ฉบับหอสมุดแห่งชาติ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์คลังวิทยา. 2507

ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 .กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คพลับลิเคชั่นส์. 2544วั

นเนาว์  ยูเด็น. การศึกษาเรื่องกลอน. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์อักษรเจริญทัศน์. 2532

ศิลปากร, กรม. วรรณกรรมอยุธยาตอนต้น เล่ม 2. กรุงเทพฯ . 2540

อัญชลี  สิงห์น้อย. ภาษาและวัฒนธรรม. เอกสารประกอบการสอนรายวิชาภาษาและวัฒนธรรม

http://www.sk.ac.th/club

http://www.google.co.th

หมายเลขบันทึก: 73666เขียนเมื่อ 20 มกราคม 2007 22:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 18:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มาจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ก้ออออ ดี จะดีทำรายงาน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท