จุมเรียบซัว(สวัสดี)กัมพูชา ตอน ๑๑


                        

ท่านพระสา แอมเล่าให้พระเขมรฟังว่า เมืองไทยมีผู้บริจาคเลือดขาประจำ พระเขมรสนใจกันมาก ฝากถามผู้เขียนว่า บริจาคแล้วเป็นอย่างไร เพลียมากไหม เล่าเรียนไปด้วยบริจาคด้วยจะไหวไหม

  • ผู้เขียนเรียนท่านพระสา แอมว่า ผู้บริจาคเลือดในเมืองไทยส่วนใหญ่ไม่ใช่คนรูปร่างใหญ่โต หรือแข็งแรงอะไรเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่เป็นคนรูปร่างปานกลาง หนัก 45 กิโลกรัมขึ้นไป

ภาพที่ 1: สนามและกุฏิในวัดเวฬุวัน พนมเปญ... โปรดสังเกตหน้าดินที่บางมาก บริเวณใดที่หน้าดินบางมากๆ มักจะทำการเกษตรได้ไม่ค่อยดี เสี่ยงต่อการเกิดป่าเสื่อมโทรม (กรณีเป็นป่า) และทะเลทราย...

เรื่องบริจาคไปด้วยเรียนไปด้วยนี่... ไม่น่าห่วง เพราะผู้บริจาคไทยส่วนใหญ่เป็นนิสิต นักศึกษา ท่านเหล่านี้เรียนไปบริจาคเลือดไปทั้งนั้น

  • ก่อนบริจาคเลือด... ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากมาย ให้กินน้ำมากหน่อย สังเกตสีปัสสาวะให้มีสีจาง หรือมองไม่เห็นสีก่อนบริจาคสัก 1 วัน เพื่อป้องกันเป็นลม หลังบริจาค.... ให้ดื่มน้ำมากหน่อยไปอีก 2 วัน เพื่อป้องกันเป็นลมเช่นเดียวกัน

คนเขมรมีธรรมเนียมที่ดีมากอย่างหนึ่งคือ เมื่อพบคนอื่นทำความดีจะขอส่วนบุญ... การขอส่วนบุญแบบนี้มีข้อดีหลายอย่าง

  • อย่างแรกคือ ผู้ให้จะได้บุญเพิ่มขึ้นจากการให้ส่วนบุญ (ปัตติทาน) ส่วนผู้รับจะได้อนุโมทนาบุญ (อนุโมทนาทาน) เลยได้บุญเพิ่มไปทั้งสองฝ่าย

คุณอาของผู้เขียน (พ.อ.ธงชัย – คุณนิตยา แสงรัตน์) สนับสนุนการแปล และพิมพ์พระไตรปิฎก อรรถกถา และตำราพระพุทธศาสนาเป็นภาษาเขมร

  • อาจารย์สาเรนเป็นกัปปิยะ หรือเป็นคนจัดการเรื่องเงินให้ท่านพระสา แอมตอนไปเรียนที่วัดท่ามะโอ เมื่อพบกันครั้งรแกนั้น... ท่านได้ให้ส่วนบุญจากการบวชมา 10 ปีเศษให้ผู้เขียนได้อนุโมทนาสาธุ (ต่อมาท่านสึกจากชี เพราะสุขภาพไม่ค่อยดี ขอพักยกไปกินข้าวเย็นสักพัก...)

ตอนนั้นผู้เขียนกล่าวกับอาจารย์สาเรนว่า ขอให้ส่วนบุญจากการบริจาคเลือดเป็นการตอบแทน ให้กันไป... ให้กันมาแบบนี้ดี เพราะได้บุญเพิ่มขึ้นทั้งสองฝ่าย

  • พระภิกษุรูปหนึ่งเป็นผู้ช่วยแพทย์มาก่อน ท่านรับหน้าที่ดูแลพระภิกษุสามเณรในวัด พาไปชมห้องพยาบาลของวัด ที่นั่นมีหยูกยามากมาย

ภาพที่ 2: รถลากหน้าโรงแรมที่ปอยเปต

ภาพที่ 3: โรงพยาบาลเอกชนที่พระตระบอง โปรดสังเกตว่า มีรถพยาบาลจอดพร้อมบริการด้วย

ภาพที่ 4: คลินิกชานเมืองพนมเปญ

ภาพที่ 5: โรงพยาบาลเอกชนในตัวเมืองพนมเปญ

ภาพที่ 6: ป้ายด้านหน้าคลินิกทันตกรรม (หมอฟัน) โปรดสังเกตธงแดงมีดาวของเวียดนาม ท่านนายกรัฐมนตรีเวียดนามเดินทางไปกัมพูชา มีการปิดถนนหลายสาย ทำให้รถติดทีเดียว

