ความเข้าใจในเรื่องอุปสรรค


ปลาที่จะปล่อยตัวให้ลอยไปตามน้ำ ก็มีแต่ปลาตายเท่านั้น ส่วนปลาเป็น ปลาที่ยังมีชีวิตอยู่ มันจะว่ายทวนน้ำเสมอ

ดิฉันชอบอ่านหนังสือโบราณหลายเล่ม ที่ประพันธ์โดย หลวงวิจิตรวาทการ อย่างเรื่อง "กำลังใจ" ซึ่งพิมพ์ซ้ำหลายครั้ง  นับตั้งแต่ดิฉันยังไม่เกิด คือตั้งแต่ พ.ศ. 2493 อ่านแล้วชุ่มชื่นหัวใจดี  ดิฉันขอหยิบยกมาบางตอน เพื่อเป็นกำลังใจแก่คนสู้งาน สู้ Blog กันอย่างหัวปักหัวปำทั้งหลาย ตอนหนึ่ง ดังนี้นะค่ะ......

เมื่อ 20 ปีมาแล้ว  ข้าพเจ้าลงเรือเดินทางในลำแม่น้ำโขง ได้สังเกตเห็นภาพที่แปลกใจที่สุด และไม่เข้าใจในเวลานั้นภาพหนึ่ง คือเมื่อเรือแล่นเข้าไปใกล้ฝั่งได้เห็นคนชาวบ้านถือสวิงอันเล็กๆ มานั่งอยู่ที่หินซึ่งยื่นลงมาในแม่น้ำ นั่งตักปลาด้วยสวิงนั้น วิธีตักของเขา คือตักไปตามน้ำ  ข้าพเจ้าไม่เข้าใจว่าเขาจะตักปลาได้อย่างไร  ข้าพเจ้าคิดในเวลานั้น ว่าถ้าเป็นข้าพเจ้าจะตักทวนน้ำและจะได้ปลา  เมื่อได้เห็นในครั้งแรกๆ ก็ไม่ค่อยสนใจ แต่เมื่อเดินทางไปหลายวันก็ได้เห็นทุกวัน  เห็นคนใช้สวิงเล็กตักไปตามน้ำเหมือนกันทุกแห่ง  ความอยากรู้อยากเข้าใจได้บังเกิดขึ้น  จึงถามคนพื้นเมืองที่ไปด้วยกันว่าทำไมเขาตักอย่างนั้น  ข้าพเจ้าได้รับตอบว่า  เพราะปลาว่ายทวนน้ำ  การที่จะตักปลาให้ได้จึงต้องตักไปตามน้ำ เพื่อให้สวนกับปลาที่ว่ายทวนน้ำขึ้นมา

คราวนี้ข้าพเจ้าก็เกิดความสงสัยว่า  ทำไมปลาจึงว่ายทวนน้ำทุกหนทุกแห่ง  เหตุไฉนไม่ว่ายตามน้ำ ซึ่งสบายกว่าและไม่เหนื่อยแรง ถามผู้รู้ก็ได้รับคำอธิบายอย่างแจ่มแจ้ง ว่าการที่ปลาจะได้อาหารนั้น  ปลาจำเป็นต้องว่ายทวนน้ำ เพราะอาหารย่อมลอยมาตามน้ำ ถ้าปลาว่ายตามน้ำไปเสียด้วย  ก็จะไม่ได้อาหารเลย  ยิ่งกว่านั้น  ถ้าปลามีธรรมชาติว่ายตามน้ำ  ปลาในลำแม่น้ำจะสูญพันธุ์  ปลาน้ำจืดจะไม่มีในโลกนี้  เพราะในที่สุดมันจะออกทะเลไปหมด

ต่อมาข้าพเจ้าได้พบในหนังสือของ แซมมูเอล สไมล์ ว่า ปลาที่จะปล่อยตัวให้ลอยไปตามน้ำ ก็มีแต่ปลาตายเท่านั้น  ส่วนปลาเป็น ปลาที่ยังมีชีวิตอยู่  มันจะว่ายทวนน้ำเสมอ

ข้าพเจ้าได้รับความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง  ว่าธรรมชาติได้สร้างทั้งมนุษย์และสัตว์ให้ต่อสู้อุปสรรค  ให้ออกแรงทำความมานะพยายาม  ถ้ามิฉะนั้นก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้  ปลาต้องว่ายทวนน้ำ  จึงจะหาอาหารได้  มนุษย์เราก็ควรจะเป็นเช่นเดียวกัน  เราจะมีชีวิตอยู่ได้  ก่อร่างสร้างฐานะของเราได้  จะหล่อหลอมอนาคตขึ้นได้  เราจำต้องเผชิญกับอุปสรรค  ชีวิตที่ไม่เคยเผชิญกับอุปสรรคจะไม่มีความก้าวหน้าแม้แต่อย่างหนึ่งอย่างใด  ว่าวที่จะขึ้นสูงได้  ก็เพราะมันต้านลม  ยิ่งต้องต้านลมแรงมันก็ยิ่งสูงขึ้น  ว่าวที่จะปลิวไปตามลมนั้น ก็คือว่าวที่ขาดลอยซึ่งจะไปตกที่ไหนก็ไม่รู้  แต่ว่าวที่ยังมีสายป่านดึงรั้งอยู่มันจะสูงขึ้นได้ด้วยการต้านลม  ถ้าหมดลม ว่าวก็จะตก

ชีวิตของมนุษย์เราก็เช่นเดียวกัน  ขอให้เรามีโอกาสได้พบอุปสรรคมากๆ  ขอให้เรามีโอกาสเผชิญภัยมากๆ เราจะสูงขึ้น  แต่ถ้าเราไม่เคยพบอุปสรรค ไม่เคยเผชิญความทุกข์ยาก  ไม่เคยผจญภัย  เราจะไม่มีความก้าวหน้าอย่างหนึ่งอย่างใด  อุปสรรคนั้นคือเทพบุตรที่แปลงตัวเป็นมารร้าย  เทพบุตรก็เห็นว่าเราไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกปล่อยให้ตายเสียดีกว่า  แต่ถ้าเราสู้  เทพบุตรนั้นก็จะสำแดงร่างที่แท้จริง  และช่วยเราให้ประสบความสำเร็จ  ให้ประสบความก้าวหน้า  ฉะนั้น  เราจึงควรจะถือว่าอุปสรรคไม่ใช่ตัวมารร้าย  แต่เป็นเทพบุตรจำแลง  จำแลงมาด้วยความตั้งใจดีต่อเรา  จำแลงมาเพื่อทดลองเราหรือสอนให้เราต่อสู้  และเมื่อเราต่อสู้แล้ว  เทพบุตรก็จะให้รางวัลแก่เรา............

อ่านแล้ว ขอให้มีกำลังใจ Blog กันต่อไป  ทำงานกันต่อไป นะค่ะ  สู้..สู้..

 

คำสำคัญ (Tags): #กำลังใจ#อุปสรรค
หมายเลขบันทึก: 7357เขียนเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2005 22:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 พฤษภาคม 2012 20:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)
ได้อ่าน Blog ของอาจารย์แล้วมีกำลังใจในการสู้ชีวิตเพิ่มขึ้นครับ
   ผมอ่านครั้งแรกเหมือนกับว่า ท่านอาจารย์มาลินีจะสอนให้มีกำลังใจเอาชนะอุปสรรคในการทำงาน (ซึ่งก็คงเป็นเช่นนั้นด้วย) แต่สุดท้ายก็เฉลยมาว่า "จงช่วยกันเขียนบันทึก" ลงบล็อกของตัวเองกันต่อไปครับ (เพราะว่าชาวมน.หายหน้าไปหลายคนแล้ว ผมยังคิดถึงทุกคนอยู่นะครับ..ชักเหงาแล้ว)

ปกติแม้จะติดตามอ่าน Blog คุณบอยเสมอ  แต่ก็ไม่ค่อยจะได้คุยหรือตอบคุณบอยผ่าน Blog บ่อยนัก เพราะเป็นคนใกล้ตัวมาก  เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าเชียร์กันเอง

