วันนี้สอนนักศึกษาเอกวัฒนธรรมศึกษา วาดเส้นโบราณสถาน จากภาพวิหารลายคำวัดพระสิงห์ พอเริ่มต้นยังไม่ทันได้สอนนักศึกษาหลายคนอุทานว่า "เอาอีกแล้ว"
ได้ยินจึงแกล้งนิ่งเหมือนกับไม่ได้ยิน จึงพูดยกแม่น้ำทั้งห้า ในเรื่องสิ่งที่ใกล้ตัวกับวิชาชีพของนักศึกษา จบมาแล้วจะไปเจอกับอะไรบ้าง ความทุกข์ทนต่อการเรียนในวันนี้ อาจจะเป็นความสุขแบบกระหยิ่มในวันข้างหน้า ว่าเรื่องพรรค์นี้เราเคยทำมาแล้วตอนที่เรียนอยู่
พอเริ่มให้เขียนภาพ หลายคนนั่งนิ่งอีก และบอกว่า จะเริ่มต้นอย่างไรดีอาจารย์ และหลายคนก็เริ่มเขียนไปได้ (เพราะได้สาธิตและให้หลักการมาแล้ว)
พอเห็นลูกศิษย์หลายคนนั่งนิ่งอยู่ จึงหยิบชอล์กที่เป็นอุปกรณ์การสอนที่ใกล้ตัวและดีที่สุดสำหรับผมในชั่วโมงนี้ และเริ่มสาธิตการเขียนภาพวิหารลายคำวัดพระสิงห์บนกระดานด้วยชอล์ก ให้นักศึกษาดู
ไม่เกิน ๑๐ นาทีเขียนเสร็จ(ไม่ได้ขี้โม้) แล้วสังเกตเห็นนักศึกษาที่นั่งนิ่ง ๆ อยู่เริ่มเขียน จึงเดินสอดส่ายหานักศึกษา(หญิง)เจ้าของเสียงที่มีเสียงมาในครั้งแรก จึงเห็นว่ายังเขียนเส้นได้ ๔ เส้น จึงถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง
"ไม่รู้จะเขียนอย่างไรอาจารย์" เป็นคำพูดเดิมที่ได้ยินในครั้งแรก
"อะไรบ้างที่เราเป็นมาตั้งแต่เกิด"
"การเขียนภาพไม่ได้เกิดจากการอ่านเพียงอย่างเดียว มันขึ้นอยู่กับหลักการที่เกิดจากฝึกฝนอดทนในการเขียน"
"หากเราไม่คิด ไม่ฝึกเขียนภาพ คอยแต่จะเรียนในชั้นเรียน ก็อาจจะทำให้เกิดการท้อแท้ แก้ปัญหาไม่เป็น หรือเริ่มต้นและลงท้ายอย่างไร"
"การฝึกเขียนจากภาพ ไม่ถือว่าเป็นการลอกแบบ ไม่สนับสนุนให้นักศึกษาลอกภาพจากกระดาษคาร์บอน"
อีกหลายคำพูดที่พยายามให้นักศึกษาที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนภาพมาก่อน ได้โอนอ่อนผ่อนคลายความเครียด (หรือเพิ่มความเครียดให้นักศึกษาก็ไม่ทราบ)
จุดประสงค์ในวันนี้ จึงอยู่ที่ให้นักศึกษาวิชาเอกวัฒนธรรมศึกษาได้ฝึกเขียนภาพจากภาพโบราณสถาน เพื่อจะไปเขียนในสถานที่จริงในโอกาสต่อไป และด้วยอุปกรณ์การสอน(ชอล์ก)ที่ผู้สอนบางท่านปฏิเสธไปแล้วในโลกของการเรียนการสอน
จึงจบเรื่องเล่าในวันนี้ จากการขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องยาขึ่น (ยาสูบประเภทฉุนจัด)
เป็นแนวการสอนที่ดีครับ
ฝึกทักษะในการใช้มือ
ชม.ต่อไป ทดลองให้ปั้นดินน้ำมันรูปสัตว์ดูบ้างก็ได้ครับ หัวข้อ "สัตว์ที่เธอชอบ"
ผมเคยสอนเด็กวัฒนธรรมนี่แหละ
พอปั้นเสร็จ มาส่งผมถามว่า นี่เธอ ปั้นรูปสัตว์อะไรนี่?
เด็กตอบผมว่า...รูปสัตว์ปลาดครับ
ผมเลยให้ B+ ฐานมีความคิดสร้างสรรค์
แล้วเขกหัวไปหนึ่งที