    เชิญอ่าน:

    เชิญอ่าน:

  • บันทึกย้อนหลังบน Gotoknow ย้อนหลังได้... โดยเลือกจากปฏิทินกิจกรรมด้านขวามือของบล็อก
  • บ้านสุขภาพ > http://gotoknow.org/blog/health2you
หมายเลขบันทึก: 73435เขียนเมื่อ 19 มกราคม 2007 13:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:45 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
  • สวัสดีอ.หมอค่ะ มีพี่ที่หนูนับถือเค้าบริจาคเลือดไปแล้ว 102 ครั้งแล้ว ขณะนี้อายุ 44ปี และบริจาคดวงตาและร่างกาย ให้แพทย์ มน.ด้วยค่ะ
  • แต่ตัวหนูมีจิต อยากจะบริจาคโลหิตบ้างแต่ไม่ได้สักครั้ง เนื่องจากพบว่าเลือดจางทุกครั้งแม้ว่าจะเตรียมพร้อมอย่างไร ก็ไม่ประสพผลสำเร็จ
  • ขณะนี้คุณหมอที่ มน. ตรวจสุขภาพประจำปีให้กำลังหาสาเหตุว่าจะเป็นธารัสคีเมีย
  • คุณหมอ พอจะแนะนำการดูแลตัวเองอย่างไรเป็นวิทยาทานให้หนูหน่อยนะคะ ขอขอบพระคุณคะ

                    สุวรรณา

ขอขอบคุณอาจารย์สุวรรณา และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ก่อนอื่นขออนุโมทนากับพี่ของอาจารย์ที่บริจาคเลือดได้ถึง 102 ครั้ง บริจาคอวัยวะ  และร่างกาย... สาธุ สาธุ สาธุ

บริจาคเลือดไม่ได้...

  • เท่าที่ทราบ... ผู้บริจาค 40% ขาดธาตุเหล็ก ทำให้เลือดจาง บริจาคไม่ได้
  • สาเหตุอื่นๆ เช่น เป็นโรคเลือดจางพันธุกรรม (ธาลัสซีเมีย) มีโรคติดต่อ ฯลฯ

ถ้าเป็นธาลัสซีเมีย...

  • ควรตรวจเลือดยืนยันว่า เป็นโรคนี้จริง
  • โรคนี้ทำให้ร่างกายสร้างฮีโมโกลบิน หรือเม็ดสีแดงในเม็ดเลือดแดงผิดปกติ ทำให้เม็ดเลือดแดงผิดปกติตามไปด้วย ม้าม (+/- ตับ) เลยจับเม็ดเลือดแดงไปทำลายซ้ำซาก

คนที่เป็นธาลัสซีเมีย...

  • ส่วนใหญ่มีธาตุเหล็กมากเกิน เนื่องจากลำไส้จะดูดซึมธาตุเหล็กชดเชยที่เลือดจาง จึงไม่ควรกินยาบำรุงเลือด หรือวิตะมินที่มีธาตุเหล็ก ยกเว้นตรวจเลือดพบว่า ขาดธาตุเหล็ก
  • อาหารที่ไม่ควรกินมากคือ อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ตับ เลือดหมู เลือดไก่ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแพะ เนื้อแกะ

เนื้อแดง...

  • เนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น วัว ควาย หมู แพะ แกะ ฯลฯ มีธาตุเหล็กมากกว่าเนื้อขาว เช่น ไก่ เป็ด ห่าน ปลา ฯลฯ > ไม่ควรกินมากเกิน
  • การกินวิตะมินบีให้เพียงพอ โดยเฉพาะกรดโฟลิค (folic acid) อาจช่วยให้ระดับเลือดเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย

ห้องสมุด...

  • ห้องสมุดน่าจะลองจัดกิจกรรมบริจาคเลือดเป็นประจำ เช่น ทุกเดือน ฯลฯ
  • ทำกิจกรรมเชิญชวนอาจารย์ บุคลากร นิสิต นักศึกษาหมุนเวียนกันบริจาค
  • นิสิตนักศึกษาเป็นแหล่งบริจาคเลือดใหญ่ และเป็นแหล่งเลือดที่มีคุณภาพสูง เนื่องจากนิสิตนักศึกษาส่วนใหญ่มีความรู้ดี รู้จักป้องกันโรคติดต่อ
  • ใช้ที่ห้องสมุด โดยติดต่อคลังเลือดที่ยินดีออกหน่วย เช่น รพ.พุทธชินราช ฯลฯ

ขอให้อาจารย์มีความสุข ความเจริญ มีสุขภาพดี มีแรง มีกำลังไว้ทำความดีไปนานๆ ครับ...

  • ผมเคยบริจาคเลือดมาแล้ว 13 ครั้ง ครับ
  • แต่หยุดบริจาคมาแล้วประมาณ 10 ปี เพราะ 3 ครั้งหลังรู้สึกเพลียและจะเป็นลมครับ
  • วิเคราะห์ในเบื้องต้น เป็นเพราะว่าผมไม่เจียมตัวครับ  ออกกำลังตอนเช้าและบริจาคเลือดตอนสายครับ เลยออกอาการคล้ายๆ จะเป็นลม ตั้งแต่นั้นมาก็เลยหยุด(ช่วงนั้นผมก็ไม่ทานเนื้อสัตว์ด้วย)
  • ไม่ได้เตรียมตัวเหมือนคุณหมอบอกเลย ครบ 3 เดือนวันไหนก็บริจาควันนั้น ไม่ได้สังเกตความพร้อมของร่างกายก่อนเลย
  • ตอนนี้ก็เลยไม่ได้บริจาคอีกเลยครับ เลยได้บทเรียนไม่ควรทำอะไรที่ตึงเกินไป
  • ขอบพระคุณมากครับ

ขอขอบคุณอาจารย์สิงห์ป่าสัก...

  • ก่อนอื่น... ขออนุโมทนาในกุศลเจตนาของอาจารย์ที่บริจาคเลือดได้ถึง 13 ครั้ง... สาธุ สาธุ สาธุ

เท่าที่ทราบ...

  • โอกาสเป็นลมช่วงบริจาคเลือดขึ้นอยู่กับ...
  • (1). ภาวะขาดน้ำ... คำแนะนำที่คลังเลือด มช. ท่านว่า ถ้าดื่มน้ำ 2 แก้วก่อนบริจาค โอกาสเป็นลมจะลดลง 50%
  • (2). นอน... ถ้านอนไม่พอ นอนไม่หลับ หลับๆ ตื่นๆ จะมีโอกาสเป็นลมเพิ่มขึ้น โดยทั่วไปควรนอนอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนบริจาค
  • (3). การเปลี่ยนท่า... ถ้าบริจาคแล้วไม่นอนพักสักครู่ (3-5 นาที) ลุกทันที มีโอกาสเป็นลมสูง
  • (4). อายุ... อายุน้อยมีโอกาสเป็นลมน้อยกว่าอายุมาก
  • (5). ความแข็งแรง... คนที่ออกกำลังน้อยเกินมีโอกาสเป็นลมมากกว่าคนที่ออกกำลังเป็นประจำ
  • (6). ไม่สบาย... ถ้าเป็นหวัดไปบริจาคเข้าจะเป็นลมง่าย

วิธีง่ายๆ มีอย่างนี้ครับ...

  • (1). ตั้งใจบริจาคใหม่... เริ่มเดือนนี้ สัปดาห์นี้ หรือวันนี้เลย
  • (2). ดื่มน้ำให้มากพอ... ให้ปัสสาวะมีสีจาง หรือมองไม่เห็นสี 1 วันก่อนบริจาค
  • (3). กินยาบำรุงเลือดที่มีธาตุเหล็ก ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร ให้ได้ 15 เม็ดต่อรอบบริจาคเลือด (ผู้ชาย) หรือ 30 เม็ดต่อรอบบริจาคเลือด (ผู้หญิง)
  • (4). หลังบริจาคให้ขยับเท้า และขา... พลิกไปพลิกมา เหยียดและงอข้อเท้าบ่อยๆ เพื่อให้เลือดจากขาไหลกลับสู่ลำตัว และหัวใจ
  • (5). หลังบริจาคให้นั่งสักครู่ก่อนยืน... แกว่งขาท่อนล่างไปมาสักพัก เพื่อให้เลือดจากขาไหลกลับลำตัว และหัวใจ
  • (6). ถ้ารู้สึกหน้ามืด... ให้นั่งยองๆ ลงทันที แล้วลุกขึ้นช้าๆ จะลดโอกาสเป็นลม

ท่านที่ทานเนื้อน้อย หรือไม่ทาน เช่น มังสวิรัติ ฯลฯ...