แต่วันนี้ขอยกเว้นสักวัน เพราะเกรงว่า หากวางท่ามากนัก อาจทำให้เข้าใจผิดได้  ว่าไม่เคยสนใจเลยหรืออย่างไร

เป็นไปไม่ได้แน่นอนค่ะ  ดิฉันจะให้ความสำคัญกับคนใกล้ตัวก่อนเสมอ  ทั้งคนในครอบครัว และคนในที่ทำงาน นอกนั้นค่อยว่ากันอีกที

หากข้อเขียนนี้ทำให้คุณบอย และท่านผู้อ่านมีกำลังใจมากขึ้นเท่าใด  ก็จะยิ่งส่งผลให้ดิฉันมีกำลังใจที่จะเขียนมากยิ่งขึ้นนับเท่าทวีคูณ ขอบคุณมากค่ะที่ติดตามอ่าน

 

นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์
ขอขอบคุณอาจารย์และสมาชิก NUKM ทุกท่าน เรื่องนี้อ่านแล้วได้ข้อคิดดีมากครับ ผมเชื่อว่า การที่สังคมใดสังคมหนึ่งยังอยู่รอดได้ทั้งๆ ที่มีเรื่องร้ายๆ มากมายนั้น__ส่วนหนึ่งเกิดจากการมี "ปลาว่ายทวนน้ำ" หรือ "ว่าวที่ยังต้านลม" เหลืออยู่

เป็นแรงบันดาลใจที่ดีเลยล่ะค่ะสำหรับคนที่ยังเจออุปสรรคอยู่จะได้มีกำลังใจสู้ต่อไปไงคะ.............

ขอเป็นส่วนหนึ่งของปลาที่ยังมีชีวิตอยู่......

ตามมาอ่านแล้วค่ะ อาจารย์ ตัวเองก็ชอบหนังสือของหลวงวิจิตรวาทการค่ะ หามาอ่านหมดเลยตั้งแต่ครั้งยังวัยรุ่นมากๆ สงสัยต้องหวนกลับไปอ่านอีกที เพื่อเปรียบเทียบกับความคิดตัวเองสมัยนั้นด้วยค่ะ

ขอบคุณอาจารย์มากค่ะที่กรุณาแวะไปเยี่ยมเยียนและชี้แนะ ยินดีเข้าร่วมชุมนุมของชาว มน.ค่ะ (จริงๆ มีความรู้สึกประทับใจกับอาจารย์มน.ที่กำลังไปเรียนต่ออยู่ที่ออสเตรเลียมาก่อนแล้วด้วยนะคะ นี่)

ขอขอบคุณอาจารย์มากเลยนะคะ ตั้งแต่ได้เข้าร่วมเสวนากันครั้งนั้นทำให้ดรีม มีกำลังใจ มากขึ้น

ขอบคุณที่เป็นแรงผลักดันให้กับคนที่ท้อแท้นะคะ

ขอบคุณครับ อ่านแล้วนึกถึงเรื่องปลาฉลามของชาวประมงญี่ปุ่น

มาดูรายชื่อคนแสดงความคิดเห็น .. ทำไมมีแต่คนไม่ login .. เหลือบดูพ.ศ. โห ตั้งแต่ 2548

ท่านผู้เอากระทู้นี้ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำ นับว่ามีความสามารถใน "ขุด" อย่างแท้จริง 

เป็นบันทึกที่อ่านแล้วได้พลังในการต่อสู้อุปสรรคที่ผมเจอในวันนี้มากเลยครับ ขอขอบคุณอาจารย์ที่กรุณานำเรื่องดีๆ มาเล่าครับ

บันทึกแนะนำ มีประโยชน์อย่างนี้เอง ขอขอบคุณคุณ คุณ conductor คนที่ดิฉันเข้าใจว่าเป็น "นักขุด" นั่นเอง

ขอให้พลังความคิดดีของทุกท่าน สามารถต่อสู้เอาชนะอุปสรรคขัดขวางทั้งปวงได้ทั้งวันนี้และทุกวัน...ตลอดไป...

พอเข้าใจครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท