บันทึก (บางส่วน) จากการฟังบรรยายของ Prof.Ikujiro Nonaka ในเวทีนวัตกรรม ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)
สรุปได้ว่า องค์กรที่ทำงานบนฐานความรู้ ควรมีวิธีทำงาน 4 ขั้นตอนดังนี้
มีวิสัยทัศน์ โดยตั้งคำถาม เช่น What do we exist for?
มีกระบวนการขับเคลื่อน เชื่อมโยง ผลักดันให้วิสัยทัศน์เป็นจริง ทำให้ วิสัยทัศน์ dialogue และ practice ไปด้วยกันได้ สอดคล้องกัน
Dialogue ว่าทำไมเราต้องทำอย่างนั้น เพื่อหาวิธีปฏิบัติให้บรรลุวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้
ลงมือทำ (Practice)
ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นได้ดีบนพื้นที่ที่มีการแลกเปลี่ยนที่ดี กัลยาณมิตร ไม่เคร่งเครียด
Prof. Nonaka ยกตัวอย่างองค์กรที่ทำงานตามหลักการนี้ มาหลายองค์กร แต่จะขอกล่าวถึงในวันนี้เพียงองค์กรเดียวคือ สวนสัตว์ Asahiyama ซึ่งไม่มีสัตว์แปลกหรือหายาก ที่จะดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยว ทำให้มีจำนวนผู้เข้าชมลดลงมาตลอดจนถึงปี 1996 มีผู้เข้าชมน้อยจนเกือบต้องปิดให้บริการ แต่เมื่อเปลี่ยนวิธีการทำงาน ก็ทำให้มีจำนวนผู้เข้าชมในปี 2004 มากถึง 1,450,000 คน และขึ้นเป็นสวนสัตว์ที่มีผู้เข้าชมมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น
คำถามคือ เพราะอะไร
คำตอบคือ เพราะเขาทำงานบนฐานความรู้นั่นเอง
โดยผู้ดูแลสวนสัตว์ และผู้ที่เกี่ยวข้องเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า
สวนสัตว์มีไว้เพื่ออะไร
เราจำเป็นต้องทำอะไรเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของสวนสัตว์บ้าง
เราต้องการให้สัตว์ของเราแสดงความสามารถหรือสื่อสารอะไรบ้าง
ถ้าอย่างนั้นสัตว์ของเราต้องทำอะไรบ้าง
เมื่อทบทวนกันแล้วและได้คำตอบว่า สวนสัตว์มีไว้เพื่อการพักผ่อน การศึกษา การอนุรักษ์ธรรมชาติและการวิจัยและเรียนรู้
ก็ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน จน Asahiyama กลายเป็นสวนสัตว์ที่ผู้เข้าชมจะได้พบกับวิถีชีวิตของสัตว์ ตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย (สวนสัตว์มักจะแยกสัตว์ป่วยหรือเพิ่งเกิดไว้ต่างหาก แต่ที่นี่เปิดให้ดูทุกขั้นตอน) และเพิ่มกิจกรรมที่ใกล้ชิดสัตว์ให้มากขึ้น เช่น penguin walk ในฤดูหนาว
เพียงเท่านี้ สวนสัตว์ Asahiyama ก็ประสบความสำเร็จในการทำงาน
สุดท้ายก่อนจบการบรรยาย Prof.Nonaka ย้ำว่า การจัดการความรู้เป็นวิถีชีวิต เป็นการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันแม้จะคิดเห็นแตกต่างกัน แต่ให้ใช้ประโยชน์จากความแตกต่างนั้น มาทำให้เป็นความรู้ใหม่ๆ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
ภาพประกอบจากเว็บไซต์ของ ก.พ.ร.
อ้อม สคส.