  • เรียนเสนอให้ทานยาบำรุงเลือดที่มีธาตุเหล็กเสริม เช่น FBC, Ferli-6 ฯลฯ
  • ผู้ชาย 15 เม็ดต่อรอบบริจาคเลือด เช่น 3 เดือน ฯลฯ
  • ผู้หญิง 30 เม็ดต่อรอบบริจาคเลือด

เรียนเชิญอาจารย์กลับไปบริจาคเลือดใหม่อีกครับ...

  • บุญกุศลอย่างนี้ไม่ใช่ว่า จะทำได้ง่ายๆ
  • บริจาคแล้ว เรียนเสนอให้ถวายบุญนี้บูชาพระพุทธเจ้า (ถวายที่พระเจดีย์ พระธาตุ หรือพระพุทธรูป)
  • ขอขอบคุณในคำแนะนำของคุณหมอ นะคะ
  • ตอนนี้คุณหมอรักษาโดยให้ธาตุเหล็ก
  • เจาะเลือดตามหมอนัดดูความเข้มข้น
  • ติดตามอาการไปเรื่อย
  • เฮ้อ เริ่มท้อแล้วค่ะ
  • จะเจออะไรอีกน้า..................................

ขอขอบคุณอาจารย์สุวรรณา และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • อย่าเพิ่งท้อครับ...
  • การที่อาจารย์หมอท่านให้ธาตุเหล็กเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะอาจเป็นโรคเลือดจางจากการขาดธาตุเหล็ก (หายได้) หรือเลือดจางธาลัสซีเมียที่ขาดธาตุเหล็กร่วมด้วย (เมื่อทานแล้วจะรู้สึกแข็งแรงขึ้น)

เรียนเสนอให้หอสมุด มน. จัดกิจกรรมรับบริจาคเลือดเป็นประจำ...

  • รับรองได้บุญเพียบเลย

ขอให้อาจารย์มีความสุข ความเจริญ มีสุขภาพดี มีแรง มีกำลังไว้ทำความดีไปนานๆ ครับ...

  • สวัสดีค่ะคุณหมอ ขอขอบพระคุณ คุณหมอมากนะคะ ในคำแนะนำที่ดีนะคะ
  • พี่ๆ น้อง สำนักหอสมุดหลายคนมีจิต ที่บริจาคโลหิตกันหลายคนทีเดียว บางครั้งมีเหตุพร้อมใจกันไป สุดท้ายก็ไม่ได้บริจาค
  • กำลังจะคุยกับพี่ ที่เค้าชอบบริจาค ค่ะ เรื่องทำโครงการบริจาคโลหิตค่ะด้วยยังติดเรื่องขนย้าย หอสมุดใหม่ ก็จะลองเสนอโครงการกับพี่เค้าให้พี่เค้าเป็นตัวแรงสนับสนุนให้อีกครั้งหนึงค่ะ
  • ขอบพระคุณ คุณหมอมากนะคะ

              สุวรรณา

ขอขอบคุณอาจารย์สุวรรณา และท่านผู้อ่านทุกท่าน... // การรณรงค์บริจาคเลือดนี่... เป็นเรื่องบุญเรื่องกุศลที่หอสมุดน่าจะรีบช่วงชิงให้ได้... เพราะถ้ามีหน่วยงานอื่นเป็น "เจ้าภาพ" ก่อนจะช่วงชิงกลับมาได้ยากมาก... // นอกจากนั้นแล้ว หอสมุดน่าจะรีบจัดทำ "ห้องสมุด e-library" ให้ได้ เช่น มีชุดสอนภาษาต่างๆ (เช่น ภาษาอังกฤษ ฯลฯ) มีแผ่นเสียง วิดีทัศน์ MP3 ที่ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ ฯลฯ ให้บริการพร้อมมีคอมพิวเตอร์ และหูฟังให้ฟัง // ผมเพิ่งไปแม่สายมา (20 มกราคม 50) ที่นั่นมีแผ่นเพลงโมซาร์ต 30-50 บาท ทำในจีน เพลงที่ว่านี้มีการวิจัยว่า เพิ่มคะแนนสอบนิสิตได้ 10% ทีเดียว
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท