ช่วงนี้ ยังพอเห็นสะตอขายอยู่ไม่น้อย
สะตอนี่เป็นเอกลักษณ์ของคนใต้
ชาติอื่นเขามี สะตอ"เบอร์รี่ (berry)"
ชาติไทย ก็มี สะตอ"นัท (nut)"
เป็น"ผลไม้"ที่เชิดหน้าชูตาได้ ว่าถ้าซื้อไปฝากใคร แสดงว่ามาภาคใต้ - ของแท้ ออริจินัลอย่างแรงเลยนั่น
เรื่องแปลกแต่จริงก็คือ น้อยคนจะได้ทานสะตอสุก
สะตอเมื่อสุก จะเห็นฝักดำเกรียม ดูมะเมื่อม น่าเกรงขามนัก
แต่เมื่อลอกเปลือกสีดำออก จะเห็นส่วนเยื่อหุ้มเมล็ด ซึ่งปรกติเป็นสีขาว เปลี่ยนสีไปเป็นสีเหลืองทอง และมีความฟูนุ่ม และเยื่อหุ้มนี้ มีรสหวานมัน และหอมน่าทานมาก
ที่มาของคำว่า "ดำแต่นอกในแผ้ว ผ่องเนื้อ นพคุณ" หากบอกว่าผู้คิดวลีนี้ได้แรงบันดาลใจจากการเห็นสะตอสุก ผมก็เชื่อไว้ก่อนสนิทใจ
เรียกว่า "สุวรรณสะตอ" ก็คงไม่ผิดเท่าไหร่
สะตอสุกเนื้อหวาน ทานกับข้าวได้โดยไม่ต้องใช้น้ำพริกหรือบูดูเป็นน้ำจิ้มด้วยซ้ำ
ข้อสำคัญ ต้องเป็นการสุกคาต้น ไม่ใช่สุกบ่ม
เมื่อก่อน สะตอสุก หาทานยาก
เดี๋ยวนี้ ยิ่งหาทานยากหนักเข้าไปอีก
คนค้าคนขาย เขาไม่หามาขาย เพราะคนไม่ทาน ไม่มีอุปสงค์ ก็ไม่มีอุปทาน
ที่พอเห็นอยู่บ้าง มักเป็นสะตอเหลือค้างสต็อกเหี่ยวคาตะกร้า เปลี่ยนจากเปลือกเขียวเป็นเหี่ยวดำ ซึ่งจะมีความเหนียวเหมือนยางหนังสะติ๊ก ซึ่งเปลือกดำนั้นก็ดำอยู่ แต่ข้างในนั้น กลับ"ไม่ใช่"ของดีอันใด
สะตอสุกของแท้ จึงเป็นอาหารประเภท "หากบุญปากไม่ถึง จะไม่มีโอกาสได้ทาน"
เป็นรสนิยมอันหรูละมุนในการทานอาหารใต้
ใครเส้นไม่ใหญ่ คงไม่มีโอกาสหามาทาน
ส่วนหนึ่งเพราะถ้าสุกแล้วจะเก็บได้ไม่นาน แถมไม่มีคนซื้อเพราะทานไม่เป็น ทำให้ชาวสวนต้องเก็บของดีไว้กินเอง
สะตอสุกเป็น "ของดีที่โลกลืม"
เขียนถึงเรื่องนี้ให้คนอ่านน้ำลายไหลเล่น
ปีนี้..คุณได้ทานสะตอสุกหรือยัง ?
ขอขอบคุณอาจารย์ wwibul...
ขออภัยอาจารย์ wwibul...
โปรดคลิกที่นี่...
ขออภัยอีกครั้งหนึ่ง...
ดังนั้น...
ที่ผ่านมาถูกกรอกหูอยู่ตลอดว่า "มีแต่คนใต้ จึงจะสามัคคีกินสะตอ"
ประโยคนี้ ยังเป็นจริงเหรอนี่
และ
สะตอแท้ไม่มีพรมแดน
โอ..ไม่จริงแล้วสินะ
ผมนึกว่าจะได้ฝากวลีอมตะไว้ซะหน่อย อดเลย..
ขอขอบคุณ คุณเมตตา
"ผลไม้"ตามฤดูกาลที่ว่ามานี้ ผมเองก็ไม่ค่อยมีโอกาสทานสุก ส่วนใหญ่จะเป็นคนรู้จักที่เขาปลูกไว้ มีใจระลึกถึง ติดมือมาเป็นของชำร่วย ซึ่งก็ไม่ได้ทานบ่อยเหมือนกัน
ที่ยกเรื่องนี้มาพูด เพราะคิดว่า เผื่อทำให้รื้อฟื้นวัฒนธรรมโบราณบริโภคในท้องถิ่น จะได้หาซื้อได้ง่ายขึ้น
ขอขอบคุณ คุณรัตติยา เขียวแป้น
พูดยังกับผมเป็นคนดังแน่ะ..."ได้เจอตัวเป็น ๆ แล้ว เฮ !"
ปรกติเวลาเขา"แอบสืบหาลับ ๆ มานาน"นี่ มักจะทำให้คนที่โดนสืบหานี่ "รู้แล้วสะดุ้ง"นะครับ..เพราะไม่แน่ใจว่า"ข้อหา"อะไร..
"อาทิตย์นี้ กลับบ้าน ที่สวน ถ้ามีโอกาสได้เจอสะตอสุก เหมือนที่อาจารย์เล่า จะนำมาฝากทางบันทึกนะคะ"
ฝากทางบันทึก ก็ขอบคุณล่วงหน้าทางบันทึกนะครับ
กุศลเจตนา ได้แต่กินทางใจแล้ว
(เอ..ฟังดูแหม่ง ๆ เนาะ นึกถึงเวลาเขาเซ่นจ้าวยังไงก้ไม่รู้)
แต่ถ้าจะเปลี่ยนใจ ไม่ฝากมาทางบันทึก ผมจะรอด้วยความยินดีครับ..
ยินดีเจอสะตอสุกแบบ "ตัวเป็น ๆ" ครับ
ขอขอบคุณคุณครูปวีณา ธิติวรนันท์