คุณลองมากินเองซิคร้าบ


ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเวรออกตรวจผู้ป่วยในของผมพอดี  ซึ่งจะผู้ป่วยรายหนึ่งเป็นผู้ป่วยหญิงอายุประมาณ 50 ปี วินิจฉัยเป็นโรคมะเร็งตับหรือมะเร็งแพร่กระจายมาตับ ( ซึ่งวินิจฉัยจากการตรวจโดยคลื่นเสียงความถี่สูงที่ตับ) และมาโรงพยาบาลด้วยไม่รู้สึกตัวมา ตรวจพบว่าเกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ผู้ป่วยต้องได้น้ำเกลือแบบมีความเข้มข้นของน้ำตาล 10 % ตลอด แพทยืที่ดูแลก่อนหน้าผม เลยสั่งน้ำหวาน 250 ซีซี ทาน เช้ากลางวันเย็น ก่อนนอน และเพิ่มเที่ยงคืนและหกโมงเช้า

ช่วงที่ผมไปดูคนไข้ ญาติก็จะบอกว่าคนไข้ไม่ค่อยอยากทานน้ำหวาน ผมก็บอกว่า ทานเหอะจะได้ไม่ต้องให้น้ำเกลือ กลับไปบ้านจะได้ดูแลแบบนี้แหละ

แต่เมื่อมาทบทวนอีกที ไอ้น้ำหวานที่คนไข้กินมันทำมาจากอะไร ถามพยาบาลได้ว่าคือ เอา Hale's blue boy มาผสมให้ทาน

คิดต่อ ผสมอย่างไร สัดส่วนเท่าไหร่ อร่อยไหม พยาบาลไม่รู้ แต่บอกต้องแช่เย็นจึงจะอร่อย ไม่แช่รสชาติไม่ดี ผมจึงถามโรงครัว

โรงครัว ผสมน้ำหวาน 1 ส่วน น้ำธรรมดา 2 ส่วน  (ข้างขวดเขียนให้ผสมน้ำหวาน 1 ส่วน น้ำธรรมดา 4 ส่วน จะได้น้ำตาลเข้มข้น 13% ) แล้วHale's BB เป็นน้ำตาลแบบไหนล่ะ 555 ไม่รู้ครับ (ว่างๆจะโทรไปถามสักหน่อย)

ผมจึงลองทาน 50% กลูโคส ที่ใช้ในทางการแพทย์ ก็หวานดีไม่มีรสหรือกลิ่น ทานHale's BB แบบเพียว หวานแบบแสบคอเลยครับ ลองผสมแบบ 1:1 รสหวาน่าจะพอๆกับ 50% กลูโคสที่ทานตอนแรก แต่มีกลิ่นสละ

ประมาณได้ว่าผมทานน้ำหวานรวมกันประมาณ 100 ซีซีได้ ซักพักเริ่มคลื่นไส้เล็กน้อยครับ! เออ..เรากินแค่นี้ยังเป็น คนไข้ทำไมไม่เป็นวะเนี่ย

สรุปวันนี้ผมเลยสั่งใหม่ทานน้ำหวานแบบผสม 1:1 เป็นมื้ออาหารว่าง และก่อนนอน จาก 250 ซีซี เหลือ 100 ซีซี

ผลเป็นอย่างไร ผู้ป่วยรู้สึกอย่างไร จะนำมารายงานให้ทราบครับ ( แต่น่าจะรู้สึกดีกว่าเดิมนะครับ )

คำสำคัญ (Tags): #ใจเขาใจเรา
หมายเลขบันทึก: 73493เขียนเมื่อ 19 มกราคม 2007 17:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม 2012 19:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ฟังคุณหมอเล่าให้ฟังแล้ว นี่แหละคุณหมอพัฒนาตัวจริงครับปรับปรุงการรักษาให้เข้ากับปัจุบันทันด่วนของโรคไม่ใช้เบสิคเดิมๆที่เคยทำมาต่อๆกันยังไงผมคนหนึ่งที่เอาใจช่วยคุณหมอให้ช่วยผู้ป่วยได้เยอะๆและสำเร็จในทุก Case ที่เป็นคนใข้ของคุณหมอครับ

พอดีทำงานเสร็จก้อเลยได้(แอบ)เข้ามาอ่านนิดนึงค่ะ เห็นหัวข้อดีมานโดนมากเลยค่ะ เพราะว่านึกสงสัยอยู่ว่าให้ผู้ป่วยกินน้ำหวาน เพื่ออะไร ก้อเลยได้อ้อ...อย่างนี้นี่เองหรือหายสงสัยแล้วค่ะ......แต่คุณหมดก็ช่างดีจังค่ะ เพราะถ้าเป็นหมอบางท่านเค้าก้อจะไม่ค่อยสